โบรกเกอร์คัดกลุ่มหุ้นเด่นน่าลงทุน ราคาถูก อนาคตดี ไม่มีประเด็นพรบ.ต่างด้าวเข้ากระทบให้กวนใจ ขณะที่ราคาร่วงลงมาตามภาวะตลาดหุ้นที่แปรปรวนรวนเรเอาแน่เอานอนไม่ได้ แนะลงทุนหุ้นถ่านหิน BANPU คาดปันผลครึ่งปีหลังหุ้นละ 4.00 บาท มองเป้าหมาย 185 บาท และหุ้นโรงไฟฟ้าEGCOMP คาดปันผลงวดปี 2549 ได้ 2.00 บาทต่อหุ้น ให้เป้าหมาย 108 บาท

นายกิติชาญ สิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการอนุมัติผ่านพ.ร.บ.กฎหมายต่างด้าวของคณะรัฐมนตรีที่ไม่ให้ต่างชาติถือหุ้นในบริษัทไทยเกิน 49% อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นระยะสั้น แต่มองว่าหุ้นในกลุ่มถ่านหิน และไฟฟ้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ดังนั้นจึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะทยอยสะสม เพื่อลงทุนในระยะยาวได้ เพราะราคาหุ้นได้มีการอ่อนตัวลงมาค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มถ่านหิน และไฟฟ้า ซึ่งกลุ่มถ่านหินคือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เพราะมีการเติบโตของผลกำไรในปีนี้ค่อนข้างสูง จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งยังมีโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษา เช่น โครงการเหมืองถ่านหินในประเทศจีน และโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ในประเทศลาวที่จะสร้างรายได้ที่ดีให้กับ BANPU ที่ดีได้ในอนาคต นอกจากนี้คาดว่าในครึ่งปีหลังของปี 2549 คาดว่า BANPU จะสามารถจ่ายปันผลได้สูงถึง 4.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าครึ่งปีแรกที่จ่ายปันผลไปแล้ว 3.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลที่ประมาณ 4% โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 185 บาท

ส่วนหุ้นในกลุ่มไฟฟ้าที่โดดเด่น คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCOMP ที่ประเมินว่าจะมีรายได้และกำไรที่มั่นคงจากการทำสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกอบกับการประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่รอบใหม่ (IPP) ที่จะเปิดมีการประมูลในปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในครึ่งปีหลังของปี 2549 นี้ EGCOMP จะสามารถจ่ายปันผลได้ประมาณ 2.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นตอบแทนจากการจ่ายปันผลที่ 4.5% จึงแนะนำ?ซื้อ? เป้าหมาย 108 บาท

?หุ้นในกลุ่มถ่านหิน และไฟฟ้ามีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูง จากการเติบโตของรายได้ และกำไร ที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะทยอยสะสมหุ้นในกลุ่มดังกล่าว?นายกิติชาญกล่าว

อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยไม่ได้ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นในกลุ่มกลุ่มถ่านหิน และไฟฟ้า ที่คาดว่าจะได้รับจากผลกระทบจากปัจจัยมาตรการการสกัดกั้นการเก็งกำไรของค่าเงินบาทของแบงก์ชาติ เหตุระเบิดใกรุงเทพมหานคร และการอนุมัติผ่านพ.ร.บ.กฎหมายต่างด้าวของคณะรัฐมนตรีที่ไม่ให้ต่างชาติถือหุ้นในบริษัทไทยเกิน 49% ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติทยอยปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะทิศทางธุรกิจของทั้งสองกลุ่มมีความมั่นคง และไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และการเมือง ดังนั้นยังมีโอกาสที่จะลงทุนได้

นายอภิสิทธ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BANPU ยังอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากภาวะตลาดโดยรวมยังไม่มีการปรับตัวที่ชัดเจนมีการ ดังนั้นแนะนำ ?อ่อนตัวซื้อ? โดยให้แนวรับที่ 165 บาท และแนวต้านที่ 170 บาท

ส่วนราคา EGCOMP มีการเคลื่อนไหวในช่วงแคบเช่นกัน จากปัจจัยกดดันของทิศทางตลาดหุ้นโดยรวมที่ยังมีการเคลื่อนไหวซบเซาอย่างต่อเนื่อง แนะนำ ?อ่อนตัวซื้อ?โดยให้แนวรับที่ 91.00 บาท และแนวต้านที่ 95.00 บาท

ราคาหุ้น BANPU วานนี้(10ม.ค.) ปิดตลาดที่ 167.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.76% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 405 ล้านบาท ส่วนหุ้น EGCOMP ปิดตลาดที่ 93.50บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.60% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 192 ล้านบาท