บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คัดสรรหุ้นความเสี่ยงต่ำผลงานปี 2549 เจ๋งเล่นแก้เซ็งช่วงตลาดหุ้นซึม ชู [b:b442891358">PTT- RRC- ATC- BANPU- BIGC- CP7-11- HMPRO- MINOR- BH และ BGH [/b:b442891358">เข้าตาสุดคาดกำไรปี 2549 จ่ายเงินปันผลได้ชัวร์แนะ?ทยอยซื้อลงทุน? ก่อนประกาศผลงานช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงซึมต่อ จากมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนเบาบาง เหมือนชีพจรที่ใกล้หยุดเต้น แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 นักลงทุนยังคงกล้าๆกลัวๆ จากเศรษฐกิจที่ทำท่าจะชะลอตัว

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกดยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่จะถึงนี้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2549 ออกมา ซึ่งประเมินว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงปลายปีได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน

? ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะทรงตัวและอาจจะลดลงได้ เพราะปีที่ผ่านมาวิกฤตการเมือง ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจของประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายถึงกับเอยปากเลยว่าผลงานปี 2549 อาจะพลาดเป้าจากที่ตั้งไว้ ? นายชัยกล่าว

นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังลดลง การชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังเป็นตัวฉุดให้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนลดลงด้วย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหรรมที่รายได้ออกมาในรูปของค่าเงิน เช่นกลุ่มส่งออก จะเห็นได้ว่าผลงานพลาดเป้ากันเกือบทุกบริษัท แต่คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะถูกคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ภายในปีนี้

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าว และยังมีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง อาทิ เช่น กลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากสินค้าในกลุ่มดังกล่าวมีความต้องการใช้สูง ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าต้นทุนการผลิตที่มาจากน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ก็อยู่อัตราความเสี่ยงที่น้อยกว่ากลุ่มอื่น ส่วนกลุ่มถ่านหินคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับหุ้นในกลุ่มเดินเรือคาดว่าผลงานปี 2549 จะยังสดใสและเติบโตได้ดีอยู่ เพราะประเมินว่าอัตราค่าระวางเรือไม่ผันผวนมากนัก อีกทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ขณะที่กลุ่มพลังงานราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลยังคงได้รับผลดีจากการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของเอเซีย และการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ท้ายสุดหุ้นกลุ่มบันเทิงที่ยังได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่ไหลเข้ามาในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2549 อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ได้รับความเสี่ยงน้อยสุดจากปัจจัยลบข้างต้น

ดังนั้นฝ่ายวิจัยได้คัดสรรหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการเติบโตและได้รับความเสี่ยงน้อยสุดจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในปี 2549 ที่ผ่านมา โดยยังคงแนะนำ ? ทยอยซื้อลงทุน? หุ้น PTT- RRC -ATC ?BANPU- BIGC- CP7-11- HMPRO - MINOR -BH และ BGH เพื่อรอรับเงินปันผลงวดปี 2549 หลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานออกมา เพราะฝ่ายวิจัยคาดว่าหุ้นที่กล่าวมาข้างต้นมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นดังกล่าวนักลงทุนต้องติดตามการเคลื่อนไหวของตัวบริษัทอย่างใกล้ชิด ทั้งผลประกอบการและแผนการดำเนินงานในปี 2550 เพื่อพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน