samjin สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 352 | #1 วันที่: 13/01/2007 @ 09:35:49 : re: สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์: ?บาทผันผวน ขณะที่หุ้น ภาวะตลาดทุน
ตลาดหุ้นไทย
ในสัปดาห์ที่สองของปี 2550 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 645.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.79% จากระดับปิดที่ 628.19 จุดในสัปดาห์ก่อน แต่ลดลง 5.0% จากสิ้นปีก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 107.53% จาก 45,092.73 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 93,580.74 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มจาก 15,030.91 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 19,052.36 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 183.35 จุด ขยับขึ้น 2.1% จาก 179.51 จุดในสัปดาห์ก่อน แต่ลดลง 5.2% จากสิ้นปีก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่ 2.88 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเป็นกลุ่มที่ขายสุทธิจำนวน 1.5 พันล้านบาท และ 1.38 พันล้านบาท ตามลำดับ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดบวกขึ้นได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง หลังจากที่ดัชนีร่วงลงอย่างมากในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ในวันอังคารนั้น ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนที่จะรูดลงอย่างมากในการซื้อขายช่วงบ่าย หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ซึ่งส่งผลนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและขายหุ้นออกมาในทุกกลุ่ม ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงถึง 17.07 จุด โดยปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ 616.75 จุด ส่วนในวันพุธจนถึงวันศุกร์นั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ตามลำดับ จากแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ทางการได้มีการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเพิ่มขึ้น และการที่คาดว่าจะมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนไม่กี่รายที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับปรุง พ.ร.บ. โดยในวันพฤหัสบดีนั้น ดัชนีปิดเพิ่มขึ้นถึง 2.47% หรือ 15.36 จุด ไปปิดที่ 637.63 จุด นักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นกลุ่มที่ซื้อสุทธิอีกครั้งที่ 2.06 พันล้านบาท ขณะที่ในวันศุกร์นั้น ดัชนีแกว่งตัวค่อนข้างแคบ โดยยังคงรักษาแรงบวกได้จากวันก่อน และนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิถึง 3.8 พันล้านบาท ขณะที่การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคได้ช่วยหนุนบรรยากาศในการซื้อขาย
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า (15-19 ม.ค.2549) ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การปรับตัวของตลาดหุ้นไทยคงจะเป็นไปอย่างระมัดระวังจากการที่ยังขาดปัจจัยบวกที่ชัดเจนมาช่วยหนุนการซื้อขาย โดยปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการติดตามผู้กระทำความผิดในเหตุการณ์ลอบวางระเบิด สถานการณ์ทางการเมือง รวมไปถึง มาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินของธปท. และการปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าวจะยังคงมีผลต่อการซื้อขายในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนคงจะจับตามองผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธปท.ในวันพุธ ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าน่าจะมีการตัดสินใจให้เริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ1 วันที่ 5.0% ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 632 และ 640 จุด แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 660-665 จุด ตามลำดับ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯและญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี DJIA ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2550 ดัชนี DJIA ปิดที่ 12,514.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.94% จาก12,398.01 จุดเมื่อสัปดาห์ก่อนและเพิ่มขึ้น 0.42% จากสิ้นปีก่อน ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 2,484.85จุด เพิ่มขึ้น 2.08% จาก 2,434.25 จุดในสัปดาห์ก่อน และ 2.88% จากสิ้นปีก่อนหน้า ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในวันจันทร์จากการทะยานขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากที่บริษัทโบรกเกอร์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นหลายตัวในกลุ่มดังกล่าว เช่น หุ้นไอบีเอ็ม คอร์ป ขณะที่การแสดงความเห็นของรองประธานเฟด ซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวปานกลางและมีอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ดัชนี DJIA ร่วงลงในวันอังคาร โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่การเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่โดยบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ อิงค์ ได้ช่วยหนุนให้ดัชนี NASDAQ ขยับขึ้นได้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ในวันพุธและวันพฤหัสบดี โดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยียังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น หุ้นแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ซึ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และหุ้นไมโครซอฟท์ซึ่งปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี อีกทั้ง การคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ได้ช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี คอร์ป และหุ้น 3M คอร์ป ส่งผลให้ดัชนี DJIA ทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งแรกของปีนี้ที่ 12,514.98 จุด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นแกว่งตัวผันผวนตลอดสัปดาห์ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2549 ดัชนี NIKKEI ปิดที่ 17,057.01 จุด ลดลง 0.2% จากปิดตลาดที่ 17,091.59 จุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และลดลง 0.98% จากสิ้นปีที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะทะยานขึ้นถึง 146.18 จุด สู่ 17,237.77 จุดในวันอังคาร จากการพุ่งขึ้นของหุ้นโซนี่ คอร์ปหลังจากที่บริษัทโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนและราคาเป้าหมายของหุ้นดังกล่าว ตลอดจน การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายสัปดาห์หน้าได้ช่วยหนุนราคาหุ้นในกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ดัชนี NIKKEI ร่วงลงอย่างมากในวันพุธและวันพฤหัสบดี โดยมีแรงขายหุ้นมัตสึชิตะซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์พานาโซนิคเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายจำนวนมากของบริษัทในการก่อสร้างโรงงานผลิตจอพลาสม่า นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากแรงขายทำกำไรหุ้นบางตัวก่อนการประชุมของบีโอเจในสัปดาห์หน้า และแรงขายสัญญาล่วงหน้าดัชนี NIKKEI ก่อนครบกำหนดส่งมอบในวันพรุ่งนี้ซึ่งได้ถ่วงบรรยากาศการลงทุน ส่วนในวันศุกร์นั้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นได้ถึง 218.84 จุดจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยนลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯ และการพุ่งขึ้นของหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลังการรายงานตัวเลขยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์โดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
* ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ชั้น 9 อาคารธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. (66 2) 0-2273-1883-5 โทรสาร. (66 2) 0-2270-1218 หรือ 0-2270-1235, 0-2270-1569, 0-2271-4032 Email: info@krc.co.th http://www.kasikornresearch.com
|