May 12, 2024   2:58:25 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น...
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 10/01/2007 @ 08:45:04
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เอเซีย พลัสแนะนำซื้อ PRINราคาเป้าหมาย 4.89 บาท

จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการงวดปี 2549ที่จะประกาศออกมาของ PRIN อาจสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยที่คาดว่าจะมีกำไร 415ล้านบาท โดยเหตุผลหลักมาจาก Gross Margin การขายที่อยู่อาศัยที่สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยที่ 31.6% โดยตัวเลขจริงอาจออกมาที่ 33% ส่วนทางด้านการบันทึกรายได้จากการขายเชื่อว่าจะเป็นไปตามความคาดหมาย อย่างไรก็ตามมีประเด็นที่ต้องจับตาคือเรื่องของPresale ในงวดปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 1.8-1.9 พันล้านบาท ลดลงจากฐานปี2548 ซึ่งอยู่ที่ 2.66 พันล้านบาท องค์ประกอบดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ Presale ส่วนที่ยังไม่บันทึกรายได้ ณ สิ้นปี 2549 ของ PRIN อยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ PRIN ต้องเร่งเพิ่ม Presale ในช่วงต้นปีให้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อจะทำให้การบันทึกรายได้ไม่กระทบ ในงวดปี 2550 ฝ่ายวิจัยคาดว่าฐานกำไรของ PRIN จะถูกยกขึ้นมาเหตุผลเพราะในปี 2550 จะเป็นปีที่ Prin Venture (PRIN ถือหุ้น 51%) จะบันทึกรายได้และกำไรอย่างเต็มที่ โดยในประมาณการของฝ่ายวิจัยคาดว่าการบันทึกรายได้จะอยู่ที่ 1.05 พันล้านบาท ส่วนฐานธุรกิจเดิมของ PRIN ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะบันทึกรายได้จากการขาย 3.12 พันล้านบาท ขณะที่ประสิทธิภาพการทำกำไรน่าจะอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับปี 2549 ที่ผ่านมา คาดว่า PRIN น่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 546 ล้านบาท หรือ 0.81 บาท/หุ้น ราคาหุ้นที่ปรับลดลงตาม Sentiment ตลาดฯ ทำให้ระดับราคาปัจจุบันของ PRIN ลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยมีค่า P/E ปี 2550 ต่ำกว่า 5 เท่า และคาดหวังว่าจะให้Dividend Yield งวดปี 2549 ประมาณ 7%

บล.ซิกโก้แนนะนำ KBANKราคาเป้าหมาย
ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เพียงธนาคารเดียวที่ เข้ามารุ กสินเชื่อขนาดเล็กและขนาดกลางหรือ สินเชื่อSMEอย่างเต็มสูบ ถึงแม้ว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายธนาคารจะรุกสินเชื่อSME อยู่แล้วแต่ทว่าสินเชื่อSME ในความหมายของ KBANK นั้นค่อนข้างจะต่างจากธนาคารพาณิชย์ ทั่วไป กล่าวคือมีทั้งบริษัทขนาดเล็กที่มีความประสงค์ขอสินเชื่อในระดับที่ต่ำกว่า 10ลบ.ลงไปด้วย ซึ่งขนาดธุ รกิ จที่เล็กดังกล่าวมิได้เป็นเป้าหมายหลักของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ สำหรับความเสี่ยงของสินเชื่อSMEขนาดเล็กจะมีสูงกว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่แต่ ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วย ที่ผ่านมาธนาคารได้วางระบบเพื่อรองรับกับการขยายตัวของสินเชื่อSME เป็นผลให้การขออนุมัติ สินเชื่อจะทราบผลภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 วันซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของธนาคารกสิกรไทยจากข็อมูลที่น่าเชื่อถือและการสอบถามไปยังธนาคารมี ความเป็ นไปได้ ว่าใน 4Q06Eธนาคารจะตั้งสำรองอีกจำนวน 1.6พั นลบ. ซึ่งมากกว่าการตั้งสำรองระดับปกติ ที่ 1.3 พันลบ. ในส่วนของผลกระทบจากมาตราฐานบัญชีตามIAS39 นั้นธนาคารได้ แจ้งว่าธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะตั้งสำรองให้มากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันเงินสำรองที่ มี อยู่ ถือว่ามี เพียงพอต่ อข้อกำหนดใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ในส่วนของผลการดำเนินงาน FY07E นั้น ธนาคารคาดว่าจะกันสำรองในระดับ 1.35 พันลบ.ต่อไตรมาส ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติ ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้หรือ NIM ของธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เราคาดว่า NIM ของธนาคารในFY06E จะอยู่ที่ ระดับ 3.99% ซึ่งต่ำกว่าใน 3Q06A ที่ระดับ 4.14% โดยสาเหตุ ที่ทำให้ NIM ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจาก ต้นทุนทางด้านเงินฝากที่ปรับตัวสูงขึ้นและเริ่มเห็นผลกระทบที่ชั ดเจนต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ด้วยสินเชื่อที่เติบโตมากขึ้นในส่วนของ SME ซึ่งมีผลตอบแทนในระดับสูงจะเป็นการช่วยพยุง NIM ให้ทรงตัวในระดับสูงต่อไป ส่วนNIMใน FY07Eเราประเมินว่ามีทิศทางที่ปรับตัวลดลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่มีแนวโน้มลดลงเราคาดว่ากำไรสุทธิFY06E จะอยู่ ที่ 12,790ลบ.ลดลง 8.18% YoY

บล.เกียรตินาคินแนะนำขาย SALEEราคาเป้าหมาย 2.38 บาท
แม้เราคาดว่าปี 50 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโตถึง 121% yoyแต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่าในไตรมาส 4/49 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเพียง 2.5 ลบ.ลดลงจากไตรมาส 3/49 ที่มีกำไร 15ลบ. (เนื่องจากไตรมาส 3/49 มีกำไรจากรายการพิเศษประมาณ 10 ลบ.) ดังนั้นในระยะสั้นจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะออกมาลดลงในไตรมาส 4/49 คาดจะกดดันราคาตลาดของ SALEE นอกจากนี้ราคาตลาดในปัจจุบันก็เข้าใกล้มูลค่าพื้นฐานปี 50 ที่เราประเมินแล้วและคาดจากผลการดำเนินงานปี 49บริษัทจะไม่มีการจ่ายเงินปัน คาดไตรมาส 3/49บริษัทมียอดขายเท่ากับ 187 ลบ. เพิ่มขึ้น 83% yoy และ66% qoq เนื่องจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย (SC WADO) ตั้งแต่เดือน ส.ค. 49 (ไตรมาส 3/49 รับรู้เข้ามาจำนวน 61 ลบ.) (ถ้ายังไม่รวมรายได้จากบริษัทย่อย (SC WADO) ยอดขายจากธุรกิจหลักเดิมของบริษัทจะเท่ากับ 135 ลบ.เพิ่มขึ้น 29% yoy และ 23% qoq จากรายได้ในส่วนของการพิมพ์ฉลากสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากที่บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น) อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 20% (จาก 35% ในไตรมาส 3/48 และ 31% ในไตรมาส 2/49)เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย (SC WADO) ที่รับรู้เข้ามายังไม่มีกำไร(เราคาดว่าจะเริ่มมีกำไรในปี 50) กำไรสุทธิเท่ากับ 15 ลบ. เพิ่มขึ้น 2% yoy และเพิ่มขึ้นถึง 120%qoq เนื่องจากในไตรมาส 3/49 บริษัทมีรายการพิเศษคือ รายได้ส่วนของราคาซื้อหุ้น SC WADO ที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 10 ลบ. (บริษัทเริ่มเข้าลงทุนในSC WADO ในไตรมาส 3/49โดยถือหุ้นในสัดส่วน 75% ดังนั้นหากไม่รวมรายการพิเศษ ในไตรมาส 3/49 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 4.59 ลบ. ลดลง 69% yoy และลดลง 33% qoq เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ(เม็ดพลาสติก) ที่สูงขึ้นในปี 49

บล.ยูไนเต็ดแนะนำซื้อ BSBMราคาเป้าหมาย 1.30 บาท
ผลประกอบการปี 07 ยังอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากการเติบโตของปริมาณขายยังต้องรอการลงทุนของภาครัฐ และกลยุทธ์ของ BSBM เน้นที่อัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าปริมาณขายแต่ในระยะสั้นคาดว่าจ่ายเงินปันผลของ 2H06 ประมาณ 0.1 บาท/หุ้น และราคาหุ้นปรับตัวลงมา โดยปัจจุบันมี Upside Gain จากการจ่ายปันผลครึ่งปีหลัง 0.1 บาท/หุ้น ใน1H06 ทาง BSBM ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 0.1 บาท/หุ้น คิดเป็น 8.6 % (ราคาปิด 1.11)ซึ่งคาดว่าไม่มีการลงทุนเพิ่มในปี 07 ประกอบกับไม่มีหนี้ระยะยาว จึงทำให้มีเงินสดที่สามารถจ่ายปันผลได้อีก 0.1 บาท/หุ้น นับว่าเป็นอัตรผลตอบแทนในระดับดี ในไตรมาส 4Q06 กำไรกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเน้นอัตรากำไรขั้นต้น คาดรายได้จากการขายใน 4Q06เพิ่มขึ้น 43.7%YoY และ 17.8%QoQ มาจากราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้นจากไตรมาสก่อนเป็น 18,500 บาทต่อตัน และปริมาณขายเพิ่มขึ้นเป็น 52,986 ตัน จาก 44,790 ตัน (3Q06) และ39,702 ตัน(4Q05) เนื่องจากการใน 3Q06 ประสบภาวะน้ำท่วม และเป็นช่วง Lowseason ด้วย แต่ใน 4Q06 ได้เริ่มมีปริมาณความต้องการซ่อมแซมบ้านจากที่ประสบภัยธรรมชาติ ทำให้มีแนวโน้มดีขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะดีขึ้นเป็น 11.5 % เพราะเน้นกลยุทธ์การขายที่เน้นอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีมากกว่าปริมาณการขาย และบริหารวัตถุดิบให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้มีส่วนต่างราคาขายและต้นทุนที่มากขึ้น จึงคาดว่ากำไรเท่ากับ 88 ล้านบาทพลิกขาดทุนจากปีก่อน

ฟฟฟฟ2

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com