เซียนหุ้นตบเท้าแจกอั่งเปารับตรุษจีน-เงินนอกทะลัก เปิดโผ 15 หุ้นเด็ดน่าเก็บเข้าพอร์ต SEAFCO NWR STEC QH RATCH EGCOMP BANPU CK SEAFCO SCB PSL TTA AP RS UV พร้อมประเมินก่อนตรุษจีนวิ่งขึ้นต่อ แต่หลังจากนี้ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะประเด็นการเมือง แกะรอยแรงซื้อฝรั่งพบ UBS มาตามสัญญาซื้อหุ้นเข้าพอร์ตมากที่สุด ดันสัปดาห์แรกเดือน ก.พ. ยังครองแชมป์อันดับ 1 เบียดกิมเอ็งตกขอบแบบฉิวเฉียด ด้าน 4 โบรกเกอร์ ฟันธงเงินทุนจากต่างชาติ ยังไหลเข้าหุ้นไทยปีนี้ บล.ธนชาต คาดจะมีเงินจากสหรัฐประมาณ 2 หมื่นล้านบาท รอเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีนในวันเสาร์ที่ 17 ก.พ. นี้ ซึ่งหากย้อนดูจากสถิติที่ผ่านมา ก่อนเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน ตลาดหุ้นมักจะซบเซาและส่วนใหญ่จะมีแรงขายหุ้นออกมา เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนต้องการเงินที่จะนำไปใช้จ่ายในช่วงตรุษจีน แต่ในปีนี้บรรดาเซียนหุ้นกลับมองว่าความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยอาจจะแตกต่างจากที่ผ่านมา เนื่องจากสัญญาณบวกโดยเฉพาะแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่เริ่มเห็นความคลี่คลายในหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายนโยบายกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย ความชัดเจนของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 5 สาย ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ยังเป็นตลาดที่ยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค ดังนั้นหากย้อยหลังกลับไปในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นแรงซื้อของต่างชาติกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจและเสน่ห์ของตลาดหุ้นไทยที่ยังมีอยู่ และล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติยังเป็นฝ่ายซื้อสุทธิอีก 3,948.68 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.99 จุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 695.27 จุด

ทั้งนี้หากจำกันได้เมื่อปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังปรับตัวลงและซบเซาจากผลกระทบมาตรการกันสำรอง 30% ของแบงก์ชาติ โบรกเกอร์ต่างชาติอย่าง ยูบีเอส (ประเทศไทย) ได้ออกบทวิเคราะห์โปรยยาหอมว่าได้เวลาที่จะซื้อหุ้นไทยแล้ว โดยประเมินว่าราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีก 20-30% โดยเชียร์หุ้นอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง

มาวันนี้อาจเรียกได้ว่า ยูบีเอส (ประเทศไทย) มาตามสัญญา เพราะหากแกะรอยการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้นไทยอย่างชัดเจนในช่วงเดือน ก.พ. ซึ่งผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์ (1-8 ก.พ.)พบว่า บล.ยูบีเอส (ประเทศไทย) มียอดซื้อสุทธิสูงสุด 5,150.11 ล้านบาท สอดคล้องกับมาร์เก็ตแชร์ที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ที่ 8.59% เบียด บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตกไปอยู่อันดับ 2 ที่ 7.43% ต่อเนื่องจากเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

**โกลเบล็ก มอง SET Index ก่อนตรุษจีนวิ่งต่อ
แต่หลังจากนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องการเมือง

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยก่อนตรุษจีนน่าจะยังคงปรับตัวอยู่ในระดับที่ดี จากการที่มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มผ่อนคลายลง ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่หากภายหลังตรุษจีนสถานการณ์ทางการเมืองมีความรุนแรงมากขึ้นก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลดลงมาได้

ภาพรวมตลาดฯ ก่อนตรุษจีน ช่วงนี้จากมาตรการของทางการ เพราะธปท.เริ่มเข้าใจตลาดฯ ว่าหากรุนแรงอาจจะโดนต่อต้านรวมถึงมีการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นภาวะตลาดฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา และมองว่าแม้เรื่องทางการเมืองจะรุนแรงมากขึ้น แต่ก็คงยังไม่ได้ระเบิดมาทีเดียว เพราะบางเรื่องยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งหลังตรุษจีนไป อะไรที่ใต้พรหมก็จะออกมา และเป็นตัวกดดันตลาดฯ ซึ่งช่วงนี้ตลาดฯ ก็ยังคงดีอยู่ นายวรุตม์ กล่าว

.00020

**คาดเงินนอกยังทะลักเข้าตลาดหุ้นไทยปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากงานสัมมนาเรื่อง จัดพอร์ตต้อนรับตรุษจีน พบว่าโบรกเกอร์ 4 ราย ประเมินว่าเงินทุนจากต่างชาติ ยังไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง โดยบล.ธนชาต คาดว่าจะมีเงินจากสหรัฐประมาณ 2 หมื่นล้านบาท รอเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย
นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้ เงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้ว 2.2 หมื่นล้านบาท จากนี้ไปต้องจับตามองเม็ดเงินต่างชาติโดยเฉพาะสหรัฐ อีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ที่กำลังรอการลงทุนอยู่

ทั้งนี้จากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในการกันสำรอง 30% ส่งผลให้มีการแบ่งแยกตลาดระหว่างเงินบาทในประเทศ และนอกประเทศโดยพบว่าเงินบาทในประเทศมีการทรงตัว ขณะที่เงินบาทนอกประเทศยังแข็งค่ามาก จึงมีความเป็นไปได้ที่ธปท.จะหันมาทบทวนมาตรการกันสำรอง 30% อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน ประเมินว่าจะปรับลงอีกประมาณ 0.50% ส่งผลทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ในปีนี้ลดลงโดยคาดว่าธปท.จะหันมาใช้นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยเพื่อฟื้นสภาพเศรษฐกิจซึ่งนโยบายดอกเบี้ยดังกล่าวจะส่งผลให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้า

ด้านนายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่านักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนระยะยาว ยังคงอยู่ในไทย แม้ว่าจะมีนักลงทุนเก็งกำไรเช่น เฮจฟันด์ ขายหุ้นออกไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม จากสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาหุ้นในตลาดไทยลดลงไม่มาก ทำให้ต่างชาติยังมองไทยน่าลงทุน และมองหาจังหวะในการซื้อ

เขากล่าวว่า แต่นักลงทุนต่างชาติก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง ถือเป็นปัจจัยลบคอยกดดันการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน ทำให้ปีนี้การลงทุนในตลาดหุ้นอาจจะต้องใช้ความระมัดระวัง

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาวะหุ้น แต่ก็คาดว่าในระยะสั้นตลาดมีโอกาสปรับตัวลดลงได้เพื่อรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)

ด้านนายเกษมสิทธิ์ ปฐมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า เงินทุนต่างชาติยังจะไหลเข้ามาลงทุนในเอเชียจำนวนมาก
เนื่องจากยังมีการเติบโต โดยเฉพาะการลงทุนในจีน อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลเข้ามาลงทุนในไทยด้วย
ต่างชาติยังสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยยังอยู่ในอัตราที่สูง เขากล่าว

**แจกอั่งเปา 15 หุ้นเด็ดรับตรุษจีน-เงินนอกทะลัก
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวในงานสัมมนา หัวข้อ จัดพอร์ตต้อนรับตรุษจีน ว่า การลงทุนของนักลงทุนคงต้องขึ้นอยู่กับความมั่นใจว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยดูจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ในเดือนก.พ. นี้ คงปรับตัวดีขึ้น เพราะฉะนั้นคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้หากรัฐบาลมีการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง คาดว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คงไม่ปรับประมาณกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ลง แต่คงอยู่ในระดับเดิมหรือเพิ่มขึ้น

ดังนั้นจึงแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ โดยจะเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาทิ SEAFCO NWR STEC ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แนะนำ QH เพราะจากการที่ได้ปรับลดราคาขายบ้านลง และแบรนด์ยังคงมีความแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นยอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น ให้ราคาเป้าหมาย 1.55 บาท หรือแนะรอรับที่บริเวณแนวรับที่ 1.11 บาท นอกจากนี้แนะนำซื้อกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นไถ่ถอนทุกวัน เพราะจะให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีกว่าการเงินกับธนาคาร

ด้านนายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า หุ้นที่น่าสนใจจะเป็นหุ้นที่ผลกำไรมีความเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจน้อยที่สุด เช่น กลุ่มผลิตไฟฟ้า โดยแนะนำ RATCH EGCOMP กลุ่มพลังงาน แนะนำ BANPU อีกทั้งยังมีหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง แนะนำหุ้น CK SEAFCO

นอกจากนี้ยังมีหุ้นในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้รับผลดีจากการที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปรับลดลง แนะนำ SCB และกลุ่มเดินเรือ แนะนำ PSL TTA

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แอ็คคินซัน กล่าวถึงหุ้นที่น่าลงทุน รับเทศกาลในช่วงตรุษจีนว่า หุ้นเด็ดที่แนะนำในช่วงนี้ได้แก่หุ้นของ บริษัทเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ AP ทั้งนี้เนื่องจากมองว่า AP เป็นหุ้นที่ผลประกอบการดี มีแนวโน้มการเติบโตกำไรดี โดยส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากการที่ AP จะรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียม โครงการบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน มูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท และในปี 50 คาดว่า AP จะรับรู้รายได้ประมาณ 60-70% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็คาดว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 35% ทั้งนี้ประเมินราคาเป้าหมายของไว้ที่ 4.70 บาท

บมจ. อาร์เอส หรือ RS ที่คาดว่าจะชนะการประมูลงานฟุตบอลยูโร เนื่องจากมองว่า RS เป็นบริษัทที่มีความพร้อมที่สุดในแถบเอเซีย ทั้งนี้ประมาณการรายได้จากการประมูลดังกล่าว มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ โดยคาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนั้นยังคาดว่า RS จะจ่ายเงินปันผลต่อผู้ถือหุ้นเป็นปีแรกอีกด้วย เนื่องจากปีที่ผ่านบริษัทมีการดำเนินงานที่เติบโตมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 4.70 บาท

ส่วนตัวสุดท้ายที่แนะนำคือหุ้น บมจ. ยูนิเวนเจอร์ หรือ UV ที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังคาดว่า UV จะจ่ายเงินปันผลที่ 0.10 บาทอีกด้วย ทั้งนี้ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.60 บาท


.00020

แล้วหุ้น csc น่าสนใจไหม เห็นผลประกอบการ9 เดือนกำไร่ต่อหุ้น4.68 บาท บริษัทประมาณกำไรทั้งปี5.60 บาท ปันผล3 บาท ราคาปัจจุบัน11.40 บาท น่าซื้อไหม

.0005 .0005 ขอบคุณค่ะ น่ารักจังเรย กรุณานำมาลงให้เพื่อนได้อ่านค่ะ

ว่าแต่ csc น่าสนใจ หรื่อป่าวคะ ท่านสนธิ ...

แต่ที่เห็น ไม่ค่อยมีโวลุ่มเทรดเลยค่ะ

ถ้าซื้อลงทุนเพื่อรับเงินปันผลน่าจะได้นะคะ

แต่ถ้าหวังแคปปิตอลเกน คงลำบากหน่อยค่ะ

แฮ่ๆๆ กลัวจะเป็นนักลงทุนระยะยาววว น่ะค่ะ

ผิดถูก ประการใด ขออภัยด้วยนะคะ .000001