ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ มีการตีกลับทางเทคนิคเมื่อ?ธนาคารแห่งประเทศไทยกลับหลังหัน? ยอมผ่อนปรนนโยบายเรื่องการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวงการลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งเสียหายและถูกบังคับขายและเรียกเพิ่มหลักประกันซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบาย?ที่ไม่ถูกต้อง? นั้นไม่ได้รับการเหลียวแลจากทางการแต่อย่างใด ซึ่งสรุปได้ว่า
คนสร้างความเสียหายยังคงลอยนวลและลอยหน้าลอยตาทางสื่อสารมวลชนแบบขาดความรับผิดชอบต่อสังคม
ส่วนคำขอโทษนั้นยังไม่หลุดจากปากของคนเหล่านี้อ้างเพียงว่า ?ไม่เป็นไร? ซึ่งหากย้อนกลับไปว่า ?ถ้าหากผู้ดำเนินนโยบายเป็นผู้ถูกกระทำบ้างจะบอกว่าไม่เป็นไร? หรือเปล่ายังไม่ทราบได้

แนวโน้มดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้นแกว่งตัวในกรอบที่กว้างระหว่างดัชนี 622 -715 จุด ซึ่งเป็นการตีกลับทางเทคนิคเนื่องจาก ?ข้อมูลเปลี่ยนแปลง? ชนิดกลับตัวไม่ทันโดยอัตราการตีกลับของดัชนีราคาหุ้นทางเทคนิคนั้นอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 67% ซึ่งหากเทียบกับราคาหุ้นและดัชนีที่ ?ดิ่งเหวลงมานั้น? เทียบกันไม่ได้เพราะตัวเลขที่ราคาหุ้นดิ่งนั้นฐานในการคำนวณใหญ่กว่า เช่น ราคาTRUE ลงจาก 7.75 บาทมาปิดที่ต่ำสุด 5.45 บาทลดลงประมาณ 30% แต่เวลาขึ้นจาก 5.45 บาทอีก 30% จะได้ราคาซิลลิ่งที่ราคา 7.05 บาท ( 5.45 x 1.30 = 7.08 Vs 7.75 *.70 = 5.45 ผลต่างเกิดขึ้นในตัวเงินประมาณ 0.70 บาทต่อหุ้นมีหุ้นเท่าไหรคูณเข้าไปจะเห็นความแตกต่าง)ซึ่งนักลงทุนคงเห็นความแตกต่างว่า?คำว่าไม่เป็นไรนั้นหากคิดเป็นตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจมันไม่ใช่ธรรมดาเหมือนคำพูดของผู้กำกับหนังเรื่อง?ปีฉลูสู้ค่าเงินบาด 2006? ซึ่งทุ่มทุนสร้างวันเดียวประมาณ 800,000 ล้านบาทเล่นเอาบรรดาทุนต่างชาติ ?ขำกลิ้ง? เพราะทางการไทยใช้บท?ใช้เครื่องบินติดขีปนาวุธใส่ยุงที่สร้างความรำคาญ? อะไรทำนองนั้น

เอาเป็นว่า ปีหมาน่ากลัวจริง ๆ ตอนนี้ต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์การลงทุนใหม่ โดยมีตัวอย่างพฤติกรรมตลาดหุ้นระดับ ?คลาสสิก? มาเป็นบทเรียนใหม่สำหรับการลงทุน นั่นคือ ?การตกใจขาย? ควรจะมีการปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร จริง ๆ ในทางปฏิบัติเมื่อตลาดหุ้นมีความผันผวนเนื่องจากตัวแปรที่เข้ามากระทบเป็นตัวแปรที่เหนือความคาดหมาย?อย่างเหตุการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้? หากดัชนีปรับต่ำกว่า 10% มีมักจะเป็นสัญญาณการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น เพราะโดยปกติเวลาเกิดเหตุการณ์ ?เหนือคาด เช่น 9-11 รสช. สหรัฐบุกอิรัก? ส่วนใหญ่ราคาหุ้นจะตอบสนองรับข่าวร้ายทันทีและรวดเร็ว นักลงทุนบางท่านอาจจะใช้หลักราคาลดลงจากจุดสูงสุดประมาณ 30 ? 50 ? 70 % เป็นจุดเสี่ยงซื้อเพื่อการตีกลับระยะสั้น ทั้งนี้การใช้หลักดังกล่าวไม่ใช่ใช้อย่าง ?ขวานฝ่าซาก? แต่ต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และควรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ ?ความยืดเยื้อ? ของสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะพลิกสถานการณ์ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

หุ้นที่อยู่ในข่ายของการเข้ามาเก็งกำไรในกรณี ?ตื่นขาย? ส่วนมากจะเป็นหุ้นกลุ่มบลูชิพซึ่งการเข้าเก็งกำไรในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานั้นส่วนใหญ่เน้นความสามารถในการ ?อ่านเกม? ระยะสั้นในลักษณะ ?สวนกระแส? และเน้นการพิจารณาด้านการเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณ เช่นอัตราการลงของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับมูลค่ายุติธรรมหรือราคาตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ หุ้นที่อยู่ในข่ายได้รับความนิยมมักจะเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่เกิดอาการ?เสียศูนย์? แย่งกันให้ส่วนลดกับตลาดเพื่อหวัง ?เรียกลูกค้า? ให้เอาเงินไปแลกหุ้นโดยเน้นผลตอบแทนระยะสั้นแต่หากต้นทุนที่ซื้อได้ค่อนข้างได้เปรียบตลาดปัจจุบันมาก ๆ ก็อาจจะอนุญาตให้หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้น ?เจ้าบ้าน? อยู่ประจำพอร์ตการลงทุนเพื่อหวังเงินปันผลและส่วนเกินทุนเพิ่มขึ้นส่วนหุ้นเกรดรองลงมาและหุ้นเก็งกำไรก็สามารถอาศัยสถานการณ์ของตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นปรับตัวตามไปด้วย

อย่างไรก็ตามในแง่ความรู้สึกของนักลงทุนนั้นค่อนข้างจะผสมผสานและกันระหว่างกลัวกับกล้า เพราะเพิ่งเสียมาหมาด ๆ การจะกลับลำแบบ?กลืนน้ำลายตัวเองได้แบบแนบเนียน? นั้นอาจจะเป็นเรื่องยากต้องทำใจพอสมควร
เพราะความรู้สึกของนักลงทุนอาจจะกู้กลับยากหน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากขวัญเสียมาเพียงข้ามคืน แต่ที่สำคัญคือนักลงทุนต้องสามารถปรับตัวได้รวดเร็วเหมือน ๆกับทางการจึงจะสามารถอยู่ได้ในภาวการณ์เช่นนี้ กล่าวคือ ต้องผ่อนหนักเป็นเบาและต้องปรับตัวค่อนข้างรวดเร็วและตัดสินใจในการซื้อขายรวดเร็ว เพราะการเงื้อง่า?หมายถึงราคาแพง? และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

สำหรับคนที่เริ่มทำใจได้แล้วและยังเหลือเงินสดคาดว่าสภาพตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติแบบเดิมๆแต่เงินในกระเป๋าอาจจะไม่เท่าเดิมหุ้นที่สนใจสำหรับลงทุนและเก็งกำไรระยะสั้นที่น่าติดตามเช่น KTB BBL SCB PTTEP PTT KEST ITD PLE GBX GSTEEL NSM SSI TRUE IEC เป็นต้น


.00020

ขายก็ขาดทุน ไม่ขายก็ขาดทุน

ไม่เข็ด กลับมาเล่นใหม่ แล้วก็ขาดทุนอีก

ความโลภหน่อ. .000004