April 28, 2024   12:51:06 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ได้เวลาเก็บหุ้นTOP-RRC
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 12/10/2006 @ 11:01:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.00020 .00020

รีบช้อน TOP และ RRC รับไตรมาส 4 ค่ากลั่นยืน 8 เหรียญต่อบาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันในอเมริกา และยุโรป ปิดซ่อมบำรุง และชะลอการผลิต บล.กิมเอ็ง ฟันธงควอเตอร์สุดท้ายไทยออยล์ โกยกำไร 4 พันล้านบาท

หุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยองจำกัด (มหาชน) หรือ RRC น่าเก็บ เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ค่าการกลั่นเฉลี่ยจะอยู่ในระดับ 6-8 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ที่อยู่ 3-4 เหรียญต่อบาร์เรลเพราะโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐอเมริกา และแถบยุโรปจะหยุดซ่อมบำรุง ขณะที่บางแห่งจะชะลอกำลังการผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิต หลังค่าการกลั่นอยู่ในระดับต่ำ

แหล่งข่าวจากวงการพลังงาน เปิดเผยกับข่าวหุ้นธุรกิจว่า มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงไตรมาส 4 ค่าการกลั่นเฉลี่ยจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเห็นได้จากขณะนี้ค่ากลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 4-5 เหรียญต่อบาร์เรล มาอยู่ 7 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นในอเมริกา และแถบยุโรป ต่างทยอยปิดซ่อมบำรุง และชะลอการผลิต ขณะเดียวกันยังเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้มีการสำรองน้ำมันไว้ใช้ค่อนข้างมาก

ค่าการกลั่นของ TOP และ RRC จะโดดเด่นที่สุด เมื่อเทียบกับ BCP โดยในช่วงไตรมาส 3 ค่ากลั่นของ TOP จะอยู่ 4.24 เหรียญต่อบาร์เรล และจะขึ้นไปสู่ 8 เหรียญต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาส 4 ส่วน RRC ค่ากลั่นในไตรมาสสุดท้ายจะอยู่ 6-7 เหรียญต่อบาร์เรล หลังได้ปัจจัยต่างๆหนุน อาทิ โรงกลั่นอเมริกา และยุโรป หยุดซ่อมบำรุง ทำให้มีกำลังการผลิตรวมเพียง 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันแหล่งข่าว กล่าว

ด้านนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST แนะนำซื้อหุ้น TOP ราคาเป้าหมาย 77 บาทเนื่องจากในช่วงไตรมาสสุดท้าย TOP อาจมีกำไรสุทธิประมาณ 4,030 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.98 บาท เพราะค่าการกลั่นเฉลี่ยของ TOP จะอยู่ในระดับ 8.52เหรียญต่อบาร์เรล

หลังมีความต้องการใช้น้ำมันค่อนข้างมาก เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว แม้ว่าในวันที่ 7-31 ต.ค.49 บริษัทจะหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น CDU-1 จำนวน 25 วัน เพื่อบำรุงรักษาหน่วยกลั่นให้มีประสิทธิภาพ และคุณภาพการผลิตอยู่ในระดับสูงก็ตาม เนื่องจากการหยุดซ่อมครั้งนี้จะไม่กระทบกับรายได้และกำไรของบริษัท เพราะได้วางแผนการผลิต และเก็บสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายในช่วงดังกล่าวแล้ว

โดยคาดว่าทั้งปี 49 TOP จะมีกำไรสุทธิประมาณ 18,019 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 8.83 บาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 18,753 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 9.19 บาท และมีรายได้ประมาณ 243,935 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 249,111 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังแนะนำซื้อลงทุนหุ้น RRC ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท เนื่องจากไตรมาส 4 ค่าการกลั่นจะขึ้นมาสู่ระดับ 6-7 เหรียญต่อบาร์เรล เพราะความต้องการน้ำมันมีมากขึ้น และการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นที่มีต้นทุนสูง ขณะที่ทั้งปี 49 บริษัทอาจมีกำไรสุทธิประมาณ 9,336 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 3.26 บาท และมีรายได้รวมประมาณ183,767 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด แนะนำซื้อหุ้น RRC ราคาเป้าหมาย 25บาท เนื่องจากค่ากลั่นในไตรมาส 4 จะฟื้นตัว แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3 บริษัทอาจมีกำไรสุทธิประมาณ 1,083 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.35 บาท ลดลงจากไตรมาส 2ที่ผ่านมาประมาณ 70% และลดลง 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะค่ากลั่นจะอยู่ในระดับ 3.88 เหรียญต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับในไตรมาส 2 ที่ค่ากลั่นอยู่ที่ 10.6 เหรียญต่อบาร์เรล



ข่าวหุ้น

^_^

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com