???
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410 |  วันที่: 12/01/2007 @ 07:26:33 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต โบรกเกอร์แนะนักลงทุนรายย่อยชิงขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นรีบาวน์แรง เพราะที่ผ่านมาเป็นผู้ซื้อสุทธิตลอด ลุยปรับพอร์ตลดความเสี่ยง เชื่อรอบนี้ดัชนีดีดขึ้นไม่เกิน 648 จุดก็เหี่ยว เพราะยังมีปัจจัยลบกดดัน ชี้กลยุทธ์ช่วงนี้ทำได้แค่เก็งกำไร เหตุตลาดค่อนข้างเหวี่ยงตัว เน้นหุ้นที่มีสตอรี่ ทั้ง TTA ATC CK ITD และแบงก์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าแผนวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมารอบนี้ แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยทยอยขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากที่เป็นผู้ซื้อสุทธิมาตลอดในช่วง 3-4วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องขายออกมาทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่างในขณะนี้คลี่คลายไปพอสมควรแล้ว
สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้เข้าลงทุนเลยแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นที่ระดับดัชนี 625 จุด ซึ่งเป็นระดับเริ่มต้นที่ดัชนีดีดกลับมารอบนี้ และให้แนวต้านสำหรับการดีดขึ้นของดัชนีรอบนี้ไว้ที่ระดับ 645-648 จุด
การที่ดัชนีดีดขึ้นมารอบนี้ในทางเทคนิคเป็นการรีบาวน์ธรรมดา แต่ในทางพื้นฐานเป็นเพราะมีแรงซื้อกลับในหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ถูกกระทบจากพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแนะนำให้นักลงทุนรายย่อยขายออกมาบ้างแต่ไม่ต้องหมด เพราะเป็นผู้ซื้อสุทธิมาต่อเนื่อง 3-4 วันที่ผ่านมานายชัย กล่าว
นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงช่วงนี้มองว่าเป็นแค่การเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุนรายสถาบันและต่างชาติ โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาและมีมูลค่าซื้อขาย(วอลุ่ม)เข้ามาอย่างหนาแน่นเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก และหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่ปรับตัวขึ้นมายกชุด อย่างไรก็ตามมองว่าเมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นขณะนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะขายทำกำไรออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สาเหตุที่ดัชนีหุ้นไทยรีบาวน์กลับมาช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะมีความชัดเจนในเรื่องของพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ภายหลังจากรัฐได้ชี้แจงให้นักลงทุนต่างชาติทราบ ประกอบกับนักลงทุนเริ่มเข้าใจว่าพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงอย่างที่คาดไว้ ทำให้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา
อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดในช่วงนี้ยังเหวี่ยงตัวอยู่พอสมควร แม้ว่าหลายปัจจัยลบจะได้รับการซึมซับไปแล้ว จึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรเป็นรอบๆเท่านั้น โดยเฉพาะในหุ้นพื้นฐานดีที่มีข่าวดีหนุน อาทิเช่น หุ้นธนาคารพาณิชย์ หุ้นก่อสร้าง ซึ่งประกอบด้วยTTA ATC CK ITD เป็นต้น
ส่วนการเข้าเก็บในระยะยาวแนะนำให้รอดัชนีปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 640 จุด ได้อย่างมั่นคงก่อน เนื่องจากมองว่าโอกาสที่ดัชนีจะลดลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวมีไม่มาก เพราะแรงขายไม้หนักๆที่เกิดจากแรงกดดันของนโยบายรัฐเหลือน้อยแล้ว นอกจากนี้แนะนำให้รอซื้อที่ระดับดัชนี 600 จุดต้นๆ เพราะมองว่าที่ระดับดังกล่าวความเสี่ยงน่าจะมีไม่มากแล้ว
ช่วงนี้เรามองว่าตลาดเริ่มดีขึ้น เพราะหลายปัจจัยเริ่มคลี่คลายคงไม่มีแรงขายไม้หนักๆออกมาอีกในช่วงนี้ แต่ตลาดอาจมีแรงเหวี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้นถ้าจะเข้าซื้อในระยะยาวควรรอให้ดัชนีฝ่าแนวต้าน 640 จุดไปให้ได้ก่อนนายพงศ์พันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้(11 ม.ค.)ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยดีดขึ้นทันที 10 จุดตอนเปิดตลาด และปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในระดับ 639.47จุด ลดลงต่ำสุดในระดับ 625.65 จุด ก่อนปิดตลาดในระดับ 637.63 จุด เพิ่มขึ้น 15.36จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,546.08 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,058.04 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 135.70 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,193.73ล้านบาท
ข่าวหุ้น
[/color:fe82d1f5a5">
|
