บล.ธนชาตแนะ?ถือ?หุ้นจิ๋ว?FOCUS?คาดกำไรสุทธิไตรมาส4/2549อยู่ที่ 9 ล้านบาทจากมูลค่างานในมือปรับตัวเพิ่มขึ้นหนุนรายได้จากการก่อสร้างเพิ่ม ส่วนสัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นสร้างฐานให้กรอบการลงทุนที่แนวรับแรก 2.20 บาท แนวรับถัดไป 2.00 บาท และ 1.90 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 2.68 บาท หากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 2.70 บาท และ 2.80 บาท ด้านบล.ไอวี โกลบอล แนะ?ซื้อ? PICO
คาดรายได้ยังเติบโตต่อเนื่องจาก 2 ธุรกิจหลักประเมินกำไรขั้นต้นปีหน้าที่ 20.7% จากปีนี้ที่ 21.2%
ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 9.5%ให้เป้าราคา 4.34 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด ประมาณการผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2549 หุ้นบริษัท โฟคัส
เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ FOCUS ว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส
3/2549 แต่ดีขึ้นประมาณเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมูลค่างานในมือที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยทางฝ่ายประมาณการว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2549
อยู่ที่ 9 ล้านบาท ณ ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 2.36 บาท มี upside เหลือเพียง 4.2% จึงแนะนำ ?ถือ?
ส่วนสัญญาณทางเทคนิคปริมาณการซื้อขายยังมีค่อนข้างน้อย แต่ก็มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง
คาดว่าทิศทางระยะสั้นน่าจะสร้างฐานที่บริเวณนี้ได้สักพักหลังจากที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ดังนั้นจึงให้กรอบการลงทุนที่แนวรับแรก 2.20 บาท แนวรับถัดไป 2.00 บาท และ 1.90 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 2.68 บาท
ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 2.70 บาท และ 2.80 บาท
อย่างไรก็ตามบริษัทได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างสนามเทนนิส มูลค่า 49 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานก่อสร้างโครงการที่สองต่อจากโครงการแรกที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งทางฝ่ายได้คำนวณรวมงานโครงการดังกล่าวนี้ไว้ในประมาณการงานประมูลในปีหน้าแล้ว โดยประเมินว่าในปีหน้าทั้งปี บริษัทจะสามารถประมูลงานใหม่ได้รวมทั้งสิ้น 1.3 พันล้านบาท
ราคาหุ้นFOCUS(29 ธ.ค.49) เปิดที่ระดับ 2.38 บาทปรับขึ้นสูงสุด 2.42 บาท ต่ำสุด 2.36 บาท และปิดที่ระดับ 2.40 บาท เปลี่ยนแปลง 0.04 บาทหรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 7.7 แสนบาท

หนุน ?PICO?หุ้นปันผลเด่น
บริษัทหลักทรัพย์ไอวี โกลบอล จำกัด(มหาชน)หรือ IVG ประเมินหุ้น บริษัท ปิโก
(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO ว่าได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐบาลทำให้ PICO มีรายได้ในปี
2549 เติบโตสูงถึง 54% ซึ่งรายได้หลักมาจาก 2 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจของ Event marketing
ที่เติบโตจากปีที่แล้ว 26% และ ธุรกิจ Knowledge&Communication ที่เติบโตจากปีที่แล้ว
150%
ทั้งนี้ทางฝ่ายคาดว่ากำไรสุทธิปี 2550 จะเติบโตน้อยกว่ารายได้ โดยคาดว่ารายได้จะมีการเติบโตที่
15% แบ่งเป็นเติบโตในธุรกิจ Even marketing 15% และการเติบโตในธุรกิจ
Knowledge&Communication 25% แต่กำไรสุทธิจะเติบโตต่ำกว่าที่ 5.2% เนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ ด้าน Knowledge&Communication ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่ารายได้ด้าน Even marketing
ประมาณ 5%
โดยทางฝ่ายประเมินอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมสำหรับปี 2550 ไว้ที่ 20.7% จาก 21.2%
ในปี 2549 ดังนั้นจึงแนะนำ?ซื้อ? มี Upside 15% ให้ราคาเป้าหมายปี 2550 ไว้ที่ 4.34 บาท
โดยใช้ P/E 7 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E ตลาดmai ที่ 8 เท่า เนื่องจากสภาพคล่องของ PICO อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดmai โดยรวม คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 9.5% ซึ่งจัดให้เป็น 1 ในหุ้นปันผลเด่นในตลาดmai

?MBAX?เป้าราคา5.27-6.78บ.
บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด(มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น มัลติแบกซ์ จำกัด(มหาชน)หรือ
MBAX ประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออกถุงพลาสติกประเภทต่างๆ ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดmai วันที่ 30 มกราคม ปี 2550 ว่าจะอยู่ระหว่าง 5.27-6.78 บาท โดยใช้ PE ที่ประมาณ
7-9 เท่า คิดจาก Average PE Ratio ของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่ 8.5 เท่า ซึ่ง PE ที่ได้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดmai ที่ 8.5 เท่า

ทั้งนี้ทางฝ่ายมองว่า MBAX สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับผลดีจากราคาวัตถุดิบหลัก
Polyethylene ที่มีแนวโน้มปรับตัวลงในปี 2550 ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงตามนโยบายของ

ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงการขยายผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกประเภท LDPE ซึ่งมีราคาขายและกำไรขั้นต้นสูงกว่าถุงพลาสติก HDPE และการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เกิด economic of scale


.00020