samjin
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352 |  วันที่: 18/10/2006 @ 01:20:56 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บทสัมภาษณ์ คุณ สมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH)
บิ๊ก RICH ลั่นเศรษฐกิจชะลอ-การเมืองระส่ำไม่ระคายผิว ไตรมาส 3-4 รายได้ยังโตกว่าปีก่อน พร้อมพลิกเกมหันมุ่งเจาะเหล็ก มาร์จิ้นสูงในอุตสาหกรรมรถยนต์หวังขยายฐานลูกค้า หนุนกำไรโตแข็งแกร่งในอนาคต
สมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH) ผู้ประกอบการเหล็กแปรรูปรายใหญ่ เปิดใจกับ eFinanceThai.com ถึงการเจาะเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ จับตา! อุตฯรถยนต์สุดหิน แต่ทำไม RICH เจาะได้! แฟนหุ้นเหล็กไม่ควรพลาด
- แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/49 เป็นอย่างไร
ถ้าเทียบกับปีก่อนจะดีกว่าเล็กน้อย ปีนี้ปัจจัยลบมากกว่าแต่ในแง่ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้ว Q3 มี เรื่องราคาที่ดิ่งลง ยอดการผลิตไตรมาสสองเมื่อเทียบกับกลางปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 20%
- ทิศทางราคาเหล็กในตลาดโลกที่เริ่มอ่อนตัวลง มีผลบ้างมีผลกระทบบ้างหรือไม่
มีกระทบต่อการสั่งซื้อบ้าง โดยลูกค้ายังรอดูราคาให้ลงมาในจุดที่ต้องการสั่งซื้อ แต่ถ้าจะกระทบต่อธุรกิจนี้จริงๆ จะมาจากภาวะ เศรษฐกิจโดยรวม และราคาเหล็กในประเทศมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาก็กระทบไม่มาก
- การปฏิรูปการเมืองที่ผ่านมามีผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่
ภาพรวมเชื่อว่าไม่กระทบ เพราะความจริงคนไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ คนของเราจะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้มากกว่าเราจึงรับได้ ในขณะที่ต่างประเทศอาจยังลังเล แต่เชื่อว่า เวลานี้ความมั่นใจน่าจะกลับมาแล้ว เพราะถ้าทุกอย่างชัดเจนความเชื่อมั่นก็คงจะกลับคืนมา
ซึ่งก็ไม่น่าจะกระทบอะไรมากกับภาพรวมเศรษฐกิจ ในทางกลับกันเชื่อการการปฏิรูปทำให้ความชัดเจนเกิดเร็วขึ้น น่าจะเป็นผลดีมากกว่า
ช่วงนี้เรากลับมองว่าเป็นโอกาสในการจัดการอะไรที่เป็นอุปสรรคให้หมดไปได้ด้วย แม้ใครจะมองว่าเป็นวิกฤตแต่ผมมองว่าเป็น โอกาสด้วย เพราะว่าสามารถแก้กฎหมายอะไรที่มันไม่ชัดเจนให้ชัดเจนขึ้นได้ แต่ต้องเป็นการทำเพื่อประชาชนทุกฝ่าย เชื่อว่าจะได้รับการยอมรับ
-กับธุรกิจของ RICH กระทบหรือไม่
สำหรับ RICH ถือว่าไม่ถูกกระทบ แม้บางกลุ่มชะลอแต่เราก็ยังได้อีกกลุ่มเข้ามาช่วย เพราะสินค้าของเราครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่บ้าน โรงงาน ไปจนถึงกลุ่มยานยนต์ แต่ที่ผ่านมาสินค้าส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาเราได้เริ่มเข้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ จากเดิมที่เราไม่เคยเข้าไป เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีการกำหนดสเปคค่อนข้างสูง
ยอมรับว่าช่วงแรกก็เข้าไปยาก แต่ช่วงนี้เราทำได้ถึง 100 คะแนนเต็มจากการประเมินของซัพพลายเออร์ ซึ่งที่ผ่านมาเราไช้ช่องว่าที่ลูกค้าเก่าของซัพพลายเออร์ไม่สามารถส่งมอบงานได้ทัน แต่เราเข้าไปรองรับตรงนี้ได้ จึงทำให้ได้รับการยอมรับจากซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเข้าไปเปิดตลาดในกลุ่มนี้ได้ในที่สุด
- สองไตรมาสที่ผ่านมากับการทำตลาดเหล็กแปรรูปในอุตฯยานยนต์เป็นอย่างไรบ้าง
ตั้งแต่เข้าไปในจุดนั้น เราปรับขึ้นไปในจุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้มีสัดส่วนรายได้จากอุตสาหกรรมยานยนต์ล้วประมาณ 10% ของรายได้รวม ถือว่ายังเล็ก แต่อนาคตค่อนข้างดี เพราะถือเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงเมื่อเทียบกับสินค้าที่เราจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ประกอบ กับมีเป้าหมายในการส่งออกด้วย
- มาร์จิ้น ต่างกันแค่ไหนระหว่างเหล็กเดิมที่ผลิตอยู่กับเหล็กในอุตฯยานยนต์
ปัจจุบันแม้ว่าเรามีสัดส่วนรายได้จากอุตสาหกรรมรถยนต์ประมาณ 10% ของรายได้รวม แต่ถ้าเทียบกับมาร์จิ้นแล้วจะต่างกัน เพราะเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีมาร์จิ้นสูงถึง 20% ในขณะที่ สินค้าปกติมาร์จิ้นอยู่ที่ระดับ 3-4% เท่านั้น จึงมุ่งสู่การผลิตสินค้า ในกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น โดยผลิตป้อนให้กับซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับค่ายรถยนต์อีกต่อหนึ่ง
- วางอนาคตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างไร
สำหรับรายได้ ในปีหน้า คาดว่าจะยังอยู่ที่ 10% ของรายได้รวม ส่วนในอนาคตต้องการให้ส่วนของยานยนต์โต เพราะถ้ายานยนต์ โตมากขึ้นเท่าไหร่เราก็จะได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
โดยการเข้าสู่ธุรกิจผลิตเหล็กเพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ของ RICH ในครั้งนี้ เป็นเพราะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตค่อนข้างสดใส ขยายตัวได้ตามทิศทางตลาดรถยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ต้องการให้ไทยกลายเป็นศูนย์ กลางการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในภูมิภาคเอเชีย (ดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย) โดยเฉพาะเรื่องการผลิตเพื่อการส่งออก จึงทำให้แนวโน้มการ ผลิตสินค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าสู่ธุรกิจนี้ของ RICH จึงมีแนวโน้มที่ดีไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม
- มีการลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการผลิตสินค้าประเภทนี้หรือไม่
การผลิตสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้เครื่องจักรเก่า แต่หันมาผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น และถึงแม้เราจะหันมาเน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันสินค้าเดิมที่ผลิตอยู่ก็ยังไม่ทิ้งและไม่ปล่อยให้เล็ก ก็คงขยายควบคู่กันไปในอนาคต
ส่วนแรงงานคนที่มีอยู่ก็เพียงวพอรองรับการขยายงานได้ เพราะปัจจุบันคนของเราพออยู่แล้ว เราเชื่อว่าจะสามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ โดยอาศัยคนที่เรามีอยู่ แต่หลังจากบริษัทมีเป้าหมายจะขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมเหล็กแปรรูปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างเต็มตัว จึงมีความจำเป็นต้องขยายโรงงานและสายการผลิตเพื่อรองรับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสั่งซื้อเครื่องจักร
ใหม่เพื่อนำมาติดตั้งรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จลงในสิ้นปีนี้
ในปีหน้าหลังจากเครื่องจักรใหม่เข้ามาติดตั้งแล้ว สามารถผลิตเหล็กแปรรูปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มตัว เชื่อว่าจะทำให้รายได้และกำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นชัดเจน
-มีโครงการปรับปรุงคุณภาพเพิ่มบ้างหรือไม่
ก็คงมีโดยเราจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานสินค้าและการผลิต เพื่อให้ได้รับยอมรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้เราได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) กับสินค้าเหลกปกติที่เราผลิตอยู่แล้ว ส่วนในอนาคต เรามีโครงการจะทำ ISO ด้วย เพราะถ้าผลิตเพื่อซัพพอร์ตในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในอนาคตคงต้องใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อม
- โครงการเข้าสู่ระบบ ISO คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้อยู่ในส่วนของการยื่นแบบฟอร์ม เป้าหมายก็เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้ามากขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้เข้ามาสู่ระบบมาตรฐานดังกล่าว ซัพพลายเออร์ที่เราติดต่อและผลิตสินค้าให้ เขาก็ประเมินคุณภาพสินค้าของเราในทุกไตรมาสอยู่แล้ว
- การเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้หรือไม่
ถือว่าเร็วว่าเป้าหมาย และความได้เปรียบที่ทำให้เราก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้เร็วก็เพราะความเข้มแข็งของทีมงาน ความพร้อมของบุคลากร ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่เข้าถึงลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว
การมีสินค้าที่หลากหลายก็ทำให้เรามีความพร้อมในเรื่องสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยถ้าลูกค้าต้องการสินค้าแบบไหนเรา สามารถตอบสนองได้ทันที ในขณะที่คู่แข่งอาจทำไม่ได้เท่าเรา และที่สำคัญ คือ เรามีคลังสินค้าที่ให้ลูกค้าสามารถรับของได้อย่างรวดเร็ว
- มีแผนปรับคลังสินค้า อีกหรือไม่
เรามีแผนจะขยายศูนย์กระจายสินค้าออกสู่ต่างจังหวัด จากเดิมที่ยังไม่เคยมี แต่เรากำลังจะทำ ถือเป็นช่องทางในการเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น เรากำลังทำตัวให้เข้าใกล้ผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งการขยายหลังสินค้าจะมุ่งเน้นในการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่และ พยายามกระจายให้มากขึ้น ที่ผ่านมาเราได้เปรียบคู่แข่ง เพราะเรามีความพร้อมเรื่องตัวสินค้า เพราะสั่งปุ๊บเรามีสต็อกทันทีถือเป็นจุดแข็ง เพราะลูกค้าไม่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องราคาสินค้า ซึ่งในอนาคตเราจะชูจุดแข็งนี้ต่อไป
- การเข้าจดทะเบียนในตลาดฯดีกว่าตอนยังไม่เข้ายังไง
ดีกว่าแน่นอน มีการกำหนดแผนงานที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้คนมีคุณภาพมากขึ้น บริษัทเข้มแข็งมากขึ้น มีคนรู้จักมากขึ้น และเสนออะไรที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน จากก่อนหน้านี้ที่การติดต่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นเรื่องที่ยาก แต่ในขณะนี้สถาบันการเงินวิ่งมาเสนอสินเชื่อให้กับเราถึงที่และพร้อมจะคุยกับเราง่ายกว่าแต่ก่อน ถือเป็นเรื่องที่ดีของคนทำธุรกิจ
-เห็นราคาหุ้นในกระดานยังไม่กระเตื้องคิดว่าเป็นเพราะอะไร
เรื่องราคาหุ้นยอมรับว่าไม่ค่อยดี ซึ่งส่วนหนึ่งที่ไม่ค่อยดีอาจจะเป็นเพราะนักลงทุนยังไม่รู้จักเรา เพราะเรายังไม่เคยเข้าตลาดฯมาก่อน จึงไม่มีใครเคยรู้ว่าราคาในตลาดเป็นอย่างไร แต่ถ้าได้คุ้นเคยกันก็น่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งเรามั่นใจว่าจะโตไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 10%ทุกปี และถ้านักลงทุนเห็นเราโตสม่ำเสมอก็เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนมั่นใจในตัวบริษัทมากขึ้น และจะสะท้อนมาที่ราคาหุ้นเอง
www.eFinancThai.com
[/color:d939154ed2">
|
