May 3, 2024   11:54:38 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นซอมบี้คืนชีพรับก.ล.ต.พ่ายคดี PICNI
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 22/12/2006 @ 00:04:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

PICNI จุดพลุ หุ้นซอมบี้คืนชีพ เด้งแรงยกแผงทั้ง IEC-APURE-EWC-LIVE-TRAF หลังศาลอาญาฯ ยกฟ้องกรณีก.ล.ต.ฟ้องเอาผิดอดีตผู้บริหาร PICNI และพวก 22 คน ผู้บริหารปลื้มส่งผลภาพพจน์บริษัทดีขึ้น ขณะที่ธีรัชชานนท์ ลั่นไม่ฟ้องกลับก.ล.ต. ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยคิดปั่นหุ้น ด้านบิ๊กก.ล.ต. เตรียมหารือสำนักงานอัยการ-ดีเอสไอ ก่อนตัดสินใจอุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่วงการ ยังไม่แนะนำลงทุน PICNI เหตุพื้นฐานยังไม่แจ่ม เช่นเดียวกับหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นแม้ราคาพุ่งสวนทางภาวะรวมตลาดฯ ชี้เมื่อหมดข่าวหรือหมดปัจจัยกระตุ้น

ในห้วงที่สถานการณ์ที่นักลงทุนต่างประเทศ ยังกระหน่ำทิ้งหุ้นต่อเนื่องจากมาตรการของธนาคารห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า กว่าจะเม็ดเงินและทุนนอกจะเข้ามาต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ตรงจุดนี้ทำให้หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่โอกาสที่จะปรับขึ้นจึงมีน้อย จึงทำให้นักลงทุนในตลาดกลับมามองหุ้นขนาดเล็กอีกครั้ง โดยวานนี้หุ้น บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) เป็นตัวจุดประกายสำคัญที่ทำให้หุ้นเก็งกำไร หรือหุ้นขนาดเล็กปรับตัวขึ้นสวนตลาดท่ามกลางการขายอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิอีก 998.13 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 775.39 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป 22.74 ล้านบาท
วานนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ศาลอาญากรุงเทพใต้ ว่า ศาลฯ พิพากษายกฟ้องคดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยื่นฟ้องอดีตผู้บริหาร บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) และพวกรวม 22 คน ฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรณีตกแต่งบัญชีอันเป็นเท็จ เนื่องจากศาลฯพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานและหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่จำเลยนำขึ้นสืบมีน้ำหนักรับฟังได้ และสามารถหักล้างข้อกล่าวหาของโจทก์ได้ ขณะที่คำฟ้องของโจทก์ไม่น้ำหนักเพียงพอ ทั้งในส่วนของการเปลี่ยนรูปแบบค่ามัดจำถังแก๊สเป็นสัญญาเช่าถังแก๊ส และการปล่อยกู้ให้แก่นิติบุคคลอื่น
โดยอดีตผู้บริหาร PICNI ที่ถูกฟ้องในคดีนี้ คือ นายธีรัชชานนท์ และ น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษตั้งแต่เดือน มิ.ย.48 หลังตรวจพบว่ามีการจัดทำเอกสารและบัญชีไม่ถูกต้อง รวมทั้งอาจเข้าข่ายทำหน้าที่โดยทุจริต


* ปลัด ก.ยุติธรรม เห็นด้วยตั้งคณะกรรมการมาสอบสวน
นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้อง คดีตกแต่งบัญชีรายได้ของอดีตผู้บริหาร PICNI ว่า หากกรมสอบสวนคดีพิเศษจัดตั้งคณะกรรมการมาสอบสวน ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และขอให้นำกรณีนี้ มาเป็นตัวอย่างในการสอบสวนที่ต้องรอบคอบรัดกุมมากขึ้น แต่เห็นว่า ไม่ควรตั้งคุณสมบัติการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เข้าเป็นตัวชี้วัดผลงาน แต่ขอให้ทำผลงานอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่า มีอะไรผิดหลักเกณฑ์ก็ต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบ
ขอย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจว่าการทำงานด้านยุติธรรมทางอาญาจะต้องไม่ยอมรับใบสั่งจากใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองก็ตาม จนทำให้สำนวนการสอบสวนอ่อนและผู้ใหญ่เอง ก็ต้องเข้าใจ พร้อมทั้งยึดถือผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญด้วย นายจรัญ กล่าว


*ธีรัชชานนท์ ลั่นไม่ฟ้งกลับก.ล.ต. และยังยันไม่เคยเจตนาปั่นหุ้น
ด้านนายธีรัชชานท์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องอดีตผู้บริหารบริษัทในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าตกแต่งบัญชีเท็จและไม่คิดจะฟ้องกลับ ก.ล.ต. แต่จากนี้จะกลับไปทำธุรกิจส่วนตัว
ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาปั่นหุ้น แต่การลงบัญชีในรูปแบบดังกล่าวเป็นโมเดลใหม่ทางธุรกิจของบริษัท ซึ่งใช้การลงบัญชีแบบประยุกต์ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งการเช่าถังแก๊สเป็นการเช่าจริง และมีการชำระภาษีครบถ้วน และเชื่อว่าหลังจากนี้ภาพพจน์ของบริษัทคงจะดีขึ้น


*บิ๊ก PICNI เผยหลังศาลฯ ยกฟ้องทำให้พนง.มีกำลังใจทำงาน-หาเอ็มดีใหม่ได้ง่ายขึ้น
พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน ประธานกรรมการและรักษาการตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(PICNI) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า การที่ศาลฯมีคำสั่งออกมาดังกล่าว ทำให้พนักงานของบริษัทมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาถือว่ากำลังใจในการทำงานหดหาย นอกจากนี้ ยังทำให้กระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการสรรหา


* PICNI หนุนหุ้นซอมบี้นพุ่ง / วงการ แนะจับตานลท.รายใหญ่บางรายอาจคืนชีพ
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ กล่าวว่า การที่ศาลอาญาฯ ตัดสินยกฟ้อง ให้อดีตผู้บริหาร PICNI และพวกพ้นผิด จากการกล่าวหาของ ก.ล.ต. นั้นเป็นที่น่าจับตามองทีเดียวว่า จากนี้ไปบรรดานักลงทุนรายใหญ่ที่เคยเกี่ยวข้องกับหุ้นดังกล่าว อาจจะกลับมามีบทบาทในตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง เพราะสิ่งที่ก.ล.ต.กล่าวโทษกลับกลายเป็นไม่มีความผิด อีกทั้งศาลฯยังมองว่าบุคคลเหล่านี้มีหลักฐานที่หักล้างกับข้อกล่าวหาของ ก.ล.ต. ได้ดีและน่าเชื่อถือ จึงน่าจะทำให้ชื่อเสียงและภาพพจน์ของพวกเขากลับคืนมาอีกครั้ง

เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีนักลงทุนรายใหญ่หลายรายกลับเข้ามาลงทุนในตลาดฯ และกลายเป็นแม่เหล็กของนักลงทุนรายย่อย หากมีชื่อเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวใดก็ตาม อีกทั้งยังน่าจะปลุกให้บรรดาหุ้นเก็งกำไรกลับมามีชีวิตชีวา และเป็นหุ้นดาวเด่นในตลาดฯได้อีกนานทีเดียว และยิ่งภาวะตลาดฯตอนนี้ไร้ซึ่งปัจจัยบวกที่น่าลงทุน มาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาจนทำให้นักลงทุนต่างประเทศถอยหนีตลาดหุ้นไทยกันหมด เนื่องจากขาดความไม่ไว้วางใจในการดำเนินนโยบายของ ธปท. ทำให้ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคป จึงยิ่งทำให้หุ้นเก็งกำไรเหล่านี้ กลายเป็นหุ้นยอดนิยมอีกครั้ง

อีกทั้งการที่ผู้บริหาร PICNI พ้นผิด ก็ยิ่งส่งผลดีหุ้น PICNI เข้าไปอีก เพราะในวงการก็รู้กันดีว่าหุ้นดังกล่าว เป็นหุ้นเก็งกำไรยอมนิยมอีก 1 ตัวของนักลงทุน เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมา จากผลประกอบการที่ตกต่ำ ภาพพจน์ที่ไม่ดีนักของผู้บริหาร และยิ่งเมื่อถูกกล่าวโทษจากทางการด้วยแล้ว จึงทำให้หุ้น PICNI หมดความน่าสนใจจากนักลงทุนลงไป เพราะไม่มีใครต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับหุ้นที่กำลังถูกจับตามอง เพราะฉะนั้นเมื่อผลตัดสินออกมา จึงทำให้เมื่อวานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับข่าวต่อเนื่องจนปิดตลาดฯ และก็ดูเหมือนว่าราคาจะขึ้นไปรับข่าวก่อนหน้าที่ศาลฯจะตัดสินด้วยซ้ำ และราคาหุ้น PICNI ที่ปรับตัวขึ้นนั้น ก็ส่งผลให้หุ้นเก็งกำไรตัวอื่นปรับตัวขึ้นตามด้วย

มักจะมาถูกที่ถูกเวลาตลอดสำหรับบรรดาหุ้นตัวเล็ก หรือหุ้นเก็งกำไร ซึ่งหากสังเกตุให้ดี ราคาหุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ ปรับขึ้นไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. แล้ว และก็มาปรับตัวอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อวานนี้ แม้ภาพรวมตลาดฯจะลดลง แต่หุ้นกลุ่มนี้ก็ยังแรงดี ยิ่งได้ข่าวดีของ PICNI เข้ามาก็ยิ่งส่งผลดีมากขึ้นไปอีก ดังนั้นแม้หุ้นตัวใหญ่จะร่วงแรง ดัชนีจะลดลง แต่หุ้นเหล่านี้ก็สามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน แหล่งข่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้น PICNI เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นเปิดที่ระดับ 0.32 บาท แต่จากนั้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ในช่วงเช้าจะมีข่าวการพิจารณาของศาลฯในคดีที่ ก.ล.ต.ฟ้องอดีตผู้บริหารก็ตาม และหลังจากนั้นเมื่อศาลฯพิพากษายกฟ้องราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีก โดยขึ้นไปสูงสุด 0.58 บาท เพิ่มขึ้นถึง 0.26 บาท หรือ 81.25% ก่อนที่จะปรับลดลงมาและปิดที่ระดับ 0.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 หรือ 43.75% มีมูลค่าการซื้อขาย 1,030.09 ล้านบาท

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 22/12/2006 @ 00:05:57 : re: หุ้นซอมบี้คืนชีพรับก.ล.ต.พ่ายคดี PICNI
นอกจากราคาหุ้น PICNI ที่ปรับขึ้นไปแล้ว หุ้นเก็งกำไรตัวอื่นก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย หุ้น IEC ปิดที่ 1.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 0.81% มูลค่าการซื้อขาย 318.04 ล้านบาท หุ้น ITV ปิดที่ 1.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 1.44% มูลค่าการซื้อขาย 147.11 ล้านบาท หุ้นSTAR อยู่ที่ 1.99 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท หรือ 19.16% มูลค่าการซื้อขาย 147.67 ล้านบาท
หุ้น TRAF ปิดที่ 0.43 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 เพิ่มขึ้น 10.26% มูลค่าการซื้อขาย 14.95% หุ้น KMC-W1 อยู่ที่ 0.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 32.48 ล้านบาท หุ้น LIVE ปิดที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท หรือ 5.11% มูลค่าการซื้อขาย 127.84 ล้านบาท หุ้น APURE อยู่ที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 97.27 ล้านบาท หุ้นEWC เพิ่มขึ้น 6.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.84 ล้านบาท และหุ้น EWC-W1 อยู่ที่ 3.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8.94 ล้านบาท


* กูรู ยังแนะหลีกเลี่ยง PICNI ไม่สนแม้ราคาพุ่งรับข่าวศาลฯยกฟ้อง
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ยกฟ้องคดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ยื่นฟ้อง บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) และอดีตผู้บริหารบริษัท 22 คน ในข้อหาตกแต่งบัญชีว่าไม่น่าจะมีนัยสำคัญต่อภาพพจน์ของ PICNI รวมทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมาได้หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งโครงสร้างรายได้ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น PICNI
ที่ราคาหุ้น PICNI ปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ เพราะนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรธรรมดาไม่ได้มีอะไถามว่าหลังจากศาลฯ ยกฟ้องแล้ว ปัจจัยพื้นฐานของ PICNI จะเปลี่ยนไปไหม ผมก็ยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงเหมือนเดิม ส่วนตัวบุคคลจะกลับเข้ามาโดดเด่นในวงการธุรกิจอีกหรือไม่บอกไม่ได้เพราะมันจะต้องดูการดำเนินธุรกิจก่อน ซึ่งไม่เกี่ยวกับบุคคล นายรณกฤต กล่าว
ประเมินแนวรับที่ 0.39 บาท และแนวต้านประเมินไว้ที่ 0.60 บาท


* บล.นครหลวงไทย ชี้ โอกาสทองหุ้นเก็งกำไรฟื้น
นางสาวธริษา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสของหุ้นเก็งกำไรที่จะเข้ามา เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยอะไรให้เล่น ซึ่งแม้จะมีข่าวเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลบวกต่อหุ้นเก็งกำไรได้ แต่โดยเทรนด์มองว่าเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น โดยหาหุ้นที่มีข่าวมาเล่น แต่หากมองในพื้นฐานแล้วยังไม่น่าสนใจเพราะหุ้นเก็งกำไรบางตัวยังมีความเสี่ยงอยู่
หุ้นหลักยังไม่ชัดเจนและสัปดาห์หน้าเป็นช่วงคริสมาสต์ฮอลิเดย์ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนและขายออกมา จึงทำให้นักลงทุนหันเข้ามาเล่นหุ้นเก็งกำไรกันมากอย่างเช่นบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) มีข่าวกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกฟ้องกรณีกล่าวโทษผู้บริหาร PICNI ตกแต่งบัญชี ทำให้บวกได้ทั้งที่มองพื้นฐานแล้วรายได้ยังขาดทุนอยู่ นางสาวธริษา กล่าว
อย่างไรก็ดี มองว่าในสภาวะตลาดเช่นนี้ยังไม่เหมาะสมเข้าไปลงทุนหุ้นเก็งกำไร เนื่องจากไม่สามารถจับทางได้พื้นฐานบางตัวก็ยังไม่ค่อยดี ดังนั้นหากจะเข้าซื้อลงทุนควรดูหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีความชัดเจนและมั่นคงในเรื่องของรายได้ ประกอบกับจะมีปัจจัยดีๆ เข้ามากระตุ้น เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าหรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น LPN CPN LH BANPU EGCOMP และ RATCH โดยให้ราคาเป้าหมาย LPN ที่ 6.40 บาท CPN 26.50 บาท และ LH 9.50 บาท
ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้า BANPU ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 178.10 บาท EGCOMP 105.80 บาท และ RATCH 48 บาท


* บล.กรุงศรีฯ ไม่เชียร์ ยังแนะหุ้นพื้นฐานแบงก์-พลังงาน
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าการที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กในวันนี้ เป็นแค่การเข้ามาเก็งกำไรเพราะข่าวเท่านั้น โดยเฉพาะ หุ้นของบริษัท PICNI ที่โดดเด่นมากในวันนี้ ก็มาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกฟ้องกรณีกล่าวโทษผู้บริหาร PICNI ตกแต่งบัญชี ส่วนภาพรวมของปริมาณการซื้อขายในหุ้นกลุ่มดังกล่าวก็เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งดูแล้วปริมาณการซื้อขายยังไม่มากพอที่จะเข้าไปเล่นเก็งกำไร
ส่วนมากแรงซื้อที่เข้ามาในกลุ่มดังกล่าว เป็นแค่การเก็งกำไรจากข่าวเท่านั้น เมื่อหมดข่าวหรือหมดปัจจัยกระตุ้น กระแสการลงทุนก็หมดตามไปด้วย รวมทั้งปริมาณการซื้อขายก็น้อย เป็นแค่ปลายแถวของเม็ดเงินลงทุนเท่านั้น นายสุเชษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังคงมองว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มเก็งกำไร เนื่องจากปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง และส่วนมากนักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรเพราะกระแสข่าวเท่านั้น พร้อม แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มมาเก็ปแค็ปขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มธนาคาร และหุ้น PTT-PTTEP -SCC -TOP และ AOT



* ก.ล.ต.เตรียมหารืออัยการ-DSI ก่อนตัดสินใจอุทธรณ์ภายใน 30 วัน
นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถงกรณีที่ศาลอาญาฯ ยกฟ้องผู้บริหาร PICNI ว่า หลังจากนี้ ก.ล.ต.จะหารือสำนักงานอัยการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ก่อนจะพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีฟ้องร้องอดีตผู้บริหาร PICNI และพวกรวม 22 คนฐานตกแต่งบัญชีเป็นเท็จหรือไม่ โดยมีเวลาตัดสินใจ 30 วันตามกฎหมาย
ขั้นตอนต่อไปทาง ก.ล.ต.จะนำคำพิพากษากลับมาพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำไปหารือกับทางอัยการว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งขั้นตอนอัยการยังสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ที่จะต้องหารืออัยการผู้ทำคดีในการอุทธรณ์ว่าจะอุทธรณ์ในประเด็นไหน อย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องยื่นข้อมูลใดๆเพิ่มเติม นายประสงค์ กล่าว
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นเทคนิคทางด้านบัญชี เพราะฉะนั้นต้องยอมรับว่าการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับด้านบัญชีมีน้อย ดังนั้นคงต้องนำเรื่องนี้มาศึกษาในเชิงวิชาการ ว่าในการดำเนินการฟ้องคดีในเรื่องลักษณะเช่นนี้ จะต้องมีข้อมูลอะไรประกอบบ้าง และในอนาคตจะทำอย่างไร เพราะหลายคดีที่มีการยกฟ้อง เป็นการสรุปตามหลักฐาน ซึ่งในส่วนของก.ล.ต. นั้นเมื่อดูแล้วเข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ หากไมทำก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายวสันต์ เทียนหอม ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต.กล่าวว่า ขณะนี้ก.ล.ต.ยังมีคดีค้างอยู่ 3 คดีที่ได้ยื่นข้อมูลให้กับทาง DSI ได้แก่ คดีกล่าวโทษผู้บริหารบมจ.กรุงเทพผลิตเหล็ก(BSI) เกี่ยวกับการจัดทำงบบัญชีไม่ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งคดีนี้ใกล้จะส่งให้อัยการได้แล้ว และคดีร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารบมจ.เพาเวอร์-พี(POWER)3 รายมีส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วมในการจัดทำบัญชีของบริษัทไม่ถูกต้อง และ คดีกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ PICNI กรณีที่จัดทำเอกสารและบัญชีเกี่ยวกับการทำสัญญาและการรับรู้รายได้ซึ่งบันทึกเป็นการให้เช่าถังแก๊สตามงบการเงินปี 2547 ไม่ถูกต้อง


* ก.ล.ต.แถลงผลงานปี49 ระบุ ปีนี้ดำเนินคดีอาญากล่าวโทษ 4 คดี 20 ราย
นอกจากนี้ วานนี้ กล.ต. ยังได้แถลงผลงานในปี 2549 ด้วย โดยนายธีระชัย กล่าวว่า ในปีนี้ ก.ล.ต.มีการดำเนินคดีอาญา โดยกล่าวโทษทั้งสิ้น 4 คดี จำนวน 20 ราย และเปรียบเทียบปรับ 80 เรื่องมูลค่า 44.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 จำนวน 32 เรื่องหรือคิดเป็น 67% และจำนวนค่าปรับเพิ่มขึ้น 29.53 ล้านบาท คิดเป็น 193% ในขณะที่ศาลฯพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับการสร้างราคาของ บริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) (KMC) นอกจากนี้ ยังพิพากษาลงโทษอดีตผู้บริหารบริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP) ทุจริตโดยพิพากษาจำคุกแต่ให้รอการลงโทษ ในขณะที่ศาลฯ ยังพิพากษาจำคุกโดยรอลงโทษเปรียบเทียบปรับกรณีที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คดี
และ ก.ล.ต.ยังได้อนุญาตให้มีการออกหุ้นไอพีโอจำนวน 19 บริษัท โดยได้ระดมทุนไปแล้ว 14 บริษัท มูลค่า 3.8 หมื่นล้านบาท โดยก.ล.ต.ได้กลั่นกรองคุณภาพของบริษัทที่จะระดมทุน เพื่อให้ตลาดทุนเป็นช่องทางระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ มีต้นทุนต่ำ รวมทั้งมีสินค้าที่มีคุณภาพอีกด้วย


* ปี50 เน้นมาตรฐาน CG-ประเมินคุณภาพ AGM-ดึงบจ.ในอินโดจีนเทรด
สำหรับผลงานในปี 2550 นั้น นายธีระชัย กล่าวว่า ภารกิจหนึ่งของ ก.ล.ต. คือการเข้ารับการประเมินทางด้านการเงินของประเทศ หรือ FSAP ซึ่งในปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน ด้วยการปรับปรุงกฎหมายการกำกับดูแลตลาดทุนรวมถึงการป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนเงินในการก่อการร้าย และได้ซักซ้อมผู้ที่เกี่ยวข้องให้มีความพร้อมสำหรับการประเมินดังกล่าว นอกจากนี้ การเปิดเสรีใบอนุญาตใน 5 ปีข้างหน้า ทำให้ ก.ล.ต. จะต้องทำงานหนักร่วมกับผู้ประกอบการในธุรกิจหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ยังคงให้ความสำคัญกับการรับฟังความเห็นของภาคเอกชน ทั้งในด้านการกำกับดูแลและการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาดทุน เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
อีกทั้งยังมีแผนที่จะศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดึงให้บริษัทในอินโดจีน ซึ่งประกอบด้วย ลาว เวียดนาม ซึ่งมีบุคคลหรือมีนิติบุคคลไทยร่วมถือหุ้น รวมทั้งบริษัทในไทยที่มีชาวต่างประเทศร่วมทุนให้มาระดมทุนในตลาดหุ้นไทย โดยแผนดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในปีหน้าได้หรือไม่ เพราะยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล
แผนงานแรกของ ก.ล.ต.ในปีหน้าคือจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติให้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเหมือนเดิม โดยก.ล.ต.จะติดตามให้บริษัทจดทะเบียนปฏิบัติตามมาตรฐาน CG อย่างจริงจัง รวมทั้งประเมินคุณภาพของ AGM (ยกระดับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี) ให้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังจะมีการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติได้รับทราบอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังเปิดแผนกลยุทธ์ 3 ปี 2550-2552 โดยเน้น 6 ด้านหลัก
1.ธุรกิจหลักทรัพย์มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นและมีทางหารายได้ประเภทอื่นนอกจาก ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น
2.การเพิ่มบทบาทของตลาดทุนไทยในภูมิภาค
3. การให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น
4. การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีบทบาทสำคัญมากขึ้น
5. การยกระดับมาตรฐานของตลาดทุนไทย
6. การให้ ก.ล.ต. เป็นองค์กรที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 22/12/2006 @ 09:17:42 : re: หุ้นซอมบี้คืนชีพรับก.ล.ต.พ่ายคดี PICNI

ยังเป็นซอมบี้อยู่หรือเปล่านี่[/size:6a5f0071f3">

.000009
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com