May 5, 2024   5:49:01 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกฯ คาดกลุ่มแบงก์ปี 50 กำไรดีขึ้นจากสินเชื่อโต แม้ตั้งสำรอ
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 03/01/2007 @ 13:33:40
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ดัชนีหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปิดเทรดวันสุดท้ายในปี 49 อยู่ที่ 252.91 จุด ลดลง 11.40 จุดหรือคิดเป็น 4.5% จากระดับปิด ณ สิ้นปี 48 ดัชนีอยู่ที่ 264.31 จุด แต่คาดว่าปี 50 ธุรกิจจะสดใสจากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวร้ายไปแล้ว แนะลงทุนแบงก์ขนาดใหญ่

จากการเปรียบเทียบราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์พบว่าส่วนใหญ่แบงก์ขนาดใหญ่จะปรับตัวขึ้น นอกนั้นปรับลงมาก
หุ้น ราคาปิด เปลี่ยนแปลง
30 ธ.ค.48 29 ธ.ค.49 บาท %
BBL 105.00 110.00 5.00 +4.76%
SCB 52.50 58.00 5.50 +10.48%
KTB 11.00 11.90 0.90 +8.18%
KBANK 70.00 61.50 -8.50 -15.14%
SCIB 24.30 16.90 -7.40 -30.45%
TMB 4.30 2.60 -1.70 -39.54%

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในปี 49 ภาพรวมไม่ค่อยดี เพราะสินเชื่อชะลอตัว ดอกเบี้ยปรับลง ขณะที่ต้นทุนการเงินสูง โดยเฉพาะมีการแข่งขันการให้บริการตามสาขาเพิ่มขึ้น โดยแบงก์ขนาดใหญ่เร่งเพิ่มสาขา

ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กำไรของกลุ่มแบงก์ลดลงราว 10-11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในไตรมาส 4/49 กำไรจะได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามมาตรฐาน IAS 39 ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรน่าจะทรงตัว ธุรกิจโดยรวมไม่สดสใส
ดังนั้นคาดว่าทั้งปี 49 กลุ่มแบงก์จะมีกำไรสุทธิประมาณ 8.14 หมื่นล้านบาท ลดลงประมาณ 10% จากปีก่อน

แต่คาดว่าปี 50 กำไรสุทธิจะปรับดีขึ้น คาดว่าจะเติบโต 7% เป็นกำไรสุทธิประมาณ 8.72 หมื่นล้านบาท

ปีหน้ากลุ่มแบงก์เป็นบวก เรื่องสินเชื่อจะขยายตัวมากขึ้นจากการบุกมากขึ้น ปัจจจัยที่ช่วยคือเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็จะเห็นว่าทรงๆตัว เงินเฟ้อก็ลดลง น.ส.ศศิกร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าธนาคารพาณิชย์ยังต้องตั้งสำรองเพิ่มตามมาตรฐาน IAS 39 อีก 2 งวด นอกเหนือจากเดือนธ.ค. 49 แล้วก็ยังต้องตั้งสำรองเพิ่มในเดือนมิ.ย. และ ธ.ค. 50 และเกณฑ์การตั้งสำรองจะเข้มงวดมากขึ้น โดยในเดือนมิ.ย. 50 จะต้องตั้งสำรองเพิ่มสำหรับหนี้ที่ถูกจัดชั้น สงสัยจะสูญ และ สงสัยที่ผิดนัดชำระ 6 เดือน และ ในเดือนธ.ค. 50 สำหรับ NPL ที่ผิดนัดชำระ 3 เดือน

เท่าที่ดูราคาหุ้นได้สะท้อนเรื่องการตั้งสำรองไปแล้ว แต่ถ้าเลวร้ายกว่าที่คาดไว้ มองว่า แบงก์ขนาดใหญ่ คือ BBL, SCB, KBANK ยกเว้น KTB มีการตั้งสำรองมากอยู่แล้ว แนะนำให้ลงทุนหุ้นแบงก์ใหญ่ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มธนาคารพาณิชย์ตั้งสำรองเฉลี่ยระบบ 64% , โดย BBL ตั้งสำรองไปแล้ว 71% , SCB ตั้งสำรอง 79% , KBANK ตั้งสำรอง 69%, KTB ตั้งสำรอง 40%

ส่วนแบงก์กลุ่มเล็ก แนะนำเล่น TISCO แม้ว่าผลประกอบการปี 49 ชะลอตัวไปแต่คาดว่าปี 50 จะเติบโตตามสินเชื่อรถยนต์ที่มีแนวโน้ม ขณะที่แบงก์ขนาดกลางก็แนะนำหุ้น BAY, SCIBS แต่ TMB ไม่แนะนำซื้อเพราะฐานค่อนข้างเสี่ยง ที่มีกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 8-9%

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com