May 14, 2024   6:07:20 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่นmai
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 29/01/2007 @ 10:48:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเปิดตัว 10 หุ้นจิ๋วตลาดmaiติดสำรวจอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2550 สูง ยกตำแหน่งเบอร์ 1 ให้?PR124?คาดปีนี้อยู่ที่ 13.66% ส่วน?SLC?ตามติดด้วยตัวเลข 11.51% ขณะที่?CMO?ไม่ทิ้งห่าง
ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้ไว้ที่ 11.02 % ส่วน?CIG?โบรกมองความเป็นไปได้ที่ 10.5%

ท้ายสุด?STEEL?ตัวเลขเฉียดฉิวอยู่ที่ 10.4% ด้านฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนบล.ธนชาต ระบุเป็นฤดูเก็บเกี่ยวหุ้นปันผล แนะเลือกหุ้นให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงP/E ต่ำ ผลประกอบการดีมีเสถียรภาพและมีสภาพคล่องในการซื้อ-ขาย

นักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบันแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยถือว่าอยู่ในช่วงขาลงจึงส่งผลทำให้หุ้นปันผลกลับมาเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนมากขึ้น และยิ่งกว่านั้นความน่าสนใจของหุ้นปันผลยังเพิ่มขึ้นในช่วงใกล้ฤดูการจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมา ซึ่งตามปกติแล้วจะประกาศหลังการประกาศผลประกอบการประจำปีในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมีนาคม 2550 ซึ่งการเข้าสู่ช่วงของการจ่ายเงินปันผลอาจถือเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ได้

อย่างไรก็ตามในการเลือกหุ้นปันผลนั้นทางฝ่ายได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกคือให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง มีP/E ต่ำและค่อนข้างต่ำและเป็นหุ้นที่ไม่ได้แนะนำขาย อีกทั้งยังมีผลประกอบการที่ดีหรือมีเสถียรภาพและมีสภาพคล่องในการซื้อ-ขาย ซึ่งมีบางบริษัทในตลาดmai มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมา

ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ทันหุ้นได้รวบรวมหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2550 อยู่ในอันดับสูงสุด 10 อันดับแรกพบว่าเป็นหุ้นบริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด(มหาชน) หรือ PR 124 โดยบริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด ให้ความเห็นว่าจากการที่บริษัทได้หันมาเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเอกชนมากขึ้นในปีนี้ และส่วนหนึ่งมาจากงานที่มีอยู่ในมือ อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งใหญ่ซึ่งถือว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสนับสนุนกจิกรรมภาครัฐให้เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ยังต่ำเพียง 0.2 เท่า จึงคาดว่าจะส่งผลต่อผลประกอบการดังนั้นจึงมีผลต่ออัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Dividend yield)โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 13.66%

อันดับที่ 2 คือบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) หรือ SLC โดยบริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ จำกัดคาดว่าปีนี้จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 11.51% เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรสุทธิและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ระบบสำนักงานอัตโนมัติและซอฟแวร์สำหรับบริหารองค์กร ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ต่ำเพียง 0.1 เท่าทำให้ฐานะทางการเงินของSLCแข็งแกร่ง

คาดCMOจ่ายDividend yield11.02%
ส่วนอันดับที่ 3 คือบริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ CMO ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป ได้ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้ไว้ที่ 11.02 % เนื่องจากจะมีงานบางส่วนจากปี 2549 ที่รับรู้ปีนี้อีกทั้งได้รุกงานในประเทศกัมพูชา โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้น 75% เพื่อทำธุรกิจด้านการบริหารการจัดงานแสดงในกัมพูชาแต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มงานปีนี้จะชะลอตัวลงโดยเฉพาะจากงานภาครัฐแต่ยังคงมีรายได้จากงานประจำ อาทิ ICT Expoและมอเตอร์โชว์

สำหรับอันดับที่ 4 คือบริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)หรือ CIG ที่บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด คาดว่าปีนี้จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลถึง 10.5% เพราะคาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มยอกขายและกำไรสุทธิอย่างก้าวกระโดดในปี 2550 เป็นต้นไปจากการหาลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศจากญี่ปุ่น-เกาหลี ซึ่งต้องการจ้างผลิตคอยล์แทนการผลิตเองมากขึ้น อีกทั้ง CIG ยังมีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตในปี 2550

?STEEL?ติดเบอร์5ที่ 10.4%
อันดับที่ 5 บริษัท สตีล อินเตอร์เทค จำกัด(มหาชน) หรือ STEEL บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด คาดว่าปีนี้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 10.4% จากทิศทางธุรกิจยังขยายตัวได้ดีทั้งด้านกำลังการผลิตและสินค้าใหม่

อันดับที่ 6 บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ L&E บริษัทหลักทรัพย์ซิกโก้ จำกัด ได้ประเมินว่าแม้ว่าจะเป็นหุ้นที่มีขนาดเล็กแต่ผลประกอบการยังมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูงจากการลดต้นทุนและผลประโยชน์ทางภาษี ขณะที่ราคาหุ้นมีความผันผวนน้อยท่ามกลางภาวะตลาดผันผวนคาดปีนี้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 10.2%

นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังได้ประเมินหุ้นบริษัท พลาสติกและหีบห่อไทย จำกัด(มหาชน)หรือ TPAC ว่าปีนี้จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 9.60% โดยบริษัทมีฐานลูกค้าที่แน่นอนโดยกระจายไปในกลุ่มต่างๆ ไม่ได้พึ่งลูกค้ารายใดรายหนึ่ง ขณะที่ปีนี้จะได้กำลังการผลิตส่วนเพิ่มของสายการผลิตขวดPET ทำให้รายได้มีการเติบโตเพิ่ม

ส่วนบริษัทที่ 8 คือ บริษัททาพาโก้ จำกัด(มหาชน)หรือTAPAC บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน) ได้ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้อยู่ที่ 9.10 % จากคาดว่ากำไรปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากตลาดPrinter ที่ยังเติบโต และยอดคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าที่ขณะนี้ที่เฉลี่ยตกอยู่ประมาณเดือนละ 37 ล้านบาท และเตรียมขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

อันดับที่ 9 บริษัท ปิโก(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)หรือ PICO โดยบริษัท ไอ วี โกลบอล จำกัด(มหาชน) ได้ประเมินว่าเป็น 1 ในหุ้นปันผลเด่นในตลาดmai แม้คาดว่ารายได้ปีนี้จะติบโตเพีย 15% แต่กำไรสุทธิจะเติบโต 5.2% จากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ Knowledge& Communication

และอันดับที่ 10 บริษัท ถิรไท จำกัด(มหาชน) หรือ TRT ที่บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด ประเมินปีนี้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 8.08 % ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะสูงสุดประมาณ 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา TRT น่าจะได้รับประโยชน์และยังมีงานที่รอรับรู้รายได้อีกประมาณ 500 ล้านบาทและที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาทและได้ขยายตลาดไปสู่หม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาด 300 MVA น่าจะส่งผลดีต่อTRT

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com