April 27, 2024   9:08:04 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 31/10/2006 @ 13:02:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้-บล.พัฒนสิน

INVESTMENT HIGHLIGHT : ธปท.ปรับเพิ่มเป้าหมาย GPD 0.5% เป็น 4.5-5% ปี 50 / น้ำมันดิ่ง
STOCK REPORTS : ATC / ADVANC / MINT / TRUE / SSI / SVI / ZMICO / BLS / KEST
STRATEGY REPORTS : Commodity Report / Economic Focus

แนวโน้มตลาดวันนี้ : ผันผวนกรอบ 708-725 จุด / Accumulate on dips / ซื้อ BAY-W1 BAY

CNS คาดว่า การปรับฐานของดัชนีตลาดฯ (Correction) ยังคงมีต่อเนื่องใน 1-2 วันนี้ หลังจากวิตกต่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแบบ Hard Landing แต่คาดว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในระยะยาว ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสมดุลของราคา (ขึ้นจากระดับ 681 จุดมาสูงสุดที่ 738 จุด หรือ6% ใน 3 สัปดาห์) โดยคาดว่าจุดซื้อลุ้นรีบาวด์อยู่ที่บริเวณ 708-705 จุด หรือ กรณีแย่สุด คือไม่ต่ำกว่าระดับ 700 จุด ปัจจัยที่จะเป็นตัวช่วยพยุงดัชนีตลาดฯ คือ 1)เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 4/49 และคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของวัฎจักรเศรษฐกิจขาขึ้นรอบใหม่ (เดิมวัฎจักรขึ้นและลงอยู่ในช่วง ปี 41-46 ที่ผ่านมา) เห็นได้จาก ธปท.ปรับเพิ่มประมาณการเติบโตปี 49 และปี 50 เป็น 4.5%-5% และ 4.5%-5.5% ตามลำดับ จะส่งผลให้มีโอกาสสูงที่บจ.จะมีการปรับประมาณการกำไรสูงขึ้น และสะท้อนถึงแนวโน้มซื้อขายที่ระดับ PER สูงขึ้น 2)แนวโน้มดอกเบี้ยลดลง มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดการเดิมในไตรมาส 1/50 เป็นปลายปี 49 พิจารณาจาก เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวแบบ Hard lading จนเฟดอาจต้องปรับลดดอกเบี้ยระยะสสั้นเร็วกว่าคาด และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อปี 50 ที่ธปท.คาดว่าจะชะลอตัวเหลือเพียง 1.5-3% CNS คาดว่า การปรับลดดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยแรลลี่ในปี 2550 3)รายงานตัวเลขเกินดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกันยายนวันนี้ คาดทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี และ 6 ปี เป็น $1.46พันล้านดอลล์และ $1.6พันล้านดอลล์ตามลำดับ 4)การทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/49 อาจส่งผลต่อการเลือกลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์ โดยบจ.ที่จะประกาศงบสัปดาห์นี้ ได้แก่ ATC กำไรเพิ่ม 208% (แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของ CNS-ดูรายงาน) SSI พลิกเป็นกำไร 642 ลบตามคาด

หลักทรัพย์ที่มีประเด็น :
1) การดิ่งลงแรงของราคาน้ำมันจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มขนส่ง THAI TASCO ปิโตรเคมี ATC PTTCH และผลลบต่อหุ้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับน้ำมัน เช่น PTTEP PTT ฯลฯ

2)กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม อาจได้รับผลกระทบหลังจาก WTO เตรียมอนุญาตให้เข้าเป็นสมาชิก 7 พย.

3)ผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบหลายปี จะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มที่มีภาระหนี้ต่างประเทศสูง เช่น สื่อสาร ปิโตรเคมี พลังงาน เช่น PTTCH TRUE SCC และส่งผลลบต่อกลุ่มส่งออก เช่น ชิ้นส่วนฯ เกษตร HANA DELTA CPF TUF 4) หุ้นเด่นในข่าววันนี้ ได้แก่ BAY-W1 BAY กลุ่ม GE ยืนยันซื้อหุ้นเพิ่มทุน / CPF- คาด EU กำหนดโควต้าไก่ปรุงสุกส่งออกให้ไทยต่ำกว่าคาดหมาย

กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำ ซื้อคืนบริเวณ 708-715 จุด สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ขายไปใกล้ 740 จุด ในสัปดาห์ที่ผ่านมาและคงคำแนะนำ ซื้อสะสม สำหรับนักลงทุนระยะยาว (ซื้อมาตั้งแต่บริเวณ 680 จุด) โดยเฉพาะกลุ่มที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ เป้าหมาย 800 จุด

หลักทรัพย์นะนำ :
1) Accumulate : หุ้นเด่นประจำเดือนตุลาคม ATC BANPU BAY BIGC BGH CCET DELTA HANA ERAWAN KSL TISCO TUF UMS (PRIN - Take Profit)/
2) หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ : แนะนำ เก็งกำไร TTA PSL; ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาลดลง ได้แก่ น้ำมัน -3.93% สังกะสี -0.53% ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ปรับขึ้นได้แก่ ค่าระวางเรือปรับขึ้นเป็นวันที่สอง โดยเพิ่มขึ้น 24 จุด ปาล์ม +0.97% ค่าการกลั่น +5.35% เป็น $3.73/บาร์เรล
สเปรดสารเบนซีนและพาราไซลีน +8.88% และ +1.1%
3) เด่นทางเทคนิค : VNG TCJ SPALI SPALI-W3 NWR EASON STANLY BAY

พอร์ตการลงทุน / กลยุทธ์การลงทุน :
นักลงทุนระยะยาว 12 เดือน : แนะนำ Selective Buy โดยมีเป้าหมายปีนี้ที่บริเวณ 800 จุด
นักลงทุนรายย่อย : Short Sell โดยมีจุดซื้อคืนบริเวณ 708-715 จุด

โดย บจ.หลักทรัพย์ พัฒนสิน ประจำวันที่ 31 ต.ค.2549

 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 31/10/2006 @ 13:03:47 : re: กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ประจำวันที่ 31 ต.ค. 2549

ตลาดหลักทรัพย์ ฯ วานนี้

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ตลาดหุ้นปิดลบตามแนวโน้มตลาดหุ้นต่างประเทศ
SET วานนี้ ตลาดหุ้นปิดลบตามแนวโน้มตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 718.74 จุด ลบ 7.03 จุด หรือ ?0.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,414.63 ล้านบาท โดยปรับตัวลงในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ไฟแนนซ์ ขนส่ง เทคโนโลยี และพลังงาน
หุ้นที่ปรับตัวขึ้น 104 บริษัท ปรับตัวลง 244 บริษัท และไม่เปลี่ยนแปลง 97 บริษัท
วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 7.37 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 761.34 ล้านบาท

คาดการณ์แนวโน้มตลาดในระยะสั้น
เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 717-725 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวลบช่วงแรก แต่มีโอกาสดีดตัวขึ้นเป็นแนวบวกในช่วงหลังได้
ด้านดัชนีดาวโจนส์ -3 จุด จะไม่ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด ราคาน้ำมันดิบ -2.39 ดอลลาร์/บาร์เรล จะไม่ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย เท่าไรนัก
ในระยะสั้น แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยจะอิงกับแนวโน้มของตลาดหุ้นต่างประเทศ และผลประกอบการรายตัวของบริษัทต่างๆ โดยการแกว่งตัวของดาวโจนส์ไม่มีผลมากนักในช่วงนี้ และตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวขึ้นช่วงสั้นได้ หลังจากที่ปรับลงมา 2-3 วัน นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจะส่งผลต่อหุ้นเป็นรายตัวไป แต่ไม่มีผลต่อดัชนีตลาดเท่าไรนัก เพราะจะเป็นหุ้นขนาด Market Cap. เล็ก
การแถลงผลงานของ คมช. จะทำให้บรรยากาศตลาดหุ้นผ่อนคลายจากแดนลบได้ เพราะแสดงให้เห็นถึงปัจจัยด้านการเมืองของเมืองไทยยังสามารถควบคุมให้อยู่ในบรรยากาศที่สงบเรียบร้อยได้
เราคาดการณ์ว่าหลังจากดัชนีหุ้นปรับลงมา 3 วัน มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นได้
ในแง่ของกลยุทธ์การลงทุนโดยภาพรวม เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นระยะสั้น ได้แก่ LH, TRUE และซื้อเก็งกำไรรายตัวในหุ้นขนาดเล็กอย่าง LIVE

ประเด็นที่น่าสนใจ
ประเด็นต่างประเทศ
1) วันนี้ (31 ต.ค.49) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3/49 โดยนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์คาดว่าดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3/49 จะเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับ 0.9% ในไตรมาส 2/49
และ สนง.Conference Board ของสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ต.ค.49 โดยนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค.49 จะอยู่ที่ระดับ 106.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 104.5 ในเดือน ก.ย.49
2) วันนี้ (31 ต.ค.49) คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย คาดว่า BOJ ยังคงอัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียกข้ามคืนที่ระดับเดิม 0.25% ต่อไป

การเมืองไทย
1) วันนี้ (31 ต.ค.49) ติดตามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ชี้แจงเหตุผลการยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ และการทำงานของ คมช.เพื่อสร้างความชัดเจนต่อประชาชน ส่วนการตรวจสอบโครงการที่ผิดปกติของรัฐบาลทักษิณ ยังคงให้ คตส.และ ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติฯ เห็นชอบให้ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ เป็นประธานกรรมาธิการ โดยมี พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ เป็นรองประธานฯ คนที่ 1 และ คุณสังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นรองประธานคนที่ 2 คาดว่าร่างของ กมธ.จะแล้วเสร็จในวันที่ 7-8 พ.ย.49 และคาดว่าจะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติฯ ในวันที่ 10 พ.ย.49 โดยเตรียมตั้ง กมธ.ดูแลปัญหาวิกฤตบ้านเมือง ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะ

เศรษฐกิจไทย
1) กระทรวงคมนาคมเตรียมสรุปโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมเดินหน้าโครงการดังกล่าว ส่วนแหล่งเงินกู้จะหาแนวทางที่เหมาะสม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน
2) คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ยกเลิกโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น โดยจะยุติโครงการเมื่องบประมาณของโครงการหมดลง ส่วนโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกจะโอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลแทน เนื่องจาก ทั้ง 2 โครงการ ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกระทรวงอุตสาหกรรม
3) ธปท.ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 49 และปี 50
3.1) - ธปท.ปรับประมาณการ GDP ในปี 49 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5-5.0% จากคาดการณ์เดิมจะขยายตัวที่ระดับ 4.0-5.0% จากปัจจัยการเมืองปรับตัวดีขึ้น การเร่งใช้จ่ายภาครัฐเร็วขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม ราคาน้ำมันปรับลดลง และอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว
- คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 49 จะอยู่ที่ระดับ 4.3-4.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 2.0-2.5%
3.2) - ธปท.ปรับประมาณการ GDP ในปี 50 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5-5.5% จากคาดการณ์เดิมจะขยายตัวที่ระดับ 4.0-5.3% โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 50 ยังเป็นการส่งออกที่คาดว่าจะเติบโตได้ 6.0-9.0% โดยเงินบาทที่แข็งค่าจะไม่ผลกระทบมากนัก รวมถึงการลงทุนภาครัฐและเอกชน และการบริโภคที่ฟื้นตัว
- คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 50 จะอยู่ที่ระดับ 1.5-3.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.5-2.5%
ทั้งนี้ ธปท.ได้ประเมินความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะกระทบต่อ GDP ในปี 49 ประมาณ 0.09%
และวันนี้ (31 ต.ค.49) ติดตาม ธปท.ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน ก.ย.49 โดย KKS คาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ส.ค.49 จากปัจจัยการเมืองเริ่มชัดเจน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มปรับลง ส่วนราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับลงต่อเนื่อง ทำให้ลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ขณะที่คาดว่าการส่งออกในเดือน ก.ย.49 จะขยายตัว 15.9% และคาดว่าการนำเข้าจะขยายตัว 10.4% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 1,472.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประเด็นในตลาดหุ้น
1) บล.บีฟิท (BSEC) จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น ราคา IPO ที่ 4.2 บาท แบ่งเปิดจองสำหรับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นบริษัทแม่ (บง.กรุงเทพธนาทร) จำนวน 40 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.49 และ 6-7 พ.ย.49 และเปิดจองสำหรับประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.49 คาดว่าจะเข้าซื้อขายใน ตลท.หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ในวันที่ 22 พ.ย.49 มี SCIB เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

2) ที่ประชุมคณะกรรมการ TRAF มีมติอนุมัติลดทุนและเพิ่มทุนเพื่อขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิม โดยขั้นแรกจะลดทุนจดทะเบียน 90,000,000 หุ้น ราคาพาร์ละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 432,774,695 บาท เป็น 342,774,695 บาท โดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย
จากนั้น จะลดทุนจดทะเบียน 312,774,695 หุ้น ราคาพาร์ละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 342,774,695 บาท เป็น 30,000,000 บาท โดยลดจำนวนหุ้นตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น เพื่อนำเงินส่วนที่ลดไปลดขาดทุนสะสมของบริษัท
จากนั้น จะเพิ่มทุนจดทะเบียน 90,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 30,000,000 บาท เป็น 120,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญ 90,000,000 หุ้น ราคาพาร์ละ 1 บาท เพื่อชำระคืนเจ้าหนี้การค้า และหนี้สินต่อสถาบันการเงินที่มีภาระดอกเบี้ย รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ TRAF มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90,000,000 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 13 พ.ย.49 ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 3 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยราคา TRAF วานนี้ (30 ต.ค.49) ปิดตลาดที่ระดับ 0.56 บาท ลบ 0.02 บาท หรือ ?3.45%

3) ภายในวันที่ 3 พ.ย.49 ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะเรียกประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินงานตามสัญญาว่าด้วยการร่วมทุนของ สปน.กับ ITV เพื่อหารือถึงข้อสรุปเรียกค่าปรับและการปรับผังรายการ โดยเฉพาะวงเงินค่าปรับที่ต้องสูงขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 7.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเลยเวลามาหลายเดือน

4) ที่ประชุมคณะกรรมการ BAY อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) หลังจาก GE ตกลงเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วน 25% ในราคาหุ้นละ 16 บาท มาแล้วภายในกำหนดวันที่ 31 ต.ค.49 โดย GE จะชำระค่าหุ้นภายในวันที่ 3-10 ม.ค.50 และภายหลังชำระค่าหุ้น GE จะส่งตัวแทนเข้าร่วมบริหารในคณะกรรมการ 4 คน กรรมการจากฝ่ายผู้ถือหุ้นเดิม 4 คน และที่เหลือ 3 คน เป็นกรรมการอิสระ
เมื่อเดือน ส.ค.49 BAY ทำสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนกับ GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ GE จำนวน 2 พันล้านหุ้น แบ่งเป็น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในคราวแรก 1,391 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออีก 609 ล้านหุ้น

ข่าวที่น่าสนใจ
PTTCH จะขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ถือหุ้นรายย่อยในเดือน พ.ย.49 มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท
PTTCH จะขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ถือหุ้นรายย่อยในเดือน พ.ย.49 การขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้มีมูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท กำหนดวันจองซื้อวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค.49 ปิดสมุดทะเบียนกำหนดสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 14 พ.ย.49 และหากผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ใช้สิทธิ PTT จะเป็นผู้รับซื้อเอง โดยก่อนหน้านี้ PTTCH ประกาศเพิ่มทุนโดยออกหุ้นใหม่ จำนวน 358.97 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 78 บาท ขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 3.151 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่

TRT รับเป็นผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า มูลค่า 30 ล้านบาท จากบริษัทซีเมนส์
TRT ได้รับเป็นผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังชนิดพิเศษ Traction Transformer มูลค่า 30 ล้านบาท จากบริษัทซีเมนส์ จำกัด โดยหม้อแปลงดังกล่าวใช้ในระบบจ่ายไฟสำหรับรางรถไฟฟ้าในโครงการ Airport Rail Link จากสถานีมักกะสัน-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำหนดส่งมอบงานในปี 50 นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมประมูลงานโครงการ Greater Mekong Sub-Region Transmission Project ของกัมพูชาในเดือน ต.ค.49 ร่วมกับบริษัท Dayen Environmental LTD ของสิงคโปร์ มูลค่า 200 ล้านบาท

AMC กำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 2.7-3.3 บาท/หุ้น เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 24 พ.ย.49
ที่ประชุมคณะกรรมการ AMC มีมติกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุน ระหว่าง 2.7-3.3 บาท/หุ้น โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พ.ย.49 ทั้งนี้ AMC จะเพิ่มทุนโดยออกหุ้นใหม่ จำนวน 150 ล้านบาท จากเดิม 399.97 ล้านบาท เป็น 549.97 ล้านบาท ราคาพาร์ละ 1 บาท โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 50 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ อีก 50 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป และอีก 50 ล้านหุ้น ไว้รองรับการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ

AP คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/49 สูงสุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัท จากขายหน่วยลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
AP คาดว่าจะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/49 สูงสุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัท จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซิตี้แอสเสท ที่ขายให้กับนักลงทุนสิงคโปร์ ซึ่งได้กำไร 580 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในปี 49 สูงกว่าปี 48 ที่มีกำไรสุทธิ 764.86 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดปี 49 ได้มากกว่าปี 48 ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท

HANA รับหุ้นเพิ่มทุน 2.04 แสนบาท เข้าเทรดวันนี้ (31 ต.ค.49)
บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) มีรายละเอียดของหุ้นเพิ่มทุน ดังนี้
เพิ่มทุน: จำนวน 204,800 บาท จากเดิม 820,374,390 บาท
เป็น 820,579,190 บาท ราคาพาร์ละ 1 บาท
จัดสรร: 1) ESOP แผน 1 ชุด 2 เท่ากับ 5,000 หน่วย แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 5,000 หุ้น
ในราคาใช้สิทธิ 25.14 บาท/หุ้น
2) ESOP แผน 3 เท่ากับ 199,800 หน่วย แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 199,800 หุ้น
ในราคาใช้สิทธิ 20.73 บาท/หุ้น
อัตรา: 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ

ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์
เช้านี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 36.74-36.82 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทวานนี้ปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางสกุลเงินภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลัง GDP ไตรมาส 3/49 ของสหรัฐชะลอลงเกินคาด ทำให้เกิดแรงขายดอลลาร์ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อดอลาร์กลับเข้ามา ช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาท โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 36.68-36.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับ 36.76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX และ IPE
ราคาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 49 ปรับลง 2.39 ดอลลาร์ หรือ ?3.93% ปิดตลาดที่ระดับ 58.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาด IPE ส่งมอบเดือน ธ.ค.49 ปรับลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ ?3.93% ปิดตลาดที่ระดับ 58.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐอาจปรับฐานในสัปดาห์นี้หลังจากปรับขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน และสภาพอากาศในสหรัฐยังไม่หนาวมาก

ตลาดหุ้นต่างประเทศอื่นๆ
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones ลบ 3.76 จุด หรือ ?0.03% ปิดตลาดที่ระดับ 12,086.50 จุด จากแรงกดดันของหุ้นวอลมาร์ทภายหลังรายงานยอดขายที่ลดลง ส่วน ดัชนี S&P 500 บวก 0.59 จุด หรือ +0.04% ปิดตลาดที่ระดับ 1,377.93 จุด และ ดัชนี Nasdaq บวก 13.15 จุด หรือ +0.56% ปิดตลาดที่ระดับ 2,363.77 จุด จากแรงหนุนของหุ้นยาฮู อิงค์ หลังบริษัทเมอร์ริล ลินซ์ ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนในหุ้นดังกล่าว
ตลาดหุ้นลอนดอน ดัชนี FTSE 100 ลบ 34.1 จุด หรือ ?0.55% ปิดตลาดที่ระดับ 6,126.8 จุด ตลาดได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐหลังรายงาน GDP ไตรมาส 3/49 ที่ชะลอตัวลง รวมถึงแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มน้ำมันหลังราคาน้ำมันปรับลงกว่า 3%

ตลาดหุ้นภูมิภาค
ตารางดัชนีหุ้นต่างประเทศที่เปิดเช้านี้
ตลาดหุ้น ดัชนีปิดวานนี้ (30/10/06) ดัชนีเปิดเช้านี้ (31/10/06) +/- (จุด)
ญี่ปุ่น 16,351.80 16,389.45 37.65
เกาหลีใต้ 1,356.11 1,356.91 0.8

หุ้นแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน
วิเคราะห์หุ้นรายตัววันนี้
หุ้น คำแนะนำเชิงพื้นฐาน ราคาที่เหมาะสม (บาท) ราคาปิด (บาท) วานนี้ (30/10/06)
KEST ถือ 24 22.7
ZMICO ขาย 4.2 4.22
RATCH ซื้อลงทุน 42 40.5
ATC ขายทำกำไร 33 35
MK ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว 3 2.68
CPF ซื้อลงทุน 5.74 4.94
SVI ซื้อ 15.4 12.3
หมายเหตุ : (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์หุ้นรายตัว หัวข้อ Daily Stock)

ทิศทางการลงทุน
คาดเงินเฟ้อเดือน ต.ค.49 ปรับตัวลงจากเดือน ก.ย.49 (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ หัวข้อ ทิศทางการลงทุน)
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#2 วันที่: 31/10/2006 @ 13:05:11 : re: กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 31 ต.ค.2549

บทวิเคราะห์

แนวโน้มตลาดวันนี้
ตลาดได้อ่อนตัวลงไปปิดต่ำกว่าระดับ 720 เมื่อวานนี้ด้วยภาวะการซื้อขายที่เบาบางมากหลังจากตลาดในภูมิภาคปรับตัวลงจากความกังวลของการชะลอตัวของ GDP ไตรมาส 3/49 ของสหรัฐ สำหรับวันนี้เรามีมุมมองต่อตลาดเป็นบวกมากขึ้นจากการปรับเพีมอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้โดยธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ดัชนีเองอาจจมีการอ่อนตัวลงในวันนี้จากโอกาสที่หุ้นพลังงานขนาดใหญ่จะถูกกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
ดังนั้นในวันนี้ เราน่าจะเห็นตลาดแกว่งตัวในระดับ 720 โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ 715 จุด โดยเรายังแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นโดยเฉพาอย่างยิ่งกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เช่น ธนาคารใหญ่ และ รับเหมาก่อสร้าง
นักลงทุนต่างชาติยังคงมีปริมาณการซื้อขายเบาบางโดยซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 800 ล้านบาท (รวมเป็นขายสุทธิ 6.2 พันล้านบาทในเดือนตุลาคม)
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ตกลง 2.39 เหรียญ/บาเรลหรือ 3.9% เป็น 58.39 เหรียญ/บาเรลเมื่อคืนนี้ จากการขายล่วงหน้าหลังจากความกังวลเกี่ยวกับการก่อการร้ายในซาอุดิอาระเบียผ่อนคลายลงรวมทั้งการคาดการณ์ว่าฤดูหนาวของสหรัฐจะไม่หนาวเท่าปกติ
สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้จาก 4.0-5.0% เป็น 4.5-5.0% จากความกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง ภาพรวมการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และภาระการขาดดุลงบประมาณที่ผ่อนคลายลง
ธปท. จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนกันยายนในวันนี้เวลา 14.30 น. ซึ่งเราไม่คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะสนับสนุการปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยกเว้นการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวราว 15% และดุลการค้าเกินดุลประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐตามที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเมื่อเดือนก่อน
กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ (KBANK, SCB และ BBL) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (ITD และ STEC) กลุ่ม consumer play (MCOT และ CPN) รวมทั้ง UOBKH, JTS และ PDI คาดว่าจะเป็นกลุ่มแรกๆที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีหากตลาดฟื้นตัว

หุ้นน่าจับตา
PDI : จัดเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีที่เหมาะกับการเก็งกำไร โดยราคาสังกะสีได้ปรับตัวขึ้นทำราคาสูงสุดครั้งใหม่ที่ 4,170 เหรียญ/ตัน เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการและปริมาณสต๊อกที่ลดลงต่ำมาก ราคาเฉลี่ยสังกะสีในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีก่อนเกือบ 3 เท่า ทำให้ผลกำไรในปีนี้จะโดดเด่นมาก

ราคาหุ้น KBANK ปรับตัวลดลง 4.2% จากวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นที่ระดับ 68.5บาท/หุ้น ขณะที่ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 84.0บาทต่อหุ้น ยังคงมี Upside gain 23% จากราคาเป้าหมายของเรา ซึ่งเราได้ปรับคำแนะนำเป็น ?ซื้อ? ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและสินเชื่อที่เติบโตดีในไตรมาส 3/49 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน KBANK ยังซื้อขายไม่แพงที่ 1.7 เท่าของประมาณการมูลค่าทางบัญชีในปี 2550

บทวิเคราะห์วันนี้
- ATC <35 บาท : เต็มมูลค่า> ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/49
- SSI <1.15 บาท : ถือ> ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/49
- PF <4.28 บาท : เต็มมูลค่า> คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/49
- BANPU <159 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/49
- SATTEL <8.60 บาท : ทยอยสะสม> คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/49
- CSL <3.86 บาท : ถือ> คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/49
- CPF <4.94 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/49
- EASTW <5.40 บาท : ขายทำกำไร> คงคำแนะนำที่ ขายทำกำไร ในหุ้น EASTW

สรุปข่าว
ธาริษา แจงแก้พ.ร.บ.แบงก์ชาติ เน้นชัดเจน-โปร่งใส-เป็นอิสระ (ผู้จัดการ 31/10/49) : แบงก์ชาติแจงกรณีแก้พ.ร.บ.หวังให้มีกลไก-การทำงานชัดเจนและมีความเป็นอิสระมากขึ้น กำหนดผู้ว่าฯ ธปท. ไม่ควบตำแหน่งประธานในคณะกรรมการ แต่โยกมาเป็นประธานกนง.แทน พร้อมรายงานการดำเนินนโยบายให้วุฒิสภาทุกปี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ส่วนกรณีการแก้ไขพ.ร.บ. สถาบันการเงินยันไม่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ตามที่ครม.เสนอ ส่วนการนำระบบมาตรฐานบัญชีใหม่มาใช้ คาดไม่กระทบแบงก์มากนัก-ไม่ทำให้แบงก์ต้องเพิ่มทุน

บัวหลวงเร่งขายหุ้น ACL (ผู้จัดการ 31/10/49) : ชาตรี ประกาศขายหุ้นธนาคารสินเอเชียในราคาส่วนลดจากราคาในตลาดหุ้น 5% เผยหากไม่ใครติดต่อหรือขายโดยตรงไม่ได้ก็จะเดินหน้าขายผ่านตลาดหุ้นนายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า ภายในปีนี้ ธนาคารจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน)(ACL) ที่ปัจจุบันถืออยู่ 19.57% ออกไป 10% และที่เหลือจะขายออกไปให้หมดในปี2550 ตามข้อตกลงและเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

PTL กำไรไตรมาส 3 โตไม่สวย สินค้าล้นตลาดฉุดราคาขาย (กระแสหุ้น 31/10/49) : โพลีเพล็กซ์ กำไรไตรมาส3 หดเหลือ 75.39 ล้านบาท ลดลงกว่า 57% จากราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงเนื่องจากภาวะสินค้าล้นตลาด โบรกฯเกอร์มองภาพรวมธุรกิจยังไม่สดใส

SC กระตุ้นกำลังซื้อบ้านส่งท้ายปี 49 ผู้บริหารหวังยอดขาย 420 ล้านบาท (กระแสหุ้น 31/10/49) : เอสซี แอสเสท จัดโปรโมชั่นพิเศษปลุกกำลังซื้อส่งท้ายปี 2549 หวังดึงยอดขาย 5 โครงการทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม นางสาวยุบล โล่ห์จินดารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) เปิดเผยถึง แผนการตลาดและการขายสำหรับโครงการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค และเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคในช่วงปลายปี 2549 ว่า บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษส่งเสริมการขายเต็มรูปแบบสำหรับโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 30 ธันวาคมศกนี้

ธปท.ปรับเพิ่มเป้าเศรษฐกิจปี 49-50 มั่นใจเงินเฟ้อลดลงส่งออกขยายตัว (กระแสหุ้น 31/10/49) : ธปท.ปรับเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปี 2549 และ 2550 อีก 0.5% เนื่องจากการเมืองที่คลี่คลายและชัดเจนขึ้น การเบิกจ่ายภาครัฐที่เร็วขึ้น และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มขึ้นกว่า 14,000 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนเอกชนก็น่าจะมากขึ้นตามความมั่นใจที่สูงขึ้นด้วย โดยปี 2550 เชื่อว่า แรงกดดันเงินเฟ้อจะลดลง ขณะที่การส่งออกจะขยายตัวเพียง 6% 9% เท่านั้น

BAFSวางหมากรับแข่งขันสูงเร่งหั่นต้นทุนชดเชยค่าเสื่อม (ทันหุ้น 31/10/49) : ผู้บริหาร BAFS มั่นใจผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2549 ยังสดใส ถึงจะเริ่มบันทึกค่าเสื่อมเป็นไตรมาสแรก หลังเร่งบริหารต้นทุน พร้อมรับอานิสงส์ช่วงไฮซีซั่นเชื่อกระทบเล็กน้อย คาดทั้งปี 2549 รายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,220 ล้านบาท แย้มยังมีลุ้นปันผลประจำปีหลังจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.20 บาทต่อหุ้นพร้อมมองปี 2550 เตรียมรับมือธุรกิจแข่งดุ

ปฏิทินเศรษฐกิจ

Thai economic data this week
Period Unit Actual Est Prior
Oct-31 BOT Monthly data Sep
Nov-01 Consumer price index Oct % yoy na 2.70%
Core consumer price index Oct % yoy na 1.90%

US economic data this week
Date Release For units Actual est Prior
Oct-30 Personal Income Sep % yoy 0.30% 0.30%
Personal Spending Sep % yoy 0.30% 0.10%
Oct-31 Employment Cost Index Q3 % yoy 0.90% 0.90%
Chicago PMI Oct Index 58 62.1
Consumer Confidence Oct Index 108 104.5
Nov-01 Auto Sales Oct mn units 5.3 5.3
Truck Sales Oct mn units 7.6 7.6
Construction Spending Sep % yoy 0.00% 0.30%
ISM Index Oct Index 53.1 52.9
Nov-02 Productivity-Prel Q3 % 1.50% 1.60%
Factory Orders Sep % yoy 3.00% 0.00%
Nov-03 Nonfarm Payrolls Oct thousand 125 51
Unemployment Rate Oct % 4.60% 4.60%
Hourly Earnings Oct % yoy 0.30% 0.20%
ISM Services Oct Index 54.5 52.9
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com