* สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นอาจเงียบเป็นเป่าสาก เพราะนักลงทุนต่างชาติหยุดซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว
เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ และงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
จึงหลงเหลือแต่พวกฝรั่งหัวดำซื้อๆ ขายๆ แก้เซ็งไปอย่างงั้น....
นักลงทุนจึงควรตัวเตรียมใจรับสภาพตลาดหุ้นซบเซาตั้งแต่เนิ่นๆ
และอย่าหวังจะได้เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปถึง 700 จุดในระยะสั้นอีกเลย

*สำหรับข่าวเด่นประเด็นร้อนของสัปดาห์ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับมาตรการ 19 ธันวาฯของแบงก์ชาติ ยังคงมีเรื่องราวให้พูดกันไม่จบ
เพราะถ้ามาคิดดีๆ จะเห็นว่า เสี่ยแม้วกับท่านชาย เป็นคนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายยับเยินด้วยกันทั้งคู่...
คนแรกอาจใช้เวลานานถึงใช้เวลา 5 ปี โกงประเทศไปแสนล้าน
แต่สำหรับคนหลังใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน เงินหายไปถึง 8 แสนล้านบาท พะยะค่ะ

*ขอเปลี่ยนเรื่องมาที่การลาออกของสุวิช รัตนยานนท์ CEO ของ บล.บีฟิท
งานนี้หลายๆ คนไม่ค่อยจะเชื่อว่า สุวิช จะลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากต้องการพักผ่อน
แต่ โมนิก้ารู้สึกว่า จะมีเงื่อนงำอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ เลยคะ เพราะอยู่ดีๆ ไม่มีเหตุการณ์อะไร ทำไมถึงลาออกได้
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้ผ่าฟันในการเป็นผู้นำยื่นฟ้องร้องตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการย้ายงานของมาร์เก็ตติ้ง
ทำไม๊ ทำไม ????ต้องออก อย่างนี้ต้องสืบคะ

*ขอเวลาเดี๊ยนสักพัก?! แล้วจะเอามาเล่าให้กับแฟนๆ ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ทำไมถึงให้ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เข้ามานั่งตำแหน่งแทน
อันนี้ โมนิก้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเข้ามาทำไม
เพราะความสามารถในการบริหารงานแค่หางอึ่ง... ดูอย่างไรก็ด้อยกว่า สุวิช อยู่หลายขุม เจ้าค่ะ

*ที่สำคัญประสบการณ์และความรู้เจ้าของฉายา ไข่มุกดำ ก็มีแค่ ด้านมาร์เก็ตติ้งเท่านั้น
ส่วนงานด้านบริหารคงต้องฝึกอีกสักระยะ เดี๊ยนถึงงงกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก
และไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดดันเขาขึ้นเป็นCEO แทน แต่ก็เอาเถอะไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมคะ

*ถ้าสุวิช ลาออกเพราะมีเรื่อง มีราวกันในโบรกฯจริงอย่างที่ตั้งข้อสังเกตไว้
งานนี้วิเชียร เอื้อสงวนกุล ไอบีมือฉมัง ที่พึ่งกระโดดข้ามห้วย อาจรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
และรู้ซึ้งกับคำว่า หนีเสือปะจรเข้ เป็นอย่างไร...
เพราะสุวิช เป็นคนชักชวน วิเชียร ให้มาทำงานด้วย ซึ่งทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสมัยที่เรียนเศรษฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาฯมาด้วยกัน
การมาจากไปครั้งนี้จะทำให้ทีมไอบีนี้ ขาดที่พึ่งทางใจหรือไม่ อันนี้ต้องถามกันเอาเองคะ

*เมื่อพูดถึงโบรกเกอร์แล้ว ก็ขอต่อเรื่องของ TISCO
เพราะล่าสุด ชวลิต จินดาวณิคผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จะขออำลาไปในสิ้นปีนี้แล้ว
ส่วนจะกระทบกระเทือนอะไรในทิสโก้ หรือเปล่านั้น ผู้สัดทัดกรณีกล่าวว่า
โบรกฯแห่งนี้กลายเป็นสถาบันไปแล้ว คงไม่ต้องกังวลเรื่องคนออกหรอก
และต้องยึดถือตามหลักสัจธรรมว่า มีเข้าก็ต้องมีออก มีออกก็ต้องมีเข้า อย่างนี้มันถึงจะสมดุลคะ โมนิก้า ชอบ(อิอิอิ)

*สำหรับโบรกฯเล็กอย่าง บล.ไซนัส ไม่ใช่คะ บล.ไซรัส ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่า ปีหน้าจะเทรดหุ้นลูกเดียว
โดยจะดึงเงินสะสมที่มีอยู่ 700 ล้านบาท มาใช้ในการเทรดหุ้นบางส่วน ซึ่งน่าจะทำให้แนวโน้มปีหน้ามีการเติบโตขึ้น
อันนี้ โมนิก้าไม่ทราบว่า การหากินกับมาร์เก็ตแชร์ ลำบากหรืออย่างไรคะ
ถึงได้หันมาใช้เพิ่มการลงทุนแบบนี้ หรือเป็นเพราะต้องการทำตามนโยบายของ ก.ล.ต.หรือเปล่า
ที่ไม่อยากให้โบรกเกอร์พึ่งพิงรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์มากเกินไป
อันนี้คงต้องถาม สมภพ กีระสุนทรพงษ์ ดูเจ้าคะ

*ด้านหุ้นเรืออย่าง TTA ประกาศจ่ายปันผลออกมาอีกรอบแล้วของปีนี้
โดยครั้งนี้จะปันผลแก่ผู้ถือหุ้น 0.70 บาท รวมแล้วเบ็ดเสร็จปีนี้จ่ายรวมแล้ว 1.35 บาท
บวกกับของเดิมที่จ่ายระวางกาลไปแล้ว 0.60 บาท แจ่มแจ๋วไหมหล่ะ
มีทั้งเงินปันผล มีทั้งเงินซื้อเรือเพิ่ม แสดงให้เห็นชัดว่าสภาพคล่องทางการเงินมีสูง
แถมกำไรก็มีมาก เห็นแบบนี้ไม่ลงทุนไม่ได้แล้วละคะ

*อ้าว! เป็นเรื่องอีกแล้ว เมื่อ SGF ถูกก.ล.ต. สั่งให้แก้ไขงบไตรมาส 3
เนื่องจากผู้สอบบัญชีเห็นว่าไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
กรณีที่มีการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้สินเชื่อ 7 ราย จำนวน 500 ล้านบาท
(ที่เคยตั้งค่าเผื่อฯ ทั้งจำนวนในไตรมาส 2) เป็นรายได้ในงบกำไรขาดทุน และล้างบัญชีลูกหนี้สินเชื่อ 7 ราย
และเจ้าหนี้เงินกู้ยืมจาก EWC ออกจากงบดุล

*ของมันเห็นอยู่แล้วว่าถ้าลงบัญชีแบบนี้ต้องผิดเต็มประตู แต่ก็ยังตะบี้ ตะบัน ลงไปซะอย่างงี้
เห็นแบบนี้น่าจะจับCFO ของบริษัท มาเรียนบัญชีใหม่แล้วกระมังคะ
ซึ่งการลงบัญชีแบบไม่มีมาตรฐานแบบนี้ จะมีอยู่สองประเด็นคะ คือ ไม่รู้ หรือ ลงผิด
กับ ตั้งใจลงผิด ส่วนจะเป็นแบบไหนนั้นคงต้องไปคิดกันเอาเองคะ (555)

*อย่างไรเสีย โมนิก้าก็ขอฝากบอกไปทาง ทองไทร บูรพชัยศรี ด้วยนะคะ
ว่าตอนนี้ ลูกน้องของเฮียวิชัย ทองแตง ที่ชื่อ ชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการบริษัท
ได้ทำอะไรกับบริษัทของคุณแล้ว อย่ามัวแต่ถือหุ้นอย่างเดียวนะคะ ออกมาทำอะไรบ้าง
ถ้าไม่เห็นนั้น อาจจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือ
ลามไปถึงบริษัทในตลาดหุ้นบริษัทอื่นของ ตระกูลบูรพชัยศรี อย่าง METRO ด้วยนะคะ (ขอเตือนไว้ก่อน)

*โปรดฟังอีกครั้ง! สำหรับผู้ที่ยังไม่ลงทุนในหุ้นGSTEEL ปีหน้าฟ้าใหม่ ราคาหุ้นจะวิ่งไปมากกว่าที่เห็นอยู่
ตอนนี้ราคาหุ้นต่ำบาท ถือว่าถูกมาก ม๊าก ไม่เข้าตอนนี้แล้วจะเสียใจ และดีกว่าไปซื้อหุ้นตัวใหญ่ราคาแพง
ที่ขยับแต่ละที รอจนแห้งแล้วแห้งอีก ก็ยังไม่ได้กำไรตามเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการสักที (โปรดฟังอีกครั้ง เจ้าคะ)