บล.บีฟิท เคาะราคาไอพีโอที่ 4.20 บาท/หุ้น คืนกำไรผู้ลงทุน ด้วยการมอบส่วนลดราคาสูงทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนจาก capital gain ได้ทันที เหตุเป็นราคาที่มี upside มากถึง 25-26% ปิดจองซื้อ 8-10 พ.ย.นี้และคาดเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น 22 พ.ย.49 ผู้บริหารมั่นใจกระแสตอบรับล้นหลาม เชื่อเป็นน้องใหม่ที่จะจุดประกายหุ้นไอพีโอให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ชูจุดเด่นเป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง มีความแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง

นายสุวิช รัตนยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน)(BSEC) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 200.005 ล้านหุ้น ที่ 4.20 บาท/หุ้นการเสนอขายจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ โดยจะเปิดจองซื้อสำหรับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นบริษัทแม่(บง.กรุงเทพธนาทร) ระหว่างวันที่ 1-3,6-7 พ.ย.2549 และเปิดให้จองซื้อสำหรับประชาชนทั่วไป 8-10 พ.ย.2549 จากนั้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ในวันที่ 22 พ.ย.2549 โดยใช้ชื่อในการซื้อขายว่า BSEC

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ เพื่อขยายธุรกิจโดยการเพิ่มสาขา ซึ่งในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาทต่อสาขา และใช้ในการพัฒนาคุณภาพของระบบงานและเทคโนโลยีสารสนเทศไว้รองรับการขยายตัวและการแข่งขันในอนาคตอีกประมาณ 20 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการตามแต่ฝ่ายบริหารของบริษัทจะเห็นสมควรและคณะกรรมการบริษัทลงมติอนุมัติ

เมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ BSEC คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางช่วงธุรกิจจะชะลอตัวและมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่เป็นเพราะ บล.บีฟิท มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และเข้าใจตลาด และมีทีมงานวิจัยฯที่มีคุณภาพ คอยสนับสนุน จึงทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นมาได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ภาวะตลาดจะไม่มีปัจจัยลบ และแนวโน้มของตลาดหุ้นมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดี ประกอบกับความชัดเจนเรื่องนโยบายรัฐบาลและการเดินหน้าโครงการต่างๆ ของภาครัฐในปีหน้าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยได้คาดการณ์การเติบโตของ จีดีพี ปีหน้าไว้ที่ 5% ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดฯจะอยู่ที่ระดับ 17,000 - 20,000 ล้านบาทต่อวัน มีผลให้ธุรกิจหลักทรัพย์ขยายตัวได้อย่างโดดเด่น นายสุวิชกล่าวในที่สัด

นางสาวโสภา นนทนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บล.บีฟิท กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ลงทุนจะให้ความสนใจจองซื้อหุ้น บล.บีฟิท เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่โดดเด่น โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 0.74% ในปี 2547 มาเป็น 3.19% ในปี 2548 และ 3.63% ในช่วงเก้าเดือนแรกปี 2549 ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะเห็นได้ว่า บล.บีฟิท ได้พิสูจน์ความสามารถในการทำธุรกิจแล้วว่ามีจุดเด่นที่สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่อง เพราะมีเจ้าหน้าที่การตลาดที่มีความสามารถ โดยมีทีมงานการตลาดกว่า 200 คน ทีมผู้บริหารมีความสามารถและประสบการณ์ยาวนาน ทำให้ บล.บีฟิท เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูงมีความแข็งแกร่ง สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในขณะนี้

นายสันทัด สงวนดีกุล รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.นครหลวงไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บล.บีฟิท กล่าวว่าราคาเสนอขายที่ 4.20 บาท/หุ้น มี upside 25-26% ดังนั้นเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนในอัตราสูงเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจาก capital gain ได้ทันที

เรื่องราคาไม่ต้องเป็นห่วงมาก เพราะมี discount มากพอสมควร น่าจะปลุกตลาดไอพีโอ ให้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งนายสันทัดกล่าวในที่สุด

.000002