April 28, 2024   4:23:18 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเวียดนามใกล้1000จุด แต่SETยังอยู่650..
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 22/01/2007 @ 11:11:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเวียดนามใกล้1000จุด แต่SETยังอยู่650..[/size:27be742a63">

วันนี้หากมามองตลาดหุ้นย่านเอเชียแล้ว ความร้อนแรงวินาทีนี้ ต้องยกให้ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นอันดับ 1 อัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย โดยนาย ลี มินห์ ฮัง ผู้อำนวยการสำนักสถิติแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า ผลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีในปีนี้จะขยายตัวในอัตรา 8.17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ความร้อนแรงของเศรษฐกิจเวียดนาม ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ทำให้เป็นเวียดนามเป็นตลาดหุ้นที่มีการเติบโตสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก และเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากตลาดหุ้นซิมบัมเว่) ในปีนี้ โดยนับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมปีที่ผ่านมา มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคปของตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นสูงถึง 60% ขณะที่ในช่วง 2 ปีหลังสุด มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า มาอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ และมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 22 บริษัทเป็น 35 บริษัทในปัจจุบัน
ล่าสุด ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามใกล้แตะ 1000 จุด ทั้งๆที่ปลายปีที่ผ่าน ดัชนีฯอยู่ที่ 700 จุด แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถยืนเหนือ 900 จุดได้ โดยตลาดหุ้นเวียดนามเริ่มเปิดการซื้อขายครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2000 หรือ กรกฎาคม 2543
สัญญาณตลาดหุ้นที่ดี ย่อมบ่งชี้ถึงฝีไม้ลายมือการบริหารประเทศของรัฐบาลเวียดนามว่า เจ๋งเพียงใด...แน่นอน ตลาดหุ้นที่ดี ย่อมมีสินค้าที่นักลงทุนให้การยอมรับ ซึ่งเวียดนามเตรียมเร่งนำหุ้นรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้แล้วเสร็จภายในปี 2009 ตามแผนปรับโครงสร้างกิจการของรัฐเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน
โดยนาย วู วาน นินห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามจะเร่งรัดแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เสร็จสิ้นในปี 2009 ซึ่งจะเป็นการขายหุ้นให้กับนักลงทุนในประเทศและพันธมิตรต่างประเทศและรัฐบาลได้เห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมายกิจการรัฐวิสาหกิจมาตรา 187 แล้ว ซึ่งเป็นกระบวนแรกที่จะเปิดทางให้มีการนำหุ้นรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนในอนาคต
ทั้งนี้ กิจการที่อยู่ในแผนแปรรูปของรัฐบาลเวียดนามได้แก่ กิจการพลังงาน โทรคมนาคม กิจการเดินเรือ กิจการน้ำมันและก๊าซ ไปจนถึงธนาคารและประกันภัย ปัจจุบันธนาคารรัฐวิสาหกิจชั้นนำ 4 แห่งของเวียดนามเตรียมอยู่ระหว่างเตรียมการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ภายในปี 2007 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาที่ปรึกษาต่างชาติ
ธนาคารทั้ง 4 แห่งได้แก่ State Bank of Viet Nam (SBV), Bank for Foreign of Viet Nam Trade (Vietcombank), Bank of Investment and Development of Viet Nam (BIDV) และ the Mekong Housing Bank (MHB)
นั่นคือ ภาพรวมคร่าวๆ สำหรับตลาดเวียดนามที่ชาวหุ้นไทยแลนด์ มองแล้ว อด อิจฉาชาวหุ้นเวียดนามหรือมังกรน้อยไม่ได้....เพราะ ตลาดหุ้นไทย เคยลงนาม MOU ให้ความช่วยเหลือ ตลาดหุ้นเวียดนาม The Ho Chi Minh City Securities Trading Center (HoSTC) ด้านเทคโนโลยี และการดูแลบำรุงรักษาระบบงานซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อปี 2543 จนทำให้ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์แห่งนครโฮจิมินห์เปิดให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2543
พอเหลียวมองตลาดหุ้นไทยวันนี้ กลับเหี่ยวเฉา ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนไหวระดับ 600 จุดต้นๆ ขณะที่โบรกเกอร์ต่างชาติบางแห่งมองระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจได้เห็น 550 จุด ขณะที่โบรกเกอร์บางรายมองดัชนีตลาดสิ้นปีนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่ 720-740 จุด ท่ามกลางปัจจัยการเมืองไทยยังเป็นตัวกดดันหรือตัวถ่วง
ตลาดหุ้นไทยกี่ไม่เดือน ก็จะมีอายุครบ 32 ปี ในวันที่ 30 เมษายน 2518 ซึ่งย่างเข้าสู่ปีที่ 33 และในอนาคต ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ก็จะย้ายที่ตั้งบนถนนสายบันเทิง หรือถนนรัชดาฯ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกล้วนตั้งบริเวณศูนย์กลางทางการเงิน...ตลาดหุ้นไทยนับว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ดัชนีตลาดเคยทะลุ 1700 จุด เคยตกต่ำเหลือกว่า 200 จุดช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ
มาวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่บริเวณ 650 จุด ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน ปัจจัยบวกยังไม่โผล่หน้ามาเห็น นักลงทุนในประเทศสวมบทผู้ชมนั่งเฝ้าหน้าจอเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนได้จากวอลุ่มเทรดแต่ละวัน ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างมาก หากเล่นหรือเข้าเทรดดิ้งจบในวัน นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อขายสลับกันไป ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ยังยืนยันค่อยๆซื้อ พร้อมกับการขายหุ้นออกมาเหมือนกัน
ตลาดหุ้นอับเฉาเช่นนี้ ย่อมบ่งชี้ ถึงนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ทั้งในอดีต ปัจจุบันได้เป็นอย่างดีว่า มีฝีมือไร้เทียมทานเพียงใด ความฝันในอดีตที่หวังจะเป็นเสือตัวที่ห้าสูญสิ้นไปหมดแล้วหรือ.... ตอนนี้จึงมองไม่ออกว่า เศรษฐกิจไทยจะเสือหรือแมว หรือ ไม่ใช่ทั้งเสือทั้งแมว จุด จุด จุด
อาจจะเป็นเรื่องเศร้า หรือเวรกรรม สำหรับตลาดหุ้นไทย ถ้าเรามัวจ้องทำลายล้างซึ่งกันและกัน จนทำให้เศรษฐกิจเดินไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น ผู้ประกอบการภาคเอกชน รอคอยว่า เมื่อไร ผู้มีอำนาจ วาสนา จะคำนึงเห็นแก่ผลประกอบการของประเทศชาติอย่างแท้จริง มิใช่มัวเล่นเกมการเมืองลูกเดียว ดัชนีตลาดหุ้นย่อมเป็นสิ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี หรืออีกนัยหนึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อนาคต รัฐบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. บริษัทหลักทรัพย์ อาจจะต้องเดินทางไปเยี่ยมชมประเทศเวียดนามและกิจการตลาดหุ้นเวียดนามก็ได้ เพราะตอนนี้ตลาดหุ้นเวียดนามมีพัฒนาหรือเติบโตได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งๆที่เพิ่งเกิดไม่ถึง 7 ปี แต่ดัชนีหุ้นเวียดนามกลับพุ่งทะยานใกล้แตะ 1000 จุด สรุปง่ายๆ ทิ้งห่างตลาดหุ้นไทยไปเรื่อยๆ
การพัฒนาการตลาดหุ้นเวียดนามอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเสน่ห์ให้บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยสนใจไปหาช่องทางทำมาหากิน รวมทั้งนักธุรกิจไทยก็ได้ อย่างน้อยไม่ต้องมีปัจจัยการเมืองคอยกดดัน ..และอนาคตชาวหุ้นไทย อาจกระโดดไปเทรดหุ้นเวียดนามก็ได้ ใครจะรู้

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com