*โมนิก้า สะอิดสะเอียนกับท่าทีของหม่อมอุ๋ยเกินจะเปรียบเปรยได้ เพราะทันทีที่ดัชนีเด้งกลับขึ้นเกือบ 70 จุด ท่านก็ออกโรงคุยโขมงโฉงเฉ่งว่า เราได้มาร์เก็ตแคปกลับคืนมาแล้ว 5 แสนล้านบาท มันอุบาทว์นัยลูกกะตาไหมหล่ะ และเดี๊ยนไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพล่อยๆ ออกมาจากคนในระดับนี้

*เนื่องจากความเสียหายของนักลงทุนบางรายที่เกิดขึ้น มันเป็นคนละเรื่องกับมาร์เก็ตแคปที่กระเตื้องขึ้น เดี๊ยนเลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ประจานความล้มเหลวการบริหารงานของ

ธาริสา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. หญิงคนแรกของประเทศไทย หลังไม่สามารถแสดงให้เห็นความเป็นอิสระจากกระทรงการคลัง

*เหมือนเช่นในสมัยมิสเตอร์เยส กำจร สถิรกุล ผู้ว่า ธปท. ในสมัยนั้น ที่เอ่ออ๋อห่อหมกกับ สมหมาย ฮุนตระกูล ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ไปเสียทุกเรื่อง เพราะเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง และเป็นเจ้านายที่อุปถัมส์ค้ำชูกันมาเป็นเวลานาน เลยไม่กล้าขัดคอเจ้านายเก่า

*เนื่องจากตำแหน่งของมิสเตอร์เยสที่ได้มานั้น เกิดจากแรงผลักดันของเฮียสมหมาย ซึ่งแต่งตั้งเขามากับมือ แต่พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน และมีการเปลี่ยนตัว รมว.คลัง เป็น นายประมวล สภาวสุ อนาคตของมิสเตอร์ต้องดับวูบไปในทันที เพราะกลุ่มยังเติร์กแบงก์ชาติไม่เห็นด้วยกับแนวทางการบริหารงานมิสเตอร์เยส หลังการดำเนินงานขาดความเป็นอิสระ

*ผลดังกล่าวทำให้ รมว.คลัง ตัดสินใจเซ็นคำสั่งปลดมิสเตอร์เยสกลางอากาศ และเป็นที่มาว่า การดำเนินงานทุกอย่างของ ธปท. ควรแยกขาดจากกระทรวงการคลัง ไม่ใช่กระทรวงการคลังสั่งให้ไปซ้ายก็ไปซ้าย ไปขวาก็ไปขวา เพราะมันไร้ซึ่งศักดิ์ศรีคนที่ดำรงตำแหน่งนี้นะซี

*โมนิก้า ไม่ทราบว่าหน้าคุณเจ๊ปราศจากยางรึเปล่า ถึงทนให้คนในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุนสาปแช่งทุกเช้า ทุกเย็น โดยไม่มีรู้สึกสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียวแบบนี้...อยู่ไปก็ไลฟ์บอย

*ทางออกที่ดีสุดในยามนี้ คือ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะเป็นการแสดงสปิริตที่น่าชมเชย และอาจทำให้คนในแวดวงตลาดเงิน ตลาดทุน ออกมาชมเชยในความกล้าหาญมากกว่าติเตียนเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง ไม่ได้ทำให้เดี๊ยนปรับเปลี่ยนมุมมองในเชิงลบไปเป็นเชิงบวกได้หรอกนะ เพราะแรงซื้อที่กลับเข้ามาในคราวนี้ เกิดจากนักลงทุนกลุ่มสถาบันในประเทศล้วนๆ ซึ่งเม้าท์กันว่า มาจากใบสั่งของกระทรวงการคลัง การขึ้นในรอบนี้อาจไม่ใช่ของแท้พะยะค่ะ

*เนื่องจากการเทขายนักลงทุนต่างชาติจำนวน 2.80 พันล้านบาท ทำให้รู้ว่านักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ถึงได้เทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันนักลงทุนรายย่อยก็ฉวยโอกาสนี้เทขายหุ้นทิ้ง หลังมองว่าหุ้นแค่รีบาวนด์ และยังต้องมาเจอแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 700 จุดแบบนี้...ถือหุ้นต่อไปคงไม่ก่อประโยชน์อะไรทั้งสิ้นนะจะบอกให้

*โดยเฉพาะเม็ดเงินบนหน้าตักของนักลงทุนต่างชาติที่พร้อมทิ้งออกมาอีก 1.75 แสนล้านบาท ทำให้เดี๊ยนและทีมงานรู้สึกตะขิดตะขวงใจอย่างไรก็ไม่รู้ ขณะที่ ธปท. ก็ยังทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เหลน แล้วเดี๊ยนจะนอนหลับฝันหวานได้อย่างไรหล่ะจ๊ะ...งานนี้หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป รบกวนเจ๊ธาริสา ตอบข้อข้องใจดังกล่าวเป็นการด่วน

*สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดาหน้าปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โมนิก้า ถือเป็นการรีบาวนด์ธรรมดาๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญอะไรทั้งสิ้น เพราะตราบใดที่นักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นออกมาเป็นระรอก หุ้นก็คงไม่มีโอกาสกลับขึ้นไปปิดเหนือแนวรับเก่าครั้งก่อนได้หรอกค่ะ...เดี๊ยนพูดเช่นนี้ไม่ได้เป็นการบั้นทอนกำลังใจนักลงทุนหรอกนะ แต่พูดจากประสบการณ์ในช่วงปี

2543 ที่ต่างชาติเปิดตูดขนเงินกลับบ้าน ทำให้ดัชนีอยู่ในช่วงขาลงอย่างบูรณาการ มันร้าวรานใจเกินจะพรรณานะซี

*ด้านหุ้น GSTEEL ที่ปรับตัวลงมานั้นตามภาวะตลาด และพร้อมที่จะรีบาวนด์กลับขึ้นมาได้ในวันต่อมา แสดงให้เห็นว่าหุ้นตัวนี้ไม่ใช่มีแต่นักลงทุนในประเทศที่สนใจ แต่หากเป็นหุ้นขวัญใจของนักลงทุนต่างประเทศอีกต่างหาก ซึ่งวานนี้หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาก็เป็นแรงของนักลงทุนต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด ราคาหุ้นปิดที่ 0.95 บาท บวกไป 0.13 บาท

*ส่วนหุ้นAJ ที่นานๆ จะโผล่สักครั้งแบบนี้ โมนิก้าไม่แปลกใจเลยคะว่าทำไมถึงมีวอลุ่ม เพราะก่อนหน้านี้ถ้าจำไม่ผิด หุ้นพื้นฐานตัวนี้ก็หุ้นที่เสี่ยปู่ สมพงษ์ มีอยู่ในพอร์ตเหมือนกันคะ ส่วนจะเป็นฝีมือของสูเจ้าหรือเปล่านั้น คงต้องไปถามกันเอาเองคะ เดี๊ยนไม่ทราบคะ ราคาหุ้นปิดที่ 3.18 บาท บวกไป 0.12 บาท

*สำหรับหุ้น AMC ที่ปรับตัวขึ้นมาครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการปรับขึ้นตามภาวะดัชนีหุ้นที่พุ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่างานนี้ คงจะมีอะไรเซอร์ไพร์สให้เห็นอีกคะ ส่วนจะเป็นเมื่อไรนั้น ไว้จะเอาข้อมูลมาฝากคะ ราคาหุ้นปิดที่ 6.50 บาท บวกไป 0.50 บาท

*หุ้นRS ที่ปรับตัวขึ้นมา คงไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากการติดฟลอร์เมื่อวานก่อน ทำให้วันนี้ต้องชนซิลลิ่งให้เห็น ช่วงนี้ถ้าจะทำอะไรก็ทำไปเถอะคะ เพราะตอนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯเค้าคงจะปล่อยไปก่อนละคะ ราคาหุ้นปิดที่ 4.36 บาท บวกไป 1 บาทคะ