kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 31/10/2006 @ 11:04:38 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต แนวรับอยู่ที่ 710 ? 715 จุด ให้ทยอยซื้อ
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ พบว่าแนวรับของ Set Index รอบนี้ จะอยู่ที่ 710-715 จุด ซึ่งถ้าคนที่มีมุมมองต่อตลาดเป็นขาขึ้นอย่างผม จะมองว่าแนวรับดังกล่าว เป็นจุดเสี่ยงซื้อ หรือ เป็นแนวรับที่แข็งแรง ผมจึงขอกำหนดจุดเสี่ยงซื้อที่ระดับ 710 -715 จุด หรือจะแปลว่าให้ทยอยเก็บหุ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ได้ โดยเป้าหมายในการเก็บหุ้นรอบนี้ จะอยู่ที่หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร กลุ่มหลักทรัพย์ และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเข้าซื้อให้ใช้น้ำหนัก 50% ก่อน จะปลอดภัยกว่า
สำหรับหุ้นที่ผมกำลังสนใจอยู่ตอนนี้ คือ SMIT เนื่องจากรูปแบบของกราฟน่าสนใจ จึงเข้าไปค้นหาข้อมูลของหุ้นตัวนี้มาฝากกัน
บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ชิ้นส่วนและเครื่องมือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ และอุตสาหกรรมกระดาษ ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่ม คือ
ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กแข็งสำหรับทำแม่พิมพ์และเครื่องมือ (Special Steel) ปี 2548 มีรายได้ 879 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของรายได้รวมทั้งหมดของ SMIT ผลิตภัณฑ์เหล็กของบริษัทได้แก่ เหล็กแข็งสำหรับทำแม่พิมพ์และเครื่องมือ เข็มกระทุ้งแม่พิมพ์พลาสติก ใบเลื่อยสายพาน ใบเลื่อยวงเดือนสำหรับตัดเหล็กและโลหะ และอลูมิเนียมอัลลอยด์
2. ผลิตภัณฑ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลโรงงาน (Machine Tools and Tooling) ) ปี 2548 มีรายได้ 550 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้รวมทั้งหมด เครื่องมือและเครื่องจักรของบริษัทที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลโรงงานที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ( CNC Machine) ดอกกัดและมีดเล็บซึ่งมีให้เลือกครอบคลุมการใช้งานทุกประเภท เครื่องมือวัดขนาดชิ้นงานและเครื่องมือวัดระยะแบบดิจิตอล อุปกรณ์จับเครื่องมือซึ่งใช้ประกอบกับเครื่องจักรกลทุกประเภท รวมไปถึงบริการให้คำปรึกษาในการเลือกใช้เครื่องจักรกล ให้บริการฝึกอบรมการใช้งาน และให้บริการซ่อมเครื่องจักรกลด้วยอะไหล่ที่มีคุณภาพ โดยทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ
3. ผลิตภัณฑ์กลุ่มกระดาษ (Paper) ปี 2548 มีรายได้ 237 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของรายได้รวมทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกระดาษของบริษัทที่สำคัญ ได้แก่ กระดาษสำหรับงานพิมพ์ กระดาษหนังสือพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์ ตัวแทนขายเครื่องตัดและเครื่องกรอกระดาษจากต่างประเทศ ผู้จัดหาเครื่องจักร ชิ้นส่วน อุปกรณ์เครื่องจักรทุกชนิด ที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษและเยื่อกระดาษ นำเข้าเคมีต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิต
4. ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมไม้ (Machinery and Equipment for Wood Processing) และ5. ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไฟฟ้า (Electrical Engineering) ซึ่งปี 2548 มีรายได้รวมกัน 90 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของรายได้รวมทั้งหมด
ส่วนข้อมูลที่น่าสนใจเท่าที่พอจะหามาได้ก็มี
1. SMIT มีราคา IPO ที่ 2.75 บาท เข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549
2. ผู้บริหารของบริษัทฯได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้ขึ้นเป็น 1,700 ล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเพราะบริษัทได้มีการกระจายความเสี่ยงไปในหลายธุรกิจ เช่นธุรกิจกระดาษ หรือธุรกิจชุบเหล็กแข็ง ซึ่งก็ใกล้เคียงกับรายได้ในปี 2548 ที่ผ่านมา
3. บริษัทได้เปิดโรงงานชุบเหล็กแข็ง ซึ่งได้เดินเครื่องผลิตมา 2 เดือนแล้ว ผู้บริหารก็แจ้งว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและเป็นที่พอใจของลูกค้า โดยโรงงานชุบเหล็กแข็งจะช่วยให้ SMIT มีบริการให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
4. บริษัทฯ มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทฯจะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เช่นเดิม ตามนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยปี 2548 ที่ผ่านมาบริษัทฯจ่ายเงินปันผลไปในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 5%
.000002 [/color:6a0efeedd3">
|
