kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 18/01/2007 @ 10:05:22 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ซื้อ KSL เป้าหมาย 11.47 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด แนะนำ ซื้อ KSL จากการพบผู้บริหาร KSL ในต้นเดือนมกราคม
2550 ได้รับรู้ว่าทางอุตสาหกรรมน้ำตาลคาดการณ์กันอยู่แล้วว่าราคาขั้นต่ำอาจต่ำกว่า800 บาทต่อตัน ซึ่งทางกนอ.จำเป็นต้องรับผิดชอบภาระหนี้ ขณะที่ KSL ได้เตรียมบันทึกส่วนต่างระหว่างราคาอ้อยขั้นต่ำกับขั้นสุดท้ายในไตรมาส 4/50 ดังนั้นปัจจัยเรื่องต้นทุนอ้อยที่อาจต่ำลงได้อยู่ในประมาณการแล้ว ส่วนแนวโน้มการลดโควตาน้ำตาลในประเทศลงจาก 23 ล้านกระสอบเหลือ 20-21 ล้านกระสอบนั้น ฝ่ายวิจัยใช้สมมุติฐาน 21 ล้านกระสอบอยู่แล้ว โดยคาดว่าปีนี้การแข่งขันส่งออกน้ำตาลน่าจะมีมากขึ้น แต่ KSL มีลูกค้าประจำสำหรับน้ำตาลโควตาส่งออกน่าจะช่วยให้ผลกระทบต่อมาร์จิ้นไม่มาก ส่วนราคาน้ำตาลทรายและเอทานอลที่มีแนวโน้มอ่อนตัว ใช้สมมุติฐานราคาน้ำตาลทรายขาวที่ 325 เหรียญสหรัฐต่อตัน และราคาเอทานอลที่ 19 บาทต่อลิตร นับว่าใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิ 883 ล้านบาทในปี2550 และมูลค่าพื้นฐาน 11.47 บาท
ซื้อลงทุน RRC เป้าหมาย 20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อลงทุน RRC แม้ฐานของกำไรสุทธิ และผลการดำเนินงานของ RRC ในช่วงปี 50-51 จะไม่โดดเด่นเท่าTOP ที่มีสายการผลิตแบบครบวงจรตั้งแต่โรงกลั่น ? ปิโตรเคมีขั้นต้น ? น้ำมันหล่อลื่น แต่RRC มีจุดเด่นในส่วนของต้นทุนการดำเนินงานที่เป็นเงินสดที่ต่ำประมาณ US$1.2- 1.3/บาร์เรล(อยู่ใน First Quartile ในภูมิภาคเอเชีย) และสามารถใช้น้ำมันดิบจากแหล่งตะวันออกกลางได้ในสัดส่วนสูงเกือบ 100% รวมทั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า จะเป็นโรงกลั่นที่มีสายการผลิตเชื่อมต่อกับปิโตรเคมีเมื่อโครงการ Reforming (เพิ่มกำลังการกลั่นขึ้น
อีก65,000 บาร์เรล/วัน) และ Upgrading Complexes (สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์พลอยได้ให้เป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน Euro IV) ที่จะแล้วเสร็จนำตรมาส 3/51 ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับผลการดำเนินงานในระยะยาว นอกจากนั้นประเด็นการควบรวมกิจการระหว่าง RRC และ ATC ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1/50 คาดว่าจะทำให้หุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้น
ถือ PTTEP เป้าหมาย 103 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด แนะนำ ถือ PTTEP บริษัทแจ้งประมาณการรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) ของบริษัทฯ และ บริษัทย่อย ในช่วงปี 2550-2554 รวม 5 ปี เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 284,710 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยประเมินว่าการลงทุนที่มีความชัดเจนในการพัฒนามากขึ้นโดยปกติ PTTEP จะมีการปรับปรุงประมาณการงบลงทุนเป็นระยะๆ โดยจะตั้งงบลงทุนเพิ่มขึ้นเมื่อมีความชัดเจนในโครงการที่จะเข้าลงทุน ซึ่งแผนการลงทุนในแต่ละปีจะสอดคล้องกับแผนการผลิตสำหรับ1) โครงการที่อยู่ระหว่างการผลิต 2) โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในอนาคต และ 3) โครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 ปีกว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของรายได้ อย่างไรก็ตามผลจากการลงทุนโครงการดังกล่าวฝ่ายวิจัยได้ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 109 เป็น 103 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ซื้อ HMPRO เป้าหมาย 6.29 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ HMPRO คาดยอดขายไตรมาส 4/49 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,040 ล้านบาท โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการรับรู้รายได้ค่าเช่างาน
โฮมโปร เอ็กซ์โปรที่ ระดับ 8.1% และทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/49 จะสูงถึง 184 ล้านบาทหรือเติบโตกว่า 29.7% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่สถานการณ์ความวุ่นวายช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จากการสอบถามกับผู้บริหารพบว่า ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ภาพรวมยอดขายยังคงใกล้เคียงต้นปี 49 ได้ ดังนั้น เบื้องต้นจึงคงแผนขยายสาขาในปีนี้อีก 5 แห่ง โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ Direct Sourcing มากขึ้นต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ทำให้เรายังคงประมาณการยอดขายและกำไรสุทธิ
ปี 50 ของบริษัทเติบโตต่อเนื่องอีก 17% จากปีก่อนหน้า และ 20% ตามลำดับ แนะนำ ?ซื้อ? ด้วยแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q49 ที่โดดเด่นและภาพรวมอัตราการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยที่สูงถึง 20%ต่อปี
.00020
[/color:56eb4308da">
|
