April 27, 2024   3:10:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบ ...กระซิบ...
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 17/10/2006 @ 12:00:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน



ที่มา : K.KRAZIP

SET Index วันจันทร์ที่ 16 ต.ค. ปิดที่ 717.11 จุด +5.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,001 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,730.10 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 456.14 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 1,273.96 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 718.88 จุด +6.83 จุด และ Low ที่ดัชนี 715.34 จุด +3.29 จุด รับบรรยากาศหุ้นขึ้นกันต่ออีกวัน (รึ..อีกกี่วันคงต้องติดตาม) เขียวใสกันมาตั้งแต่ตลาดหุ้นต่างประเทศ เม็ดเงินก็ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง เหมือนรอบนี้ตลาดพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า บวกขึ้นกันทั้งหุ้นพลังงาน หุ้นอสังหาฯ และหุ้นธนาคาร รวมถึงหุ้นสื่อสารด้วย ซื้อหุ้นใหญ่ ๆ กันรอบนี้ แต่หุ้นเล็กเก็งกำไรแรงซื้อขายก็ยังดีไม่มีตก วิ่งกันฝุ่นตลบเหมือนกัน เอ่ยถึงหุ้นตัวดี DE ควันฝุ่นที่วิ่งมายังไม่ทันจางต้องใส่เกียร์เบรคกันหน้าเกือบทิ่มเพราะโดนคำสั่งฟ้า (H) ให้พักการซื้อขายชั่วคราวตั้งแต่การซื้อขายครึ่งวันบ่ายข้อหาปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นแต่แจ้งข้อมูลไม่เรียบร้อยและมีบิ๊กล็อตเข้ามากว่า 10% ท่านพี่จึงให้พักไว้ก่อน (สงกะสัยว่าจะเรียกเรตติ้งวิ่งกันแรงไปหน่อย) เฮ้อ..อ งานนี้คงต้องลำบากนักลงทุนประเภท Day Trade กันแล้ว สุดท้ายยังดีเกือบหืดขึ้นคอยังกลับมาเทรดได้ 15 นาที่สุดท้ายก่อนปิดทำการ แต่ในช่วงทำการครึ่งวันหลังนั้นยังมีหุ้นเก็งกำไรให้เลือกจับกันได้อีกหลายตัว

PTTEP ราคาเปิด-ปิดที่ 107 บาท มูลค่าการซื้อขาย 647.53 ล้านบาท คาดว่า PTTEP จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/49 ออกมาดี แม้ว่าปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมและราคาจำหน่ายเฉลี่ยจะเพิ่มสูงขึ้น โดยปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นยังคงมาจากการเข้าซื้อหุ้นในโครงการ B8/32 & 9A (Pogo) ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 60,000 บาร์เรล/วัน และก๊าซธรรมชาติประมาณ 230 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ค่าใช้จ่ายในการผลิตและสำรวจก็ปรับสูงขึ้นตาม นอกจากนั้นค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยลบต่อรายได้และผลกำไรในไตรมาสนี้อีกด้วย ในไตรมาสนี้คาดว่าบริษัทจะมีการตัดค่าใช้จ่ายในหลุมแห้ง 1 หลุมในโครงการ M9 ในประเทศพม่าประมาณ 825 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ลดลง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมา 25% จากจุดสูงสุดในต้นเดือนสิงหาคม ราคาหุ้นของบริษัทก็ได้ปรับตัวลดลงประมาณ 15% โดยราคาหุ้นของบริษัทมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันในตลาดโลกค่อนข้างมาก ดังนั้นทิศทางราคาน้ำมันจะสามารถใช้เป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางราคาหุ้นได้ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับที่ 106 บาท แนวต้านที่ 110 บาท

KH ราคาเปิด 7.25 บาท ราคาปิด 7.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5.834 ล้านบาท คาดการณ์กำไรสุทธิใน 3Q06 จะอยู่ที่ 100 ล้านบาท เติบโต 4% จากไตรมาส 2Q06 และ79% จากช่วงเดียวกันของปี 05 เนื่องจากปกติแล้วโรงพยาบาลจะมีคนไข้มากเป็นพิเศษในไตรมาส3 จากฤดูฝนและวันหยุดทำการที่น้อย และนอกจารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่จะยกเลิกโครง 30 บาทรักษาทุกโรค โดยจะเปลี่ยนมาให้บริการฟรีทดแทนในขณะที่สิทธิยังคงเดิมแล้วนั้น ยังอาจมีการขึ้นงบประมาณรายหัวรายเดิม 1,659บาท/คนเป็น 2,089 บาท/คน ทั้งนี้กระทรวงสาธาฯต้องปรึกษาถึงแหล่งที่มาของงบประมาณกับกระทรวงการคลังด้วย ซึ่งหากมีการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวจริง จะส่งผลบวกต่อ KH อย่างชัดเจน เพราะสัดส่วนรายได้จากโครงการนี้คิดเป็น 16% ของรายได้รวม K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว เพื่อรอความชัดเจนในด้านงบประมาณสุขภาพ แนวรับ 7.20 บาท แนวต้าน 7.70 บาท

BBL ราคาเปิด - ปิด116 บาท มูลค่าการซื้อขาย 443.20 ล้านบาท ผู้บริหาร BBLกล่าวถึง...การปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดของBBLว่า โครงการบัวหลวงส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท ภาคอุตสาหกรรมที่ BBLให้การสนับสนุนได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการส่งออก การผลิตชิ้นส่วนที่ใช้ในธุรกิจรถยนต์และจักรยานยนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับผลิตผลทางการเกษตรเป็นต้น นอกจากนี้ BBLยังมีโครงการเกษตรก้าวหน้า เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรให้มีการพัฒนาผลิตผลการเกษตรโดยใช้นวัตกรรมใหม่ คาดว่าในสิ้นปีนี้จะมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจากดอกเบี้ยและเงินปันผลใน Q3/49 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยจะอยู่ที่ระดับ 19,692 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.6% QoQ และเพิ่มขึ้น 39.9% YoY ส่วนระเมินว่าสินเชื่อจะเติบโต 7% และ 7.5% ตามลำดับ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 3Q06E เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประเมินไว้ที่ 9,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% QoQ และ เพิ่มขึ้น 129.7% YoY ดังนั้น K.KRAZIP เห็นว่าหากมองถึงปัจจัยหลายๆด้านที่กล่าวมาแล้วเป็นบวกแก่หุ้น BBL จึงแนะนำ เล่นในกรอบ แนวรับที่ราคา115 บาท แนวต้านที่ราคา 119 บาท

TT&T ราคาเปิด 1.60 บาท ราคาปิด 1.58 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.93 ล้านบาท ได้ประมาณการผลประกอบการ Q3/49 ของ TT&T จะขาดทุนสุทธิ 435 ล้านบาท แย่ลงจากใน Q2/49 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 369 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 417 ล้านบาท ใน 3Q/48 คาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 1,483 ล้านบาท ลดลง 2% QoQ และลดลง 4% YoY เนื่องจากรายได้บริการเสียงยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากโปรโมชั่นโทรศัพท์มือถือ แต่ในขณะที่รายได้จากบริการบรอดแบนด์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยังไม่สามารถชดเชยรายได้จากบริการเสียงที่ลดลงได้ทัน ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการทำตลาดเชิงรุกในธุรกิจบรอดแบนด์โอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์ และให้ค่าเช่าโครงข่าย ประกอบกับ ณ ปัจจุบันหุ้น TT&T ซื้อขายเพียง 0.35 เท่า ของมูลค่าตามบัญชี K.KRAZIP ยังเห็นว่าในอนาคตแนวโน้มการเติบโตของ TT&T จะมาจากธุรกิจบรอดแบนด์ และรายได้ค่าเช่าโครงข่าย ประกอบกับ ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับ 1.58 บาท แนวต้าน 1.80 บาท
K.KRAZIP
17/10/2549


^_^




[/color:c7f6d81ba6">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com