April 29, 2024   1:12:56 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกจุดพลุหุ้นเด่นตลาดmai
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 19/01/2007 @ 23:23:12
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเกอร์คัดหุ้นพื้นฐานเด่น กราฟเทคนิคสวยตลาดmai ปี2550 แนะ?ซื้อ? 5 หุ้นฉายแววผลงานดีในระยะกลางถึงระยะยาว ?UMS?ยังคงแจ๋วสุดยกให้เป็นหุ้นขวัญใจที่วอลุ่มยังสะสมต่อเนื่อง ให้กรอบการลงทุนที่แนวรับแรก 14.00 บาท แนวรับถัดไป 12.00 บาท ส่วนแนวต้านแรก 18.00 บาท หากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 20.00 บาท ด้านหุ้นน้องใหม่?ETG?ให้กรอบแนวรับแรก 5.00 บาท แนวรับถัดไป 4.70 บาท แนวต้านแรกอยู่ที่ 6.00 บาท หากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 6.30 บาท ขณะที่?BROCK?แนวรับแรก 5.00 บาท แนวรับถัดไป 4.70 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 6.70 บาท

นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ที่มีความน่าสนใจโดยพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขายเป็นหลัก ซึ่งทางฝ่ายได้มองถึงแนวโน้มในระยะกลางถึงระยะยาว โดยหุ้นที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจ 5 อันดับแรกฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำหุ้นของบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด(มหาชน)หรือ UMS ซึ่งถือเป็นหุ้นที่ติดอันดับความน่าสนใจอย่างต่อเนื่องจากปี 2549 โดยให้กรอบทางเทคนิคที่แนวรับแรก 14.00 บาท แนวรับถัดไป 12.00 บาท ส่วนแนวต้านแรก 18.00 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 20.00 บาท แนะนำ?ซื้อ?

นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือUMS กล่าวถึงทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 30% เนื่องจากปัจจุบันฐานลูกค้าใหม่ที่ทยอยเปลี่ยนหม้อต้มจากเดิมใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงมาใช้ถ่านหินแทนมากขึ้น ทำให้มีคำสั่งซื้อถ่านหินเข้ามาในบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นตามด้วย ส่วนปี 2550 คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับที่ดี

ด้านนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานระบุว่าปีนี้UMS จะขยายฐานลูกค้าจาก 140 ราย เป็น 200 รายในปีนี้ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทำให้รายได้และผลกำไรที่สูงขึ้น ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าถ่านหินของบริษัทลดลงทำให้ ขณะที่คลังสินค้าและท่าเทียบเรือที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้กลางปีนี้จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรปรับประมาณการผลกำไรปีหน้าขึ้น 30%

ทั้งนี้จากปัจจัยบวกต่างๆ ทำให้คาดว่า UMS จะมีผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่องจากปี 2549 โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 30% เป็น 206 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.94 บาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ให้ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 20.50 บาท แนะนำ?ซื้อลงทุน?

โบรกมอง ETG ปี50กำไรเติบโตสูง
รองลงมาทางฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิคได้แนะนำ?ซื้อ?หุ้นบริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลลิสติกส์ จำกัด(มหาชน)หรือ ETG มองกลยุทธ์การลงทุนที่แนวรับแรก 5.00 บาท แนวรับถัดไป 4.70 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 6.00 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 6.30 บาท

แนะ?ซื้อ?ETG
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2550 อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่รายได้มากกว่าเป้าหมายที่ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการขยายฐานลูกค้าเก่า อีกทั้งขยายพื้นที่บริการใหม่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการติดตั้งถัง NGV ในรถขนสินค้าของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตั้งครบ 300 คันในปลายปีนี้ ทั้งนี้ จะช่วยลดรายจ่ายให้บริษัทฯได้ถึง 15%

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด(มหาชน) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2550 หุ้น ETG ขึ้น 15.4% อยู่ที่ 75 ล้านบาท จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 65 ล้านบาท เนื่องจากผลบวกจากราคาน้ำมันดีเซลและภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง รวมทั้งภาระดอกเบี้ยจ่ายในส่วนของ Factoring ลดลงได้ประมาณ200,000 บาทต่อเดือน หรือ 2.4 ล้านบาทต่อปี และในปี 2550 บริษัทจะจ่ายภาษีในอัตรา 20% ขณะที่อัตราภาษีปี 2549 บริษัทจ่ายที่ 30% ซึ่งช่วยให้ผลประกอบการปี 2550 ปรับตัวสูงขึ้น ให้เป้าราคาเหมาะสมที่ 6.54 บาทแนะนำ?ซื้อ?

BROCK เร่งพัฒนาสินทรัพย์ดันรายได้
อันดับที่ 3 บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด(มหาชน)หรือ BROCK ทางฝ่ายให้กรอบการลงทุนที่แนวรับแรก 5.00 บาท แนวรับถัดไป 4.70 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 6.70 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไปที่ 7.00 บาท แนะนำ?ซื้อ?

นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด(มหาชน) หรือ BROCK กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้มากกว่า 50% จากปี2549 ที่คาดว่ารายได้จะต่ำกว่าประมาณการที่ 280 ล้านบาท และในปี 2551 คาดว่ารายได้จะมีการเติบโตประมาณ 40-50% หลังจากที่มีรายได้จากบริษัทร่วมทุนเข้ามา ในขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก็ยังมีการเติบโตที่ดี

โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 600 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการทาวน์เฮ้าส์-บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด บริษัทฯสนามบินสุวรรณภูมิ 1 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท และโครงการที่จังหวัดภูเก็ต 1 โครงการ มูลค่า200 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) คาดกำไรปี 2550 BROCK เติบโต 89% โดยปีนี้ BROCK จะนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ออกมาพัฒนาเพื่อสร้างรายได้อย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันมีโครงการระหว่างพัฒนา 7 โครงการ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือสำหรับขาย ณ สิ้นไตรมาส 3/2549 จำนวน 162 ล้านบาท

สำหรับปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาท เป็นการนำทีดินที่มีอยู่แล้วมาพัฒนา ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังไม่รวมถึงการพัฒนาที่ดินติดชายหาด 506 ไร่ ที่ อ.ถลาง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติและหากเป็นไปตามแผนงานเดิมจะเป็นการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาพัฒนาโครงการ แนะนำ?ซื้อ?ให้เป้าราคาปีนี้ 8.45 บาท

TIESฐานะการเงินดี / พีอีต่ำ
ส่วนอันดับที่ 4 บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด(มหาชน)หรือ TIES ทางฝ่ายให้กรอบการลงทุนที่แนวรับแรก 2.50 บาท แนวรับถัดไป 2.30 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 3.10 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 3.30 บาท แนะนำ?ซื้อ?

นายธีรพล เต็มสุข กรรมการบริษัท บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด(มหาชน)หรือ TIES กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2550 บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตที่ 1,500 ล้านบาท จากปี 2549 ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีรายได้ 1,100-1,200 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20-25% ซึ่งการเติบโตจะมาจากทั้งงานก่อสร้างโรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, โรงงานอุตสาหกรรม , อาคารเชิงพาณิชย์

รวมถึงบริษัทยังรุกก่อสร้างรีสอร์ทด้วย
โดยในปี 2550 บริษัทฯ จะเหลืองานในมือประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งรวมงานโครงการจำนวน 3 โครงการที่เซ็นสัญญาในช่วงที่ผ่านมา ที่มีมูลค่า 252.9 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า TIES ยังมีงานก่อสร้างเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คุณภาพงานก่อสร้างเป็นที่ยอมรับทำให้ได้รับงานจากลูกค้าเก่าที่ต้องการขยายกิจการอย่างสม่ำเสมอ

ขณะที่ในปีนี้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะมีปัจจัยบวกจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชนลงทุนต่อไป

ดังนั้นจึงคาดการณ์ปี 2550 จะมีรายได้เติบโตที่ 1,309 ล้านบาท กำไรสุทธิ 60 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.45 บาท ฐานะทางการเงินดีขึ้นตามลำดับ D/E ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 1.97 เท่าในปี 48 เหลือ 1.32 เท่าในปี 2549 และปี 2550 เหลือ 1.21 เท่า ROE อยู่ที่ 14% มี เป้าราคาปีนี้อยู่ที่3.58 บาท เทียบกับ

P/E ที่ระดับ 8 เท่าถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้รับเหมารายอื่น ดังนั้นจึงแนะนำ?ทยอยสะสม?

TPACออเดอร์ล้น/ลูกค้าเก่า-ใหม่เพิ่ม
อันดับที่ 5 บริษัทพลาสติคและหีบห่อไทย จำกัด(มหาชน)หรือ TPAC ให้กรอบการลงทุนที่แนวรับ 2.80 บาท แนวรับถัดไป 2.60 บาท ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 3.10 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้มองแนวต้านถัดไป 3.30 บาท แนะนำ?ซื้อ?

นายปรีชา ศรีอัศวกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPAC กล่าวว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 22% ส่วนกำไรคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 30%

เนื่องจากเป็นการเติบโตที่มาจากผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุเครื่องสำอางค์และเวชภัณฑ์เป็นหลักอีกทั้งมีรายได้จากลูกค้าเก่าและใหม่เพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส จำกัด คาดรายได้จะเติบโตเป็น 724.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% และคาดกำไรอยู่ที่ 54.8 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.55 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

เนื่องจากสินค้าบรรจุภัณฑ์เป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไปและจำเป็นต้องใช้ในการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันและมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานปี 2550 ที่ 3.80 บาท แนะนำ?ซื้อ?




.00020

[/color:259322b2d5">[/size:259322b2d5">

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 19/01/2007 @ 23:35:30 : re: โบรกจุดพลุหุ้นเด่นตลาดmai
ขอบคุณค่ะที่เอาข่าวดีๆมาให้อ่าน[/color:e32f3a5029">

.0003
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 21/01/2007 @ 16:14:45 : re: โบรกจุดพลุหุ้นเด่นตลาดmai
อิๆๆๆๆๆ มีตัวที่มองติดอยู่ใน โผ ด้วยแฮะ
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com