April 28, 2024   1:08:02 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 22/01/2007 @ 10:06:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ซื้อสะสม ERAWAN เป้าหมาย 6 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด แนะนำ ซื้อสะสม ERAWAN เริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นสำหรับตัว ERAWAN เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ได้สะท้อนมาที่อัตราการเข้าพักที่สูงขึ้น และยกเลิกห้องพักที่ไม่มีการยกเลิกแล้วในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการของ ERAWAN ในไตรมาส 1/2550 จะสะท้อนถึงรายได้ที่ไม่เติบโต ถึงอย่างไรก็ตาม จากจำนวน 2,450 คืนที่ถูกยกเลิกนั้น มี 640 คืนที่เลื่อนการเข้าพักในเดือน เมษายน ซึ่งในช่วงนั้นฝ่ายวิจัยคาดว่า ERAWAN จะสามารถมีรายได้ที่เติบโตได้ เนื่องจากการเข้าในช่วงไตรมาส 2/2550 จะสามารถชดเชยรายได้ในช่วง Low Season ได้ ดังนั้นสำหรับ ERAWAN จึงแนะนำ ?ซื้อทยอยสะสม? โดยมีราคาที่เหมาะสมในปี 2550 ที่ 6.00 บาทต่อหุ้น

ซื้อ TOP เป้าหมาย 64 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเชีย จำกัด แนะนำ ซื้อ TOP บริษัทลงทุนต่อเนื่องในปี 50 อีกประมาณ 492 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงการเดิม ได้แก่ โครงการขยายกำลังการกลั่นหน่วย CDU-3 การขยายกำลังการผลิตของ TPX ดังกล่าวข้างต้น และอยู่ระหว่างศึกษาการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตผลพลอยได้ (By product) จากโรงงานไทยลูบเบสมาผลิตเป็นสารที่ใช้ผลิตยางรถยนต์ ซึ่งจะช่วยราคาของผลิตภัณฑ์และส่วนต่างกำไรได้จากเดิมประมาณ 200-300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนโครงการใหม่ คือ ธุรกิจเอทานอล ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน คาดว่าจะสรุปผลในช่วงไตรมาส 2/2550 ทั้งนี้ โครงการเหล่านี้ จะเริ่มเห็นผลจากการลงทุนในช่วงปี 2551 เป็นต้นไป ให้ราคาเป้าหมายปี 50 ที่ 64 บาท แนะนำ ?ซื้อ?: ปรับลดจากเดิมที่ 69 บาท เนื่องจากใช้ P/E Ratio ที่ 8.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย P/E ของโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ระหว่าง 8-9 เท่า จากเดิมที่ใช้ P/E ที่ 9 เท่า ยังคงแนะนำ ?ซื้อ? คาดว่าในระยะยาว TOP ยังมีโอกาสเติบโตตามอุตสาหกรรมการกลั่นที่ยังตึงตัว

ซื้อ KH เป้าหมาย 8.15 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ KH แม้เบื้องต้นกระแสข่าวอัตราเหมาจ่ายโครงการประกันสังคมสำหรับปี 50 จะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 40 บาทต่อหัวเป็น 1,630 บาทต่อหัว แต่จากจุดแข็งของ KH ที่มีโรงพยาบาลในเครือข่ายกว่า 6 แห่ง ทำให้ผู้บริหารตั้งเป้ามีจำนวนผู้ประกันตนปี 50 สูงขึ้นต่อเนื่องจาก 0.46 ล้านคนในปี 49 เป็น 0.50 ล้านคน ประกอบกับการปรับกลยุทธ์มาเน้นจับลูกกลุ่มค้าเงินสดของ KH เพิ่มขึ้นทั้งในรูปการจัดสัดส่วนพื้นที่ให้บริการที่เป็นระบบมากขึ้นระหว่างลูกค้าเหมาจ่ายกับเงินสดและการปรับปรุงการรักษาที่มีความเป็นเฉพาะทางเพิ่มขึ้นในสาขารัตนาธิเบศร์และบางแค โดยคาดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในครึ่งปีแรกของปี 50 ส่งผลให้เราประมาณการรายได้จาการให้บริการเติบโต 7.8% จากปีก่อนที่ 3,612.8 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันตาม สัดส่วนรายได้กลุ่มลูกค้าเงินสด ทำให้คาดผลการดำเนินงานปี 50 ยังคงเติบโตกว่า 15.3% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 468.1 ล้านบาท แนะนำ ?ซื้อ? จากผลประกอบการไตรมาส4/49 ที่จะยังขยายตัวโดดเด่น

ถือ STANLY เป้าหมาย 152 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด แนะนำ ถือ STANLY คาดว่ารายได้ของ STANLY ในไตรมาส 3/49 (ต.ค.-ธ.ค. 49) จะปรับตัวลดลงมาเหลือเพียง 1,843 ล้านบาท ลดลง 8.58% ไตรมาสก่อนหน้า และ 14.99% จากปีก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากปัญหาหลายด้านไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น การที่ STANLY เสียลูกค้าไปบางส่วน ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดรายได้และกำไรสุทธิสำหรับปี 49 และ 50 ของ STANLY จึงทำให้ประเมินมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของ STANLY โดยอิงกับ Prospective P/E ที่ระดับ 10.5 เท่า (ให้สูงกว่า P/E เฉลี่ยของกลุ่มที่ 10 เท่าเนื่องจาก STANLY มีความเสี่ยงด้านการ

เงินต่ำ และเป็นผู้นำของตลาดโคมไฟและหลอดไฟรถยนต์ในประเทศ) ได้ที่ 152 บาท จากราคาปิดล่าสุด (18 ม.ค. 50) ที่ 150 บาท ยังมี Upside Gain เพียง 1.33% เราจึงปรับลดคำแนะนำลงจากเดิม ?ซื้อลงทุน? มาเป็น ?ถือ? แต่อย่างไรก็ตามเราอาจมีการทบทวนประมาณการหลังจากเข้าพบผู้บริหารเพื่อสอบถามถึงภาพรวมของบริษัทในปี 50 ช่วงต้นเดือน ก.พ. อีกครั้งหนึ่ง

.00020




[/color:201b32c1f3">[/size:201b32c1f3">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com