April 27, 2024   7:02:08 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นรถใต้ดิน
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 17/10/2006 @ 10:39:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.0007 .0007 .0007


คุณ บันเทิง จาก อ.ลำลูกกา ปทุมธานี ถามมาว่า ซื้อหุ้น BMCL เอาไว้ตั้งแต่จองจ้องจะขายตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ ก้ยังขายไม่ได้ เพราะ ไม่เคยพ้นราคาจองเลยถามใครก็บอกว่า ซื้อผิดตัว เพราะรถไฟฟ้ายังจะขาดทุนอีกนาน ต้องถือยาว แต่ทีนี้ก็คิดไม่ตกว่า จะถือยาวอย่างที่เขาแนะนำดี หรือ จะขายทิ้ง เพราะอยากจะไปหาหุ้นตัวอื่นๆที่กำไรดีกว่า

หุ้น BMCL เป็นหุ้นที่เข้าเทรดในตลาดผิดจังหวะ แต่เมื่อพิจารณาถึงผลประกอบการแล้ว ถือว่าไม่หุ้นที่ขี้เหร่อะไรเลยครับ ถึงแม้ว่าโดยผลประกอบการยังขาดทุนต่อไป

หากคุณเข้าใจทฤษฎีการขนส่งมวลชน จะเข้าใจดีว่า ธุรกิจขนส่งมวลชนนั้น เป็นธุรกิจพิเศษ ที่มีการลงทุนสูง และมีผลตอบแทนค่อนข้างช้า ดังนั้น ตลาดหุ้นทุกแห่งก็เลยให้สิทธิพิเศษ เข้าเทรดในตลาดโดยไม่ต้องรอให้กำไร

ดังนั้น การที่นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว จึงต้องถือว่าเป็นการซื้ออนาคต จะใจร้อนเหมือนหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นๆไม่ได้หรอกครับ ต้องใจเย็นๆ

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งของขนส่งมวลชนที่ไหนก็เหมือนกันในโลกนี้คือ ตอนแรกผู้โดยสารจะยังไม่มาก แต่ในระยะยาวจะแน่นขึ้นเรื่อยๆ และมีกำไรมากขึ้น เพราะผู้ใช่บริการจะหนีจากสภาพรถติดมหาศาล หันมาใช้บริการที่สะดวก แม่นยำ ตรงเวลา และปลอดภัยมากกว่า

รถไฟฟ้าใต้ดินที่ BMCL บริหารอยู่นี้ หากเทียบคุณภาพแล้ว ถือว่า ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อาจจะเป็นรองก็รถ MAGLEV ที่วิ่งระหว่างสนามบินเซี่ยงไฮ้กับใจกลางเมืองเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกที่จำนวนคนโดยสารจะใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ

สำนักงานของ ข่าวหุ้นธุรกิจ เองก็อยู่บนเส้นทางสายถนนรัชดา ผมเองไปไหนมาไหน ก็อาศัยรถไฟฟ้าใต้ดินนี่แหละครับ จะนัดใครต่อใคร ก็ต้องนัดเส้นทางที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านทั้งนั้น เพราะสะดวกมาก แถมตอนฝนตก ก็ไม่ต้องเปียกฝนอีก สบายจริงๆ

การที่ราคาหุ้นเข้าตลาดผิดจังหวะทำให้โอกาสเห็นราคาหุ้นพ้นราคาจอง จึงอาจจะยากสักหน่อย แต่เมื่อพิจารณาระยะยาว จะพบว่า กำไรของบริษัทจะขาดทุนน้อยลงไปเรื่อยๆ

ลักษณะของโอกาสทำรายได้และกำไรของบริษัทนี้ ในทางธุรกิจ ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นแบบ exponential increase หมายความว่าระยะ 2-3ปีแรกจะเพิ่มขึ้นช้าๆ ซึ่งเทียบกับต้นทุนปีต่อปี จะยังขาดทุน แต่ในระยะหลังจาก 5 ปีไปแล้วจะก้าวกระโดยเร็วมาก(เพราะคนใช้รถไฟฟ้าใต้ดินจะเสพติดง่าย และเลิกยากมาก) ในขณะที่ต้นทุนคงที่ แถมยังจะมีรายได้จากค่าโฆษณา หรือ ค่าเช่าอื่นๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กำไรเยอะขึ้นอย่างชัดเจนและในที่สุด ก็อาจจะมีกำไรสะสม ถึงตอนนั้น ราคาหุ้นจะวิ่งไปเร็วมาก (หากไม่มีการเพิ่มทุนอะไรอีก)

ปัญหาคือ นักลงทุนที่ซื้อหุ้นพวกนี้ มักจะเอาราคาหุ้นไปเทียบกับหุ้นเก็งกำไรอื่นๆเช่นพวกหุ้นการค้า หรือหุ้นก่อสร้าง ซึ่งเปรียบกันไม่ได้เลยครับ ถึงแม้ว่า กลุ่มก่อสร้างอย่างช. การช่างจะถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ต้องแยกธุรกิจออกจากกันให้ชัดครับ

คำถามของคุณ ผมว่า ขึ้นกับคุณเองจะตัดสินใจนะครับ ผมให้ข้อมูลมาเท่านี้ ตามเนื้อผ้า จะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างที่ทราบกัน ตอนที่เขาออกขายหุ้นจอง เขาก็แจ้งข้อมูลให้ทราบดีตามสมควร ปัญหาคือคุณได้อ่านหนังสือชี้ชวนซื้อหุ้นดีแค่ไหน หากอ่านรอบคอบแล้วซื้อ ก็ไม่น่าห่วง

แต่หากไม่ได้อ่าน หากซื้อเพราะนายหน้าค้าหุ้นเขาชักชวนว่าซื้อเอาไปขายวันแรกผมก็ขอย้ำว่าคุณคิดผิดมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ




.000004

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com