คุณ ภาสกร จากเขตสายไหม กทม. ถามมาว่า ทำไมช่วงนี้หุ้น PTT และ PTTEP จึงพากันไม่ยอมขึ้นแรงๆเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย หรือว่า เป็นเพราะราคาน้ำมันไม่ดี ทำให้อนาคตไม่สดใส เหมือนอย่างหุ้นแบงก์ที่ดูเหมือนว่า ตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาบ ดูท่าสดใสขึ้นเยอะ จะขายทิ้งหุ้นน้ำมันนี้ดีไหม?

คำถามของคุณ ทำให้ผมนึกถึงกฎข้อที่ 12 ของนายมาร์ก โมเบียส ผู้จัดการกองทุนเทมเปิลตันที่ฮ่องกงขึ้นมาได้เลยครับ

เขาบอกว่า หุ้นที่คนเชื่อว่าเลว คือหุ้นที่มักจะดี
มันหมายความว่า หากคุณต้องการเก็งกำไร อย่าดุว่าคนอื่นเขาทำอะไรก็ทำตามกันอย่างนั้นเขาเรียกว่าเล่นเกมแบบที่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เข้าข่ายที่เขชาเรียกว่า Tragedy ofcommons

สมัยเป็นเด็ก ครูสอนคณิตศาสตร์เคยบอกว่า หากทุกคนในหมู่บ้านเป็นขโมยเหมือนกันหมด หมู่บ้านนั้นจะไม่มีขโมยเกิดขึ้นเลย ตอนนั้น ผมยังสงสัยเลยว่า มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน แต่พอโตขึ้นมา ผ่านโลกมาระยะหนึ่ง ก็เลยคิดออกว่า จริงของครูแฮะ!

การคิดให้แตกต่าง และสวนกระแส ก่อนจะลงมือกระทำ เป็นเรื่องทายใจที่จำเป็นเวลาที่จะเข้าตลาดเก็งกำไรครับ

ช่วงหลายเดือนมานี้ ราคาหุ้น PTT หลุดจากราคาสูงสุดที่ 250 บาท มาอยู่ที่ระดับที่เข้าสู่ช่วงขาลง ด้วยสาเหตุ บางประการครับคือ 1) เรื่องถูกฟ้องร้องที่ศาลปกครองสูงสุด 2)เรื่องราคาน้ำมันที่ต่ำลง

ทั้งสองเรื่อง ทำให้น่าเป็นห่วงทั้งคู่

เรื่องแรก มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเข้าร่วมในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกับเขา ทำการฟ้องว่า แปรรูปไม่ถูกต้อง และต้องการให้ยกเลิก ถอนบริษัทออกจากตลาดกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิม

หากว่าศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าผิดจริงเหมือนกรณี กฟผ. ผมว่าอันตรายนะครับเพราะจะทำให้ตลาดหุ้นพังไปทันที และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อประเทศไทยหมดไปเลย อย่าว่าแต่ตลาดหุ้นจะพังเลยครับ ตลาดเงินทั้งระบบจะพังตามไปด้วย

แต่เรื่องนี้ ผมว่าคุณโสภณ สุภาพงษ์ ดูจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นักนี่ครับ เพราะแก้พูดแต่คำว่าแปรรูปแล้วปตท. กลายเป้นของต่างชาติ และกำไรเป็นแสนลบ้านบาทเอาเปรียบประชาชน

เรื่องหลัง ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง เรื่องนี้ ทำให้โรงกลั่นมีค่าการกลั่นลดลง และทำกำไรที่จ่ายคืนกลับมาในรูปปันผลต่ำลงไปด้วย โอกาสที่จะผลกำไรปลายปีแย่ลงก็เป็นไปได้ แต่ผมกลับมองว่า ที่ผ่านมาตอนราคาน้ำมันเป็นขาขึ้นแรง ปตท.ก็ขาดทุนจากการค้าปลีกมาตลอด หากราคาน้ำมันลง และเริ่มมีเสถียรภาพ ก็คงจะทำให้การขาดทุนส่วนนี้ลดลงชดเชยหักกลบกันไป รวมความแล้วไม่น่าจะแย่กว่าเดิมกี่มากน้อย

ยิ่งระยะหลังปิโตรเคมีกลับมาดีขึ้นอีกมาก ก็น่าจะทำให้กำไรดีขึ้นด้วย

ส่วน PTTEP นั้นไม่เห็นต้องห่วงอะไรนี่ครับ ต้นทุนคงที่ ไม่ได้เพิ่มหรือลด แต่กำไรก็ขึ้นกับราคาแก๊สเท่านั้น ไม่น่าวิตกอะไร

ดังนั้น โดยภาพรวม ผมว่า หากรอจังหวะแนวรับตามสัญญาณทางเทคนิคให้ดี หุ้นทั้งสองตัวนี้ น่าจะมีโอกาสทำกำไรให้ได้ เพียงแต่คุณต้องอดทนมากกว่าปกตินิดหน่อยเท่านั้นเอง
ซื้อขายหุ้นพื้นฐานดีๆ ต้องใจเย็นครับ

.000002