April 28, 2024   12:16:58 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ...
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 19/01/2007 @ 10:20:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index วันพฤหัสบดีที่ 18 ม.ค. ปิดที่ 654.89 จุด +3.42จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,006ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 668.53ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 139.38 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 529.14 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 658.10จุด +2.20 จุด และ Low ที่ดัชนี 650.63จุด -5.27 จุด หมดเรี่ยวหมดแรงอีกแล้วสภาพตลาดหุ้นประเทศไทย แกว่งตัวไปมากรอบแคบ ๆ ตลอดการซื้อขายทั้งบวกและลบ มีหุ้นแบงค์พยุงดัชนีไว้ หุ้นเล็ก ๆ เก็งกำไรยังมาเต็มหน้ากระดานเห็นวิ่งกันไวไวแต่ก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่แค่พอเป็นน้ำจิ้มถ้วยเล็ก ๆ เท่านั้นซึ่งก็มีมาหลายถ้วยอยู่เหมือนกัน

โดยหุ้นบางตัวเคลื่อนไหวตามประเด็นข่าวที่มีออกมา ค่าเงินบาทและราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในทิศทางที่ทรงตัว วอลุ่มยังไม่ค่อยมีจับมือกันเดินทางเดียวกับประเด็นบวกใหม่ต่อตลาดที่ยังไม่เข้ามา SET จึงไร้ปัจจัยที่จะมากระตุ้นในระยะนี้ จะมีก็เพียงแค่ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ที่กำลังทยอยประกาศเท่านั้น

อ้อ...!ท้าย ๆ ตลาด LIVE ท่าทางจะมีดีลากขึ้นมาปิดกระโดดบวกเป็นHighสุดของวัน KRAZIPแนะนำว่าวันนี้ต้องมาดูกันต่อ...

TPIPL ราคาเปิด - ปิด11.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 56.46 ล้านบาท คาดการณ์กำไรปกติปี 2549 ที่ 1,127 ล้านบาท ลดลง 12% YoY และคาดว่าปี 2550 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,855 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67%YoY เนื่องจาก ราคาปูนซีเมนต์ได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนพลังงานได้มีการปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ คาดว่าจะส่งผลบวกทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่การเพิ่มทุนไปชำระหนี้จะทำให้ภาระหนี้ลดลงมาก นอกจากนี้ยังคาดว่าจะยังรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ส่วนที่เหลือที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาลอีกประมาณ 2,362 ล้านบาท ส่วนสัญญาณทางเทคนิค มีสัญญาณเป็นบวก ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ซึ่งคาดว่าธุรกิจน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ และจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า แนวรับ11 บาท แนวต้าน11.60 บาท

RK ราคาเปิด 2.32 บาท ราคาปิด 2.14 บาท มูลค่าการซื้อขาย 16.34 ล้านบาท ผู้บริหาร RK เปิดเผยถึง แผนการขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 65.12 ล้านหุ้น Par 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (2:1) ราคาหุ้นละ 1.70 บาท (กำหนดวันจองระหว่างวันที่ 19 และ 22-25 มกราคม 2550) K.KRAZIP เชื่อว่าหุ้นของ RKน่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นเดิมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังยืนยันจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว และขณะนี้คอนเสิร์ต Dutch Mill Present Rain?s Coming Rain World Tour in

Bangkok ได้มีกำหนดแน่นอนแล้วว่าจะมีขึ้นในวันที่ 2-3 มิถุนายน 2550 ที่อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี RKไม่ได้กังวลเรื่องการคืนบัตรชมคอนเสิร์ต ซึ่งเชื่อว่าจะมีการคืนบัตรน้อยมาก เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ก็ยังต้องการชมคอนเสิร์ตอยู่ ส่วนการยืดเวลาจัดคอนเสิร์ตออกไปทำให้สปอนเซอร์ได้มีเวลาจัดกิจกรรมนานขึ้น
ทำให้ผู้ที่ต้องการจะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์เดิมแต่ต้องยกเลิกไปเพราะเตรียมตัวไม่ทัน ก็สามารถเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ได้เพราะมีเวลาจัดกิจกรรมเพียงพอ ซึ่งทำให้บริษัทได้สปอนเซอร์เข้ามาเพิ่มอีก 2-3 ราย รายละประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในการเลื่อนจัดคอนเสิร์ตดังกล่าว ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ2.08 บาท แนวต้าน2.34บาท

RS ราคาเปิด 4.16 บาท ราคาปิด 4.34 บาท มูลค่าการซื้อขาย 120.312 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้างธุรกิจคาดว่าจะส่งผลให้กำไรโตอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้า Gross Marginปี2550ที่40-45% เพิ่มจากปีก่อนที่27-30% ด้านเป้ารายได้รวมปี50ตั้งไว้ที่ 3.5 พันลบ. เติบโต15% จากปี49
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะดีขึ้น จากการใช้โมเดลธุรกิจเป็นเครือข่างความบังเทิง รวมถึงคุมต้นทุนและการลดความเสี่ยงด้วยการไม่พึ่งพิงรายได้จากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเหมือนในอดีต โดยสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจคอนเทนท์70% และ30%จากธุรกิจมีเดีย ด้านผลกระทบจากสถานการณ์ในประเทศจะยังกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมบันเทิงบ้างแต่คงเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอีกเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณารวมถึงการจัดงานต่างๆ ก็จะยังคงมีอยู่ ส่วนการสร้างภาพยนตร์ตั้งเป้าในปี50นี้จะสร้างภาพยนตร์จำนวน 6
เรื่อง ตามนโยบายจะใช้งบลงทุนทางด้านการผลิตไม่เกินเรื่องละ 20 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/50 จะมีภาพยนตร์เรื่อง ผีไม่จิ้มฟัน, เมล์นรกหมวยยกล้อ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าในทุกเรื่องจะต้องทำกำไร แต่จะมากหรือน้อยต้องขึ้นอยู่กับความนิยม K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 4.28 บาท แนวต้าน 4.62 บาท

BECL ราคาเปิด 23.20 บาท ราคาปิด 23.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 33.45
ล้านบาท ปริมาณการจราจรใน 4Q49 มีการเติบโต 5.43%YoY โดยแบ่งเป็นส่วนของ
BECL ที่เพิ่มขึ้น 5.08% และ NECL 11.31% แต่หากดูในเรื่องของการแบ่งรายได้กับ กทพ.
จะพบว่าเส้นทางที่ต้องแบ่งรายได้มีปริมาณการจราจรลดลง 0.65% เนื่องจากการเปิดใช้ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ทำให้ทางด่านสุขสวัสดิ์มีปริมาณรถที่ใช้ลดลง และในส่วนที่ไม่ต้องแบ่งรายได้เติบโต 19.50%

เนื่องจากการปิดสนามบินดอนเมืองเพื่อไปใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้รถที่ใช้ด่านอโศก 4 ขาเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าใน 4Q49 BECL จะมีกำไรเติบโตสูงขึ้น อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้จะมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้น จากการจ่ายโบนัส ,อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นตามสัญญาจาก 3.98% เป็นราว 5% และเงินกู้ก้อนใหม่ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนใน TTW จึงส่งผลทำให้กำไรลดลง ในด้านของเงินปันผลคาดว่าจะอยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น และด้วยฐานะการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มองว่าบริษัทไม่น่าจะมีปัญหาในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน โดยมีแนวรับ 23.40 บาท แนวต้าน 24.20 บาท

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com