May 20, 2024   6:24:04 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วิเคราะห์ประจำวัน
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 02/02/2007 @ 09:03:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แรงซื้อกระจุกหุ้นเก็งกำไร ค่าบาทตลาด ตปท.แข็งโป๊ก ?เฟด? ตรึง ดบ.ไม่กระทบไทย

ตลาดหุ้นยังซึม แกว่งกรอบแคบๆต่างชาติซื้อขายรายวัน ประเมินแนวโน้มแรงซื้อกระจุกตัวในหุ้นเก็งกำไร ด้านผู้ว่าฯธปท.ชี้ ?เฟด? ตรึงดอกเบี้ยไม่กระทบไทย ส่วนค่าบาทซื้อขายตลาดต่างประเทศแข็งทะลุ 33 บาท ไม่น่าเป็นห่วง เชื่อต่างชาติจะกลับมาซื้อขายเงินบาทในประเทศอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บรรยากาศการลงทุน วานนี้ (1ก.พ.) ภาพรวมตลาดยังคงซบเซา ไร้ปัจจัยใหม่สนับสนุน แม้ว่าธนาคารกลางของสหรัฐฯจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% โดยแรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างประเทศ และกองทุน สลับแรงขายทำกำไรของรายย่อย ดัชนีผันผวนก่อนมาปิดที่ระดับ 657.00 จุด โดยดัชนีได้ทำการบวกเพิ่มขึ้น 2.96 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ 10,443.36 ล้านบาท ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 241.42 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 164.36 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 405.78 ล้านบาท

นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)นครหลวงไทย จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้น (2 ก.พ.) คาดว่า ดัชนีจะยังคงมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่มาสนับสนุน ส่วนปัจจัยลบก็รับทราบกันหมดแล้ว ดังนั้นในช่วงนี้การลงทุนจึงกระจุกตัวอยู่ในหุ้นเก็งกำไรเสียส่วนใหญ่ ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติ มองว่า น่าจะยังซื้อสุทธิบ้างเพียงเล็กน้อย และหุ้นที่ต่างชาติซื้อคงเป็นหุ้นพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ขยับ และหุ้นในกลุ่มธนาคารบางตัวเท่านั้น ประเมินกรอบแนวรับอยู่ที่ 652 จุด ส่วนกรอบแนวต้าน อยู่ที่ 660 จุด

ค่าบาทตลาดนอกแข็งทะลุ 33
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงค่าเงินบาทในตลาดต่างประเทศที่แข็งค่าขึ้นมาก จนถึงระดับ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจาก ธปท.ออกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ของเงินทุนนำเข้าระยะสั้น ว่า เป็นตัวสะท้อนว่ามาตรการดังกล่าวของ ธปท.ได้ผล เพราะทำให้ตลาดซื้อขายเงินบาทต่างประเทศแยกออกจากในประเทศอย่างชัดเจน ผู้ส่งออกไม่ต้องวิตกว่า เงินบาทในประเทศจะแข็งค่าขึ้นตาม โดยสาเหตุที่เงินบาทในต่างประเทศแข็งค่าขึ้น เนื่องจากมีการสัญญาส่งมอบเงินบาทล่วงหน้าไว้ แต่ปริมาณเงินบาทในต่างประเทศมีน้อย เพราะนักลงทุนต่างชาติไม่ต้องการขายบาทออกนอกประเทศ เพราะหากจะนำเงินกลับเข้าประเทศ ก็จะต้องกันสำรอง ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปริมาณเงินบาทในต่างประเทศจึงน้อยลง ทำให้แข็งค่าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ ธปท. เชื่อว่า ในอนาคตนักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อขายเงินบาทในประเทศมากขึ้น รวมทั้งจะมีการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงฝากถึงผู้ส่งออกว่า ในการกำหนดราคาให้ใช้อัตราเงินบาทในประเทศ เพราะไม่เช่นนั้นจะเสียผลประโยชน์

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยว่า ไม่ได้มีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยของไทย เพราะประเทศไทยเล็กกว่าสหรัฐฯ ดังนั้น พื้นฐานเศรษฐกิจจึงแตกต่างกัน การที่เฟดขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย การตัดสินใจของแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน ธปท.จะติดตามความเปลี่ยนแปลงต่างๆเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น

 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 02/02/2007 @ 09:04:58 : re: วิเคราะห์ประจำวัน
อสังหาฯ ชะลอตามภาวะเศรษฐกิจ

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการสัมมนา ?อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2007? ว่า การขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2550 ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4% ? 5% เนื่องจากภาคการลงทุนขยายตัว 4.5% ? 5.5% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.5% ? 4.5% ในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยดัชนีทางที่อยู่อาศัยสะท้อนการชะลอตัวลงตั้งแต่ปี 2548 เพราะมีหลายปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค เช่น ราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับลดลง และภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวม เอื้อต่อการลดดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ

* เอกชนห่วงที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จแล้ว
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูลย์ ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า จุดที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ จำนวนที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วเพิ่มมากจนอาจเกิดภาวะ Over Supply โดยเฉพาะบ้านราคาแพง ขณะที่ภาวะตลาดชะลอตัวลง จึงเกรงว่าอาจเกิดปัญหาวิกฤตย่อยๆได้ เพราะขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวรุนแรงมากขึ้น สภาพคล่องในธุรกิจลดลงตามยอดขาย จึงเตือนให้ผู้ประกอบการมีความระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม หากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลงมากกว่า 1% ในปีนี้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นให้ตลาดดีขึ้นได้บ้าง

* นายแบงก์รอดูอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.กำลังติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ซึ่งคาดว่า อาจจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายอีก เพื่อลดภาระให้ผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ธอส. คาดว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจะลดลงประมาณ 0.5% ? 1% ในปี 2550 โดยปริมาณสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ ในตลาดโดยรวมจะมีมากกว่า 2 แสนล้านบาท ลดลงเล็กน้อยตามภาวะตลาดที่ซบเซา ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยคงเหลือมีปริมาณกว่า 1.3 ล้านล้านบาท ส่วนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2549 เป็น 83,000 หน่วย โดยห้องชุดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 21.8% เป็น 32% โดยราคาขายที่อยู่อาศัยคาดว่าจะต่ำกว่า 3 ล้านบาท
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#2 วันที่: 02/02/2007 @ 09:06:01 : re: วิเคราะห์ประจำวัน
เฟดไม่ปรับดอกเบี้ยตามคาด รอบต่อไปมีสิทธิ์ขึ้นมากกว่าลด

นิวยอร์ค ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยตามคาด แม้จะชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อยังคงมีความเสี่ยงแต่เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน นักลงทุนหวั่นการเคลื่อนไหวรอบต่อไปของเฟดอาจจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยแทนที่จะลดดอกเบี้ย

การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐมีขึ้นท่ามกลางสัญญาณที่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมีเหตุผล แต่กล่าวว่ายังคงมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้ออยู่บ้าง และมีสัญญาณของความมีเสถียรภาพเป็นการชั่วคราวในตลาดบ้านสหรัฐ

การตัดสินใจไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์และมีขึ้นในขณะที่ข้อมูลอย่างเป็นทางการชี้ว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตเร็วกว่าที่คาดในปลายปี 2549

ตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยตลาดบ้านที่ชะลอตัวลงได้
มีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่ในเวลานี้นักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงความกังวลว่าธนาคารกลางอาจมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพราะกลัวว่าจะยังคงมีแรงกดดันเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแถลงการณ์ของเฟดได้แสดงท่าทีต่อเงินเฟ้อไม่ขึงขังเหมือนที่เทรดเดอร์บางคนได้คาดการณ์ไว้ ทำให้แนวโน้มที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในปลายปีนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งโดยเมื่อดูจากตราสารดอกเบี้ยระยะสั้น มีโอกาสที่จะมีการลดดอกเบี้ยภายในปลายปีนี้พอประมาณ

เฟดยังคงพยุงตัวในน้ำ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่ามีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจริงๆในตลาดแรงงาน เอียน เชพเฟิร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของไฮฟรีเควนซี่ อีโคโนมิคส์กล่าว
 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#3 วันที่: 02/02/2007 @ 10:29:31 : re: วิเคราะห์ประจำวัน
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบ กลุ่มอสังหาฯได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง

นักวิเคราะห์ประเมินดัชนีเช้าวันนี้แกว่งแคบเงียบเหมือน 2-3 วันที่ผ่านมา BAY นำร่องลดดอกเบี้ยเงินฝากขาเดียววานนี้น่าจะทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่นทยอยทำตาม ตรงนี้อาจกระตุ้นตลาดไม่มากและสะท้อนเข้าไปในตลาดแล้วจากแรงซื้อในกลุ่มธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าวันนี้กลุ่มอสังหาฯน่าจะเล่นต่อได้จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แต่ถ้าวอลุ่มไม่ถึง 10,000 ลบ.ดัชนีผ่านแนวต้าน 661 จุดยาก

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งแคบเงียบเหมือนช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงขยับเดินหน้าขึ้นต่อรวมถึงการลดลงเล็กน้อยของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกคงไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ตลาดหุ้น break บริเวณแนวต้าน 661 จุด

การที่ธ.กรุงศรีอยุธยานำร่องปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากขาเดียวทุกประเภทเมื่อวานนี้เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ที่เหลือจะทยอยทำลักษณะเดียวกัน คือลดดอกเบี้ยเงินฝากขาเดียวซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนของธนาคารพาณิชย์ดีขึ้นและเป็นการเตรียมพร้อมที่จะกด MOR ลงต่อมา เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ต้องการดึงเวลาเล็กน้อยเพื่อบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่ให้ถูกกระทบมากนัก

ตรงนี้คงจะกระตุ้นตลาดได้ไม่มากนักและสะท้อนเข้าไปในตลาดหุ้นพอสมควรจะเห็นว่าเมื่อวานนี้มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ แต่กลุ่มอสังหาฯอาจจะมีการเล่นต่อได้เพราะมีความคาดหวังเชิงบวกว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะลดลงในปีนี้ประมาณ 1% คงจะกระตุ้นกำลังซื้อที่ชะลอการตัดสินใจตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว นายพิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดัชนีคงไปไหนได้ไม่ไกล เงียบๆ มูลค่าการซื้อขายไม่ถึง 10,000 ล้านบาท และดัชนีที่จะผ่านแนวต้าน 661 จุดขึ้นไป ต้องอาศัยมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาทขึ้นไป จึงจะ Confirm การปรับขึ้น

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(1 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,673.68 จุด เพิ่มขึ้น 51.99 จุด(+0.41%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,445.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.70 จุด(+0.54%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,468.38 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด (+0.18%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 243.97 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 57.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.84 ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือน ม.ค.50 ลดลง 0.3% จาก ธ.ค.49 และเพิ่มขึ้น 3% จากเดือน ม.ค.49 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 50 จะอยู่ในระดับ 1.5-2.5%
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.125-0.25% สำหรับเงินฝากประจำ 3 เดือนและ 6 เดือน มีผลตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้
- คณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดช่องให้ ก.คลัง เสนอแก้ กม.ออกหวยบนดินได้ ระบุไม่นิรโทษกรรม รบ.เก่า โดยจะมีข้อสรุปในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ในประเด็นข้อสงสัยของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ว่าเป็นคุณหรือโทษ
-บอร์ดบีโอไอ อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการ ทั้งโรงแยกก๊าซและสถานีบริการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวของ บมจ.ปตท.(PTT), กิจการผลิตเหล็กรูปพรรณ, กิจการผลิตเอทานอลรองรับนโยบายพลังงานทดแทนของรัฐ มูลค่าเงินลงทุนรวม 70,474 ล้านบาท
-บอร์ดบีโอไอ มติเห็นชอบ เปิดให้การส่งเสริมในประเภทกิจการ เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ (Logistics Park) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์อย่างเต็มรูปแบบ
- ผู้ว่าการ ธปท.ระบุ อสังหาฯ ปี 2550 ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นได้ เช่น ดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ชี้จุดที่น่าเป็นห่วง คือจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จสูงมาก จนอาจเกิด Over Supply ด้าน ธอส.ประเมิน ธปท. ลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง ในการประชุม กนง. ครั้งต่อไป
-ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุจะนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่าตั้งแต่ปี 2475-2540 มาประกอบการพิจารณารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คาดจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้
-กรมปศุสัตว์ เผยตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกเพิ่มเป็นจุดที่ 3 ในไก่พื้นเมืองที่ อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกรอบใหม่ในปี 50
-ธนาคารโลก และ IMF แนะให้มีการแยกอำนาจการกำกับดูแลสถาบันการเงินระหว่าง ธปท. และ ก.คลัง ให้ชัดเจน พร้อมทั้งให้ปรับปรุงกฎหมายกำกับการสถาบันการเงิน ให้เพิ่มการตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อสาขาธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงินให้เข้มแข็ง
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com