Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 11/01/2007 @ 10:19:16 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ซื้อ BANPU เป้าหมาย 182 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน) แนะนำ ?ซื้อ? BANPU คาดว่าในปี 2550 จะจำหน่ายถ่านหินปริมาณใกล้เคียงกับปี 2549 ที่ 21.5 ล้านตัน ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น US$1 ต่อตัน เป็น US$36 ต่อตัน แต่เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ยอดขายในรูปเงินบาทลดลง อย่างไรก็ตามทางฝ่ายฯประมาณการว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจาก 36.75% ในปีก่อนเป็น 37.43% ในปี 2550 เพราะราคาขายที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไม่มีภาษีส่งออกเช่นในปีก่อน เมื่อรวมกำไรจาก BLCP แล้วคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 5,505.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 20.26 บาทเงินปันผลต่อหุ้น 11.14 บาท ปัจจุบันนโยบายการจ่ายปันผลอยู่ที่ 60% ของกำไรสุทธิ แต่อาจมีการปรับลดลงหากบริษัทต้องมีการลงทุนเพิ่มในโครงการใหญ่ๆ ทั้งในส่วนถ่านหินและโรงไฟฟ้าราคาพื้นฐานเท่ากับ 182 บาทต่อหุ้น ซึ่งประเมินจาก P/E 9 เท่า แนะนำ ?ซื้อ?
ซื้อลงทุน SCCC เป้าหมายบาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาว SCCC มองว่าผลประกอบการปี 49 อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ ผลจากการชะลอตัวของทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลจากปัญหาการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก และปัญหาอุทกภัยในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ในปี 49 ปรับลดลงประมาณ 2%-3% เมื่อเทียบกับปี 48 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความต้องการน่าจะเริ่มทยอยดีขึ้นเป็นลำดับในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า โดยปัจจัยที่จะส่งผลบวกคือ1.) โครงการลงทุนต่างๆของทางภาครัฐเริ่มดำเนินการได้ 2.) หลังจากอุทกภัยผ่านพ้นไป คาดความต้องการโดยเฉพาะในส่วนตลาดซ่อมแซมจะกลับมาขยายตัวได้ 3.) ต้นทุนพลังงานหลักๆทั้ง น้ำมัน ถ่านหิน และไฟฟ้า หลังจากที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วงปี 49 ปัจจุบันเริ่มชะลอตัวลง 4.) อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัว คาดทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวเราประเมิน EPS Growth เฉลี่ยช่วงปี 2549-2552 ที่ประมาณ 10% แนะนำซื้อลงทุนระยะยาวเป้าปี 50 ที่ 275 บาทต่อหุ้น
เก็งกำไร AMATA เป้าหมาย12 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) แนะนำ เก็งกำไร AMATA บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายที่ดินปี50 อาจจะต่ำกว่า 500 ไร่ ที่ทำได้ในปี 49 และรายได้จากการขายที่ดินอาจจะต่ำกว่า 2 พันล้านบาทของปี 49 หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ เมื่อ 31 ธ.ค. 49 ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจนักลงทุนต่างประเทศ และส่งผลให้ลูกค้ารายใหญ่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาได้หันไปลงทุนที่ประเทศอื่นแทน อย่างไรก็ตามมองว่าราคาหุ้นมีการปรับตัวลงถึง 40% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานับว่าสะท้อนข่าวร้ายไปพอสมควร ระยะยาวหากไม่มีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงหลังจากนี้ ประเมินว่าความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศจะค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น และโครงการรถประหยัดพลังงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบสิทธิประโยชน์ของ BOI จะช่วยสนับสนุนการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในช่วงต่อไปได้ แต่ระยะสั้นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นทำให้เราแนะนำเพียง ?เก็งกำไร? โดยอยู่ระหว่างการปรับปรุงราคาพื้นฐานเบื้องต้นคาดว่าอยู่ระดับ 11-12 บาท
ซื้อ CPN เป้าหมาย 24.93 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด แนะนำ ซื้อ CPN แผนเดิมที่ CPN ต้องการที่จะระดมทุนโดยขายเซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้กับกองทุน CPNRF โดยมูลค่าขายจะไม่เกิน 7.2 พันลบ. แต่ผลของมาตรการ Capital Control เมื่อ 19 ธ.ค. ทำให้การระดมทุนผ่าน Property Fundเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้น ซึ่งผู้บริหาร CPN ก็ออกมาพับแผนโดยให้เลื่อนออกไปก่อน จาก CAPEX ที่มีอย่างต่อเนื่องจึงคาดว่า Net D/E ตั้งแต่ปี 08 จะสูงกว่า 1.23x ซึ่งหากเป็นจริงก็จะเกิน Target Net D/E ที่ 1.0x ที่บริษัทฯตั้งไว้ในใจ จึงมองว่าในปี 07-08 CPN มีโอกาสเพิ่มทุน แต่เชื่อผลกระทบจาก Dilution จะไม่แรง เพราะคาดรายได้ปี 08 เติบโตก้าวกระโดด 21% เป็น 8.8 พันลบ. จากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 8 แห่ง ซึ่ง 4 แห่งจะแล้วเสร็จในปี 08 (เช่น สมมติให้เพิ่มทุน 250 ล้านหุ้น@ 25 บาท ได้เงิน 6.25 พันลบ. ทำให้ EPS ลดลงเพียง 10% จาก 1.01 บาทต่อหุ้น เหลือ 0.91 บาทซึ่งก็ใกล้เคียงกับปี 07) อย่างไรก็ตามหากไม่อยากเพิ่มทุน CPN อาจเลือกทำ Joint Venture กับ Partner แทน ซึ่งชอบวิธีนี้มากกว่าจึงแนะนำ ?ซื้อ? เป้าหมาย 24.93 บาท ราคาหุ้นยังมี Upside 25% [/color:aa96114a6a">
ที่มา ทันหุ้น
.0008 .0008
|
