ตลาดหุ้นทั่วเอเชียโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2549 โดยสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและการเติบโตอย่างร้อนแรงในจีนและอินเดีย

ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นปิดการซื้อขายในวันสุดท้ายของปี 2549 ที่ระดับ 17,225.83 จุดเพิ่มจากปี 2548 ประมาณ 7% ในขณะเดียวกัน ดัชนีเซนเซกซ์ของอินเดีย มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 46% ในปีที่ผ่านมา โดยโตเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

แม้ว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจะดีดตัวแรง แต่นักวิเคราะห์โดยทั่วไปก็ยังมีมุมมองในด้านบวกเกี่ยวกับแนวโน้มหุ้นในปี 2550 แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ
บางคนเชื่อว่า ดัชนีนิกเกอิอาจจะทะลุ 20,000 จุด ในปีนี้!

ตลาดอื่นๆในเอเชียส่งท้ายปี 2549 ด้วยการดีดตัวสูงมากเช่นกัน ดัชนีเอสแอนด์ พี/เอเอสเอ็กซ์ 200 ของออสเตรเลียทำสถิติที่ 5,684.4 จุด ก่อนที่จะปิดที่ 5,6669.9 จุดโดยทั้งปีหุ้นดีดตัวขึ้นถึง 19%

ดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกงปิดที่ 19,964.72 จุด ดีดตัวจากปี 2548 เพิ่มขึ้น 34.2% ขณะที่ในยุโรป ดันีเอฟทีเอสอี 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 6220.8 จุด เท่ากับดีดตัวขึ้นในปี 2549เกือบ 11%

หุ้นญี่ปุ่นหลายตัวมีความแข็งแกร่งมากในช่วงปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะเกิดเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอินเทอร์เน็ตไลฟ์ ดอร์จนทำให้เกิดแรงเทขายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโดยทั่วไปเมินผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งได้ทำสถิติสูงสุดที่ 78ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน

แต่การอ่อนตัวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะเยน ได้ทำให้บริษัทส่งออกอย่างเช่น โตโยต้า และแคนนอน ต้องพบกับความลำบากมากขึ้นกำไรบริษัท

นักวิเคราะห์มีความเชื่อมั่นแต่แนวโน้มในปีนี้ แม้ว่าจะกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังไม่แน่ว่าผู้กำหนดนโยบายจะผ่อนคลายนโยบายเงินอีกหรือไม่

ธนาคารกลางญี่ปุ่นขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.25% เมื่อต้นปีที่แล้ว เพื่อปิดฉากอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร็เซนต์ที่ใช้มานาน 5 ปี และยังถือเป็นการยุติกลยุทธ์ปราบเงินฝืดที่ใช้มานานด้วย

ผมมีความมั่นใจในปีนี้ แม้ว่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสหรัฐ แต่วอลสตรีทน่าจะยังคงเติบโต และเมื่อดูจากปัจจัยเหล่านี้ มันยากที่จะจินตนาการว่าจะมีการเทขายหุ้นญี่ปุ่นจุนโมริตะ ผู้จัดการกองทุนชิบากิน แอสเซ็ต แมเนจเมนต์กล่าว

ความมั่นใจในอินเดียก็มีสูงมาก หลังจากที่ดัชนีเซนเซกซ์ของตลาหุ้นมุมไบฝ่าระดับ 13,000 จุด เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา

แนวโน้มหุ้นอินเดียยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ โดยมีภาคอุตสาหกรรมเติบโตนำและรายได้บริษัทมีความแข็งแกร่ง มาโนช คาไคยา ดีลเลอร์ บริษัท ยูแอล เจเค ซีเคียวริตีส์ กล่าว