May 2, 2024   10:26:08 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ.....เจ้าคะ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 16/11/2006 @ 12:17:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index
วันพุธที่ 15 พ.ย. ปิดที่ 734.05 จุด +0.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 19,193 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 951.56 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 265.10 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิที่ 686.46 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 735.80 จุด +1.93จุด และ Low ที่ดัชนี
729.95 จุด -3.92 จุด รอบนี้ SET บอกขอพักก่อนหลังจากช่วงก่อนหน้าได้ปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ
เลยขอปรับฐานยืนให้ได้แบบมั่นคงสักหน่อย จะได้หายใจได้คล่อง ๆ สำหรับชาวหุ้นที่พลาดการซื้อหุ้นในรอบที่แล้ว ตอนนี้ราคาบางตัวก็ได้ย่อลงมาให้รับกันแล้ว ก่อนที่จะสิ้นปีกัน ซึ่งก็รู้ ๆ
กันอยู่ว่า December Effect ที่ใกล้จะมาถึงแล้วนั้นจะส่งผลให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่จะดีดตัวขึ้น
(เพราะการปิดงบสิ้นปี)หุ้นบางตัวก็ปรับตัวลงหลังรับรู้ผลประกอบการที่ออกมาไม่ดี อ้อ..หากลงมาต่ำมากK.KRAZIPอยากแนะนำว่าเก็บไว้บ้างก็ดีนะเดี๋ยวราคาเค้ากลับขึ้นไปที่เดิมแล้วจะมานั่งสายเจียเสียใจว่าซื้อไว้ก็ดีทีหลังล่ะ สภาพตลาดโดยรวมเมื่อวานนี้ขึ้นลงทั้งแดนบวกและลบ มองแล้วหุ้นใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่เพราะไม่ได้ซื้อหรือขายกันแรง ๆ และเนื่องจากหุ้นเล็ก ๆ ที่วิ่งกันกระจายเต็มหน้ากระดานนั้นเทรดกันฝุ่นตลบทีเดียวขึ้นลงกันไปรายละหลาย ๆ รอบ
เซียนหุ้นทั้งหลายคงกระเป๋าตุงไปตาม ๆ กัน

AH
ราคาเปิด 19.70 บาท ราคาปิด 19.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8.243 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงใน 3Q06 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 94 ล้านบาท ลดลง 49% YoY จากยอดขายและgross marginลดลง แต่สำหรับกำไรในช่วง 4Q06 น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากการรับรู้รายได้จาก order ใหม่ของ Toshiba และ Nissan ซึ่งมี margin สูงกว่า order ปัจจุบัน ประมาณการกำไรทั้งปีจะอยู่ที่ 517 ล้านบาท และหากไม่คำนวณถึงผลกระทบที่ไม่คาดหวังที่เกิดขึ้นในปีนี้ เช่น การปิดโรงงาน Isuzu , ปัญหาน้ำท่วม ปัจจัยพื้นฐานของ AH ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจัยหลักที่จะทำให้เห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างแข็งแกร่งในปี 2007 คือ ฐานลูกค้าที่กระจายตัวมากขึ้น, คำสั่งซื้อใหม่ และจากการที่AH ยังมีแนวโน้มที่ดีของ รวมถึง upside ที่ยังมีจากการเข้าซื้อหุ้นใน KPN ดังนั้น ในช่วงที่ราคาหุ้นมีการปรับฐานลง น่าจะเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อ K.KRAZIPแนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 19.60 บาท แนวต้าน 20.50 บาท

CK
ราคาเปิด 10.70 บาท ราคาปิด 10.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 59.913 ล้านบาท รายงานรายได้จากการดำเนินงาน 3Q06 อยู่ที่ 4.8 พันลบ. โต 19%YoY จากการรับรู้รายได้จากโครงการที่มูลค่าสูง เช่น โครงการวงแหวนด้านใต้, โครงการ Ground Improvement, โครงการ Third Runway Project และ โครงการ Nam Ngum 2 Hydroelectric Power Project และรายได้จากการขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TTW จำนวน 81.25 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 3.2 บาท ซึ่งทำให้ CK บันทึกรับรู้กำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ 83 ล้านบาท กอปรกับการขายสัดส่วนเงินลงทุนในหุ้น BMCL ที่ได้ตอน IPO ส่งผลให้รายการขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทย่อย ดีขึ้นใน 3Q06ที่ 72 ล้านบาท จาก153 ล้านบาท ใน2Q06 K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 10.70 บาท แนวต้าน 11.50 บาท

PDI
ราคาเปิด 40.75 บาท ราคาปิด 41.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 85.95 ล้านบาท
บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/49 ออกมีมีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.03 บาท เติบโต 113% yoy โดยราคาสังกะสีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่เฉลี่ย 3,363
เหรียญ/ตัน ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 159% yoy เป็นปัจจัยหลักผลักดันให้ผลกำไรของบริษัทมีการเติบโตอย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตามหากเทียบกับไตรมาส 2/49 จะเห็นได้ว่าผลกำไรลดลง 58% qoq
เนื่องจากราคาสังกะสีในไตรมาส 3/49 แม้จะมีราคาสูงแต่ก็ไม่เหวี่ยงไหวมากนักทำให้บริษัทไม่ได้ประโยชน์มากนักจากสต๊อกสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าเหมือนเช่นไตรมาส 2/49 ที่ราคาสังกะสีปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณ 2,200 เหรียญ/ตันในไตรมาสแรกเป็นเฉลี่ย 3,300 เหรียญ/ตัน จึงประเมินว่าผลกำไรไตรมาส 4/49 ของบริษัทจะกลับมาดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/49 จากการที่ราคาสังกะสีโลกเริ่มกลับมามีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอีกครั้งในไตรมาสนี้ นอกจากผลกำไรของบริษัทแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทก็ยังมีความสัมพันธ์กับราคาสังกะสีโลก ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของบริษัท แม้ว่าราคาหุ้นจะดูไม่แพงเมื่อเทียบกับผลกำไรดังนั้นในปีนี้คาดว่าจะเป็นปีที่มีผลกำไรสูงสุดและคาดว่าจะอ่อนตัวลงในปีหน้าตามแนวโน้มราคาสังกะสี K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 40.50 บาท แนวต้าน 43.00 บาท

MAJOR
ราคาเปิด 15.80 บาท ราคาปิด 15.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 45.33 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ MAJORจะมีรายได้รวมประมาณ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีรายได้แล้วประมาณ 3.8 พันล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 55% มาจากรายได้จำหน่ายตั๋วหนัง, 10% มาจากธุรกิจโบว์ลิ่ง,10% มาจากธุรกิจมีเดีย, 8% มาจากรายได้พื้นที่ให้เช่าและ 12% มาจากธุรกิจดิสทริบิ้วชั่น การดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรก MAJOR มี EPS ที่ 0.78 บาท และในปี 2550 MAJOR คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เนื่องจากรายได้ที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจเดิม รวมถึงคาดว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายภาพยนตร์วีซีดีและดีวีดีจากธุรกิจดิสทริบิวชั่น ที่ได้ลิขสิทธิ์ใหม่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลให
MAJORมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นมาก ในQ 4/49 ยังมั่นใจว่าจะมีการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง เพราะจะมีภาพยนตร์เข้าฉาย 57 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่คาดว่าจะทำเงิน ได้แก่ 007 Casino royale Eragon เดจาวูและ แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 15.50แนวต้าน 16.30 บาท

ที่มา ทันหุ้น[/color:924afa7183">
.000005 .000005

 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#1 วันที่: 16/11/2006 @ 22:28:05 : re: กระซิบหน้าจอ.....เจ้าคะ
[b:a2e2505e05">เข้ามาฟังเสียงกระซิบค่ะ... .00020 [/b:a2e2505e05">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com