ซื้อ RCL เป้าหมาย 24 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) แนะนำ ?ซื้อ? RCL คาด Normalized earnings ปี 50 มีแนวโน้มดีขึ้น: เราคาดว่า Average Freight Rate ในปี 50 จะสามารถยืนอยู่ที่ระดับ 215 US$/TEU ซึ่งใกล้เคียงกับปี 49 ได้ แม้ในอุตสาหกรรมเรือขนส่งคอนเทนเนอร์จะมีการแข่งขันที่มากขึ้น แต่ปริมาณการขนส่งก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการบริโภคสูง โดยประเมินว่าปริมาณขนส่งในปี 50 จะเพิ่มขึ้นราว 11% เมื่อเทียบกับปี 49 นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการที่ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงด้วย ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในระดับปานกลาง เนื่องจาก RCL มีรายได้เกือบทั้งหมดเป็น US$ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็เป็น US$ ด้วย และบางส่วนก็เป็นค่าใช้จ่ายตามสกุลเงินท้องถิ่นของเมืองท่าขนส่งค้า ทั้งนี้ คาดผลประกอบการในปี 50 RCL จะมีกำไรปกติที่ 2,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 49 ประมาณ 16%แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 24 บาท

ซื้อ ATC เป้าหมาย 40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด แนะนำ ซื้อ ATC แนวโน้มธุรกิจอโรเมติกส์ในปีนี้น่าจะยังสดใสต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้บริหารจาก SCC กล่าวว่ากำลังการผลิตของ PTA จะเพิ่มขึ้นราว 5 พันตันในปีนี้ ในขณะที่กำลังการผลิต PX จะเพิ่มขึ้น
2.1 ล้านตัน ถ้าการผลิต PTA จำนวน 1 ตันต้องใช้ PX จำนวน 0.67 ตัน หน่วยผลิต PTA จะต้องการวัตถุดิบ PX เพิ่มขึ้นอีก 3.4 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งเท่ากับว่าจะเกิดภาวะขาดแคลน PX ราว 1.3 ล้านตันในปีนี้ ปัจจัยบวกในระยะสั้นจะมาจาก spread ที่เพิ่มมากขึ้น โดย benzene-tapis spread เพิ่มขึ้น 14% จากเฉลี่ยในไตรมาส 4/49 เป็น USD507/ตันใน ม.ค.07 ในขณะที่ PX-
tapis spread ก็เพิ่มขึ้น 11% เป็น USD669/ตันในช่วงดังกล่าว ราคาหุ้น ATC ได้ปรับตัวขึ้นมา 43% นับจากวันที่ฝ่ายวิจัยปรับคำแนะนำเป็น ?ซื้อ? แม้ว่าสิ่งที่ยังน่ากังวลคือ supply ใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศตะวันออก
กลาง แต่ผลประกอบการของ ATC ที่ยังดีอยู่ในปีนี้น่าจะยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น จึงยังคงแนะนำ ?ซื้อ? โดยมีราคาเป้าหมายที่ 40 บาท

ซื้ออ่อนตัว GLOW เป้าหมาย 34 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด แนะนำ ซื้ออ่อนตัว GLOW ฝ่ายวิจัยได้ปรับกำไรสุทธิปี 49 เพิ่มขึ้น 13% เป็น 5,394 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) เพิ่มขึ้น แต่ปรับประมาณการกำไรปกติ (ไม่รวม FX) ในปี 49-50 ลดลงเป็น 4,477 และ 4,498 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 50 ยังคงไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าครั้งใหญ่ แต่โรงไฟฟ้า IPP จะทำการหยุดซ่อมใหญ่อีกครั้งในช่วงปลายปี 51 รวมทั้งไม่มีกำลังผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา แม้ปริมาณขายปี 50 จะเพิ่มขึ้น 40 MW (สำหรับ VNT) แต่กำไรจะไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจะถูกชดเชยด้วยต้นทุนผลิตส่วนเพิ่มที่สูงขึ้น สำหรับสาเหตุที่ GLOW ยังคงผลิตอยู่ เพื่อต้องการรักษาลูกค้าใหม่สำหรับทดแทนลูกค้าเดิมกลุ่ม PTT (PTTCH/ATC) ที่คาดว่าจะไม่ต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 53 กับบริษัท คาดว่าการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า IPP ใหม่ในเดือน เม.ย.50 ซึ่ง GLOW มั่นใจว่าจะชนะประมูลในครั้งนี้อย่างน้อย 700 MW จะเริ่มผลิตได้

ในปี 55 วงเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญ จากกำลังผลิตของ IPP ใหม่ที่คาดจะเปิดประมูล 3,500-4,000 MW แนะนำ ?ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว? โดยมีมูลค่าเหมาะสมปี 50 ที่ 34 บาท

เก็งกำไร ASCON ราคาหลังเพิ่มทุน 7 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ASCON ปัจจุบันแผนการเพิ่มทุนดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว แต่ยังไม่กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XR และ XW แต่อย่างไร โดยจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในวันที่ 1 มีนาคม 2550 อีกที ถึงแม้ว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ราคาพื้นฐานของ ASCON ที่ประเมินด้วยความ Conservative (โดยรวมเอาจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดมาคิด) จะปรับลดลงจาก 13.90 บาท เหลือเพียง 7.00 บาท เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมองการเติบโตด้านรายได้ของ ASCON ในปี 49 และ 50 ว่าจะเติบโตระดับ 70% ต่อปี ขณะที่กำไรสุทธิมีการเติบโตเฉลี่ยปี 49-50 ที่ระดับ 80% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ยังคงน่าสนใจอยู่ รวมทั้งนักลงทุนที่ถือหุ้นและทำการเพิ่มทุน จะยังได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิฟรีอีก 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ดังนั้นจึงแนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? จากผลดีของการเพิ่มทุนที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของบริษัทต่อการเติบโตในอนาคต