April 28, 2024   11:24:43 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เรื่องที่ต้องตามอย่างใกล้ชิด (จบ)
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 18/01/2007 @ 16:38:44
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เรื่องที่ 4 นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานแถลงข่าว การบริหารเศรษฐกิจมหภาคภายใต้ความผันผวนของการไหลเวียนของเงินทุนระหว่างประเทศ ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2550 ว่า สถาบันได้มีการประมาณการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2550 มีอัตราการขยายตัวที่ระดับ 4.9% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.8% การส่งออกขยายตัวที่ 9.9% และการนำเข้าขยายตัวที่ 10.0% แต่ยังมีการเกินดุลการค้า 24,500 ล้านบาท เกินดุลบัญชีเดินสะพัด 58,530 ล้านบาท

ซึ่งในปี 2550 คาดว่าเงินงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ จะออกสู่ระบบได้เร็วขึ้นนอกจากนี้เชื่อว่าในปีหน้าราคาน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีนี้ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเชื่อว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่างๆ อย่างรุนแรง ประกอบกับการส่งออกยังสามารถขยายตัวได้ประมาณ 12.5% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งพระราชบัญญัติงบประมาณฯ 2550 จะเป็นตัวผลักดันทำให้การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มดีขึ้นกว่าในปีนี้

?แรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องของการมี พ.ร.บ.งบประมาณออกมา ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นช่วยให้สภาพคล่องสูงขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงในปีหน้านั้นน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงในภาวะการเงินของโลก ค่าเงินที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ ซึ่งในอนาคตควรจะต้องมีความร่วมมือกันระหว่างประเทศเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนให้มากกว่านี้? นายฉลองภพ กล่าว

นายฉลองภพ กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาวะเศรษฐกิจปี 2549 มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากต้องเผชิญกับปัจจัยจากปัญหาทางการเมือง ทำให้ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของภาครัฐชะลอตัวลง รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และแนวโน้มการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้แรงกระตุ้นจากการส่งออกและการท่องเที่ยวน้อยลง

รวมถึงปัจจัยบวกด้านอื่นลดน้อยลง รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อ การบริโภค และการลงทุน จึงคาดว่า เศรษฐกิจปี 2549 จะขยายตัวร้อยละ 4.7 เงินเฟ้อร้อยละ 4.6 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 10.7 นำเข้าร้อยละ 2 เกินดุลการค้า 26,814 ล้านบาท ดุลบัญชีเงินสะพัดเกินดุล 53,400 ล้านบาท โดยรายได้จากภาคต่างประเทศยังเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

?ในปีนี้รายได้จากภาคต่างประเทศยังเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยภาคการส่งออกก็ยังขยายตัวได้ดีในสินค้าหลายๆ ชนิดและในตลาดต่างๆ ขณะที่ราคาน้ำมันส่งแรงกดดันต่อการนำเข้าและดุลการค้าในช่วงครึ่งแรกของปี โดยในครึ่งหลังของปีก็ได้ส่งแรงกดดันลดลงมา ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งได้รับผลกระทบจากสึนามิ? นายฉลองภพ กล่าว

ผมยกมาทั้งบทมาจากหนังสือพิมพ์ จะได้ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ จึงมิอาจเพิ่มเติมความเห็น แต่จากการที่เป็นนักวิเคราะห์หุ้นมานาน ยังมองไม่เห็นเลยว่า ตัวเลขที่ TDRI บอกมา จะเป็นไปได้อย่างไร ท่านหลอกให้เราฝันหวานอีกหรือเปล่าเนี่ย

เรื่องที่ 5 เรื่องสุดท้าย เรื่องโรคไข้หวัดนกในคน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สภาพอากาศในขณะนี้มีความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกได้ รวมทั้งยังอยู่ใกล้ช่วงตรุษจีนที่จะมีการเคลื่อนย้ายและชำแหละสัตว์ปีกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกรมควบคุมโรคจะเข้มงวดในการติดตามและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในทุกพื้นที่เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดมาสู่คนได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเกิดโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกและคน 36 จังหวัด พร้อมทั้งให้ อสม. 8 แสนคนจับตาการเจ็บป่วยของสัตว์ปีกในคนและหมู่บ้าน พร้อมทั้งส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งมีทั้งหมด 1,030 ทีมทั่วประเทศ ออกไปเพื่อควบคุมป้องกันโรคที่บ้านผู้ป่วยและชุมชน

นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ให้องค์การเภสัชกรรมสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ จำนวน 8 แสนแคปซูล รองรับผู้ป่วยได้ 8 หมื่นรายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และหากมีการระบาดเพิ่มจะสามารถผลิตเพิ่มได้อีกวันละ 4 แสนแคปซูล

เรื่องนี้จะน่ากลัวก็ตอนที่ไข้หวัดนกกลายพันธ์ ระบาดสู่คน ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ากลัว และทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีปัญหา

โดยรวมๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะป็นเรื่องลบๆ เสียส่วนใหญ่ กลยุทธ์ช่วงนี้จึงให้ลดพอร์ต หรือขายหุ้นแล้วถือเงินสดเอาไว้ให้มาก หรือขายแล้วจะหยุดเล่นไปซักพักก็ได้ไม่ว่ากัน


.00020

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com