May 14, 2024   5:33:56 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบ ...กระซิบ...
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 29/01/2007 @ 10:41:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : K.KRAZIP
SET Index วันศุกร์ที่ 26 ม.ค. ปิดที่ 657.65 จุด -3.06จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,699 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่
508.29ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 71.87 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 436.42 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 660.12 จุด -0.59 จุด และ Low ที่ดัชนี 655.87 จุด -4.84 จุด โอ๊ะ....โอ๋ว ต่างประเทศแดงเถือกทุกตลาดแล้วตลาดหุ้นไทยจะสวนทางเขาก็คงจะไปไม่ไหวหรอกนาย ทั้งราคาน้ำมันดิบยังร่วงลงฉุดหุ้นพลังงานให้ร่วงลงตามไปด้วย ดัชนีเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วจึงเคลื่อนไหวลดลงในแดนลบตลอดการซื้อขายในกรอบดัชนีที่ 655 ? 660 จุด โดยกลุ่มนำตลาดที่กดดัชนีอยู่ตลอดวันเป็นกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงค์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่กลับมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นจากกลุ่มปิโตรเคมี (ATC) รวมถึงนักลงทุนยังหันไปเทรดในหุ้นเก็งกำไรกันหนาตาจึงทำให้ตลาดไม่ค่อยมีวอลุ่มเท่าใดนัก

ส่วนสัปดาห์นี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนคงจะเริ่มทยอยประกาศกันออกมามากขึ้น แล้วด้านค่าเงินเมื่อศุกร์ที่แล้ว K.KRAZIP เปิดไปเห็นช่วงจังหวะที่ On-Shore ลดลงไปแตะต่ำสุดที่ 33.83 US/TBพอดี (16.20 น.) แล้วไม่เกิน 5 นาทีก็ดีดกลับขึ้นที่ 35.84 US/TBส่วนด้าน Off-Shore แตะจุดต่ำสุดที่ 33.55 US/TB ช่วงนี้คงต้องติดตามเรื่องค่าเงินบาทกันอย่างใกล้ชิดหน่อยแล้ว

NWR ราคาเปิด 0.73 บาท ราคาปิด 0.72 บาท มูลค่าการซื้อขาย 57.71ล้านบาท บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างใหม่ 3 โครงการ มูลค่างานก่อสร้างรวม 412.18 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการศูนย์รับเลี้ยงเด็กทีปังกรรัศมีโชติ, อาคารในเขตพื้นที่ C1-C2 ของท่าเรือแหลมฉบัง และบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน บางบัวทองงานที่รับเข้ามาใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นงานก่อสร้างในภาคเอกชน โดยปัจจุบัน NWR มี Backlog Orderประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอในการสร้างรายได้ในช่วง 1-2
ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม K.KRAZIP มีความเห็นว่าจุดที่น่าจับตามองสำหรับ NWR คือการปรับทบทวนจากการเป็นผู้รับเหมา
มาสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะทำให้ NWR มีฐานกำไรที่ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2551 ดังนั้นราคาหุ้น ณ ปัจจุบันเหมาะแก่การทยอยสะสม
กอปรกับสัญญาณทางเทคนิคกำลังเป็นขาขึ้น แนะนำ ซื้อ โดยมีแนวรับ 0.72 บาท แนวต้าน 0.78 บาท

RATCH ราคาเปิด 43.50 บาท ราคาปิด 42.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 27.332 ล้านบาท คาดการณ์กำไรปี49อยู่ที่ 6.64 พันบล. เพิ่มขึ้น 9%YoY โดยใน 4Q06 ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงมาก ในส่วนของปี50 คาดว่าการได้ขยายกำลังการผลิต700-1,050 MW จากการประมูล IPP รอบ2 ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าเดือนเม.ย.นี้ รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าในลาวอีก 2 โครงการ คือน้ำงืม3(ขนาด440MW) ซึ่ง RATCH ถือหุ้น25%จะมีการเซ็นPPA ใน4-5เดือนข้างหน้า และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสา( ขนาด 1,400 MW) ซึ่ง BANPU จะสรุปการศึกษาภายใน1 ปีนี้ โดย กฟผ. ซึ่งถือหุ้นใน RATCH 45% อาจจะให้ RATCH ร่วมถือหุ้นในโครงการนี้ ร่วมกับ BANPU และรัฐบาลลาว กอปรกับการจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 1.20 บาท จากคาดทั้งปีหุ้นละ 2.19
บาท ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในตลาด K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 42.25 บาท แนวต้าน 44.50 บาท KTB ราคาเปิด 11.90 บาท ราคาปิด 12.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 869.17 ล้านบาท การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ KTB น่าจะมาจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุน เนื่องจากหุ้นของ KTB เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มีผลการดำเนินอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะปี 2549 ส่วนผลประกอบการ Q1/50 คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ และได้ตั้งประมาณการเงินปันผลปี 2549ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.50 บาท ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ยังมีแผนออกกองทุนตราสารหนี้ลงทุนในกองทุนต่างประเทศในประเทศที่เกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบแทนในเกณฑ์ที่สูง เนื่องจากกองทุนดังกล่าวที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี บริษัทตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร ไว้ที่ 320,597ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากปี 2549 ที่มีประมาณ 185,455 ล้านบาท ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 11.80 บาท แนวต้าน 12.40 บาท

PRO ราคาเปิด 1 บาท ราคาปิด 1.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 14.50 ล้านบาท ผู้บริหาร PRO กล่าวว่ารายได้ ปี 2550 คาดว่าจะสูงกว่าปี 2549 และจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ หลังแก้ปัญหาโรงงานที่จ.สระแก้วที่ถูกสั่งปิดใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ใน Q2/50 ซึ่งโรงงานแห่งนี้สร้างรายได้หลักให้ PRO สัดส่วนราวๆ 80-90 % คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี2550 จะอยู่ที่ 30-40 %
ดีกว่าปีก่อน เนื่องจากเชื่อว่าต้นทุนราคาน้ำมันน่าจะลดลง หลังจากราคาน้ำมันปรับลง และขณะนี้ PRO อยู่ระหว่างการหาพันธมิตร
เพื่อเข้าร่วมทำธุรกิจใหม่ แต่ยังคงเกี่ยวข้องกับธุรกิจกำจัดขยะ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในQ 2/50 นี้ ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เข้าเร็ว ออกเร็ว รับตังค์เนาะๆ แนวรับ 1.02 บาท แนวต้าน1.10 บาท
K.KRAZIP 29/01/2550






[/color:941ae739c5">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com