คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2550 มีมติในเรื่องดังต่อไปนี้

1. โครงการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนในการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในรูปแบบใบรับฝากหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนมือได้

คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบให้ศึกษาโครงการการนำหลักทรัพย์ต่างประเทศมาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในรูปแบบใบรับฝากหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนมือได้ (Transferable Custody Receipt: TCR) โดยวิธีการซึ่งสถาบันการเงิน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ และสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ เป็นผู้ออกตราสารดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ออกจะซื้อหลักทรัพย์คุณภาพดีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศชั้นนำตามที่ ก.ล.ต. กำหนดที่อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนภายในประเทศ และออก TCR ให้ผู้ลงทุนถือเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของหลักทรัพย์นั้น จากนั้นก็จะนำ TCR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนทั่วไปซื้อขายเปลี่ยนมือ

การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศด้วยวิธีนี้จะมีข้อดี คือ (ก) เปิดโอกาสให้ผู้ออมภายในประเทศรายย่อย สามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุน (ข) สามารถควบคุมวงเงินที่จะไหลออกได้ง่าย และควบคุมผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้ด้วย (ค) ช่วยเพิ่มสินค้าให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสร้างธุรกิจให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศ ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะหารือทำการศึกษาร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป

2. ขยายบทบาทของตลาดทุนไทยในภูมิภาคโดยเปิดให้บริษัทต่างประเทศสามารถออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในไทย

คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบให้ศึกษาแนวทางการเปิดให้นิติบุคคลต่างประเทศ สามารถระดมทุนในประเทศไทย และนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มบทบาทของตลาดทุนไทยในภูมิภาค โดยให้หารือธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่องความเหมาะสมที่จะผ่อนคลายการควบคุมปริวรรต รวมทั้งการศึกษาข้อจำกัดทางด้านกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ

บทความนี้เอามาจาก http://www.sec.or.th/ ซึ่งใน ความเห็นของผม นักลงทุนรายย่อยจะมีทางเลือกมากขึ้น สามารถซื้อหุ้นในตลาดต่างประเทศได้ โดยมีสิทธิเหมือนไปลงทุนต่างประเทศ ถ้าสถานการณ์ภายในประเทศไม่ดี ก็ไปซื้อหุ้นต่างประเทศเอาไว้ ถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่ควรรับรู้