สมาคมบล.ยื่นขอให้บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนข้อบังคับเกี่ยวกับการหักผลตอบแทน 25% ของมาร์เกตติ้ง โดยให้จ่ายเป็นทุกๆ 6 เดือน กัมปนาท เสนอให้มีการเลื่อนการประกาศใช้ออกไป 1 ปี หรือทางที่ดีให้ใช้พร้อมเปิดเสรีค่าคอมมิชชัน ขณะที่สหภาพฯเตรียมร่างคำร้องก่อนยื่นศาลปกครองให้คุ้มครองภายใน 10 ก.พ.นี้

นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ปัญหาในเรื่องการยื่นหนังสือร้องเรียกกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของเจ้าหน้าที่การตลาด หรือมาร์เกตติ้ง เพื่อให้มีการทบทวนการบังคับใช้ข้อบังคับในเรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของสมาชิก พ.ศ. 2549 เกี่ยวกับการหักผลตอบแทน 25% ของรายได้แต่ละเดือนเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2550 ว่า เรื่องดังกล่าวสมาชิกสมาคมได้ประชุมหารือถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นพร้อมมีมติที่จะเสนอให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาเพื่อทบทวนการบังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าว

ทั้งนี้ แนวทางในการเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะเสนอให้เลื่อนการบังคับออกไปอย่างน้อย 1 ปี หรือเลื่อนจนกว่าจะมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (คอมมิชชัน) และเปิดเสรีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เนื่องจากสมาชิกได้ประเมินแล้วว่าข้อบังคับดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในการแย่งตัวเจ้าหน้าที่การตลาด

เราประชุมกันตั้งแต่วันที่เค้ามีการมายื่นหนังสือ โดยสมาคมบล.ได้ข้อสรุปว่าจะขอให้ตลท.เลื่อนการบังคับใช้กฎเกณฑ์ดังกล่าวออกไปอย่างน้อย 1 ปี เพราะตั้งแต่แรกสมาคมก็ไม่ได้ต้องการที่จะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว นายกัมปนาท กล่าว

แหล่งข่าวจากผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การยื่นเรื่องขอเสนอให้มีการออกข้อบังคับการจ่ายผลตอบแทนให้เจ้าหน้าที่การตลาดในช่วงที่ผ่านมานั้น จุดเริ่มต้นมาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องการให้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินเดือนประจำให้กับพนักงานทุกราย โดยไม่มีการจ่ายผลตอบแทนเป็นแบบ Incentive เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งตัวเจ้าหน้าที่การตลาดในอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการหารือในเรื่องดังกล่าวจากหน่วยงานทีเกี่ยวข้องหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อหาข้อสรุปโดยเบื้องต้นสำนักงานก.ล.ต.ต้องการให้มีการกันเงินขั้นต่ำ 50% ของผลตอบแทนเป็นการจ่ายในลักษณะ 6 เดือนก็จะมาสรุปที่ 25% ของผลตอบแทนตามข้อบังคับของตลท.ที่ประกาศใช้

มีการพุดคุยกันหลายครั้งเรื่องการจ่ายผลตอบแทนก็จะสรุปออกมาตามข้อบังคับที่ประกาศใช้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาการแย่งตัวมาร์เกตติ้งที่ตรงกับปัญหามากนักแหล่งข่าวกล่าว

นายณัฐนคร เลื่อนรังษี ประธานสหภาพแรงงานธุรกิจหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาสมาชิกสหภาพฯได้หารือกับเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองเพื่อขอคำแนะนำในการเขียนคำร้อง เพื่อยื่นหนังสือให้ศาลปกครองวินิจฉัยคุ้มครองการประกาศใช้ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยขณะนี้สหภาพฯจะรอนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมสมาชิกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อขอมติในการยื่นหนังสือร้องเรียน

ทั้งนี้ สหภาพฯคาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องได้ภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์โดยขั้นตอนต่างๆของศาลในการพิจารณาคำร้องยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากจะต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ

เราได้รับผลกระทบจากข้อบังคับดังกล่าวเราจึงต้องยื่นเรื่องเพื่อขอให้มีการคุ้มครอง และยกเลิกการประกาศใช้ข้อบังคับออกไปก่อน ซึ่งไม่น่าจะเกินวันที่ 10 ก.พ.น่าจะยื่นหนังสือได้นายณัฐนคร กล่าว

อนึ่งก่อนหน้าที่ เจ้าหน้าที่การตลาดได้มีการรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือการคัดค้านต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้มีการยกเลิกข้อบังคับในเรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของสมาชิก พ.ศ. 2549 เนื่องจากไม่มีเวลาในการปรับตัว ประกอบกับไม่มีความมั่นใจว่าการกันเงินจำนวน 25% ของผลตอบแทนจะสามารถได้คืนครบตามจำนวนที่ถูกกันหรือไม่หากครบกำหนดเวลา