May 18, 2024   1:02:11 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์ค่ะ.....
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 12/02/2007 @ 10:22:59
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ซื้อ BANPU เป้าหมาย 200 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด แนะนำ ซื้อ BANPU บริษัทจะประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/49 ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ และเราคาดว่าบริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในไตรมาสดังกล่าวราว 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ไตรมาสก่อนหน้า และ 95% จากปีก่อน และน่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีกว่าตัวเลขที่เราคาดไว้ที่ราว 970 ล้าน
บาท (ความแตกต่างดังกล่าวน่าจะเกิดจากประมาณการทั้งปีของเรา หักด้วยกำไรที่เกิดขึ้นจริงใน 9M06) และผลประกอบการที่น่าจะดีกว่าที่คาดนี้น่าจะมาจากส่วนแบ่งกำไรจาก BLCP ซึ่ง BANPU ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ยังคงแนะนำ ?ซื้อ? โดยมีราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ที่ 200 บาท ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้นคือแผนการนำบริษัทลูกที่ทำธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียภายในปีนี้ และได้ประเมินคร่าวๆ (จากสัดส่วน 15% ที่ BANPU จะขายออกมา) ว่า BANPU น่าจะสามารถรับรู้กำไร (สุทธิจากภาษี) ราวหุ้นละ 15 บาท การประเมินดังกล่าวใช้ระดับ P/E เฉลี่ยของธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียที่ 11 เท่า และยังไม่ได้รวมเข้าในราคาเป้าหมายที่ 200 บาท

ซื้อ DELTA เป้าหมาย 18.72 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด แนะนำ ซื้อ DELTA ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจะกดดันต่อการบริหารต้นทุนการผลิตของ DELTA และกำไร-ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะ DELTA เป็น Dollar Asset Company อย่างไรก็ตามคาดว่าปี 2550 ค่าเงินบาทจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ DELTA สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แนะนำ ?ซื้อ? DELTA ด้วยจุดแข็งของโครงสร้างรายได้ที่กระจายตัว และมุ่งเน้นกลุ่มสื่อสาร ?อุตสาหกรรม และรถยนต์ ซึ่งเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาต่ำกว่าผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆและด้วยโครงสร้างสินค้าเช่นนี้ ทำให้ GPM ของ DELTA มีทิศทางทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ อีกทั้ง DELTA กลายเป็น Cash Company แล้วในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 18.72 บาท ด้วยวิธี Implied PER ที่ 11.6 เท่า (Re 11.6% และ G5.50% ลดลงจากเดิม 13%) เนื่องจากปี 2550 DELTA มีการปรับโครงสร้างธุรกิจออกทำให้ผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับปี 2549

ซื้อ WORK เป้าหมาย 26 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ WORK แนวโน้มธุรกิจสดใสในปี 2550
ประเมินว่าบริษัทจะมีผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง จากการที่มีเวลาออกอากาศเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมงครึ่งเป็น 1,425 นาที/สัปดาห์ (ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์) รวมทั้งผลิตรายการพิเศษ และการปรับเปลี่ยนบางรายการ ภาพยนตร์ 2 เรื่องที่จะเข้าฉายคาดว่าจะช่วยเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 12% เป็น 346 ล้านบาท (1.73 บาท/หุ้น) ในปีนี้ โดย
ยังไม่รวมเวลาออกอากาศใหม่ที่คาดว่าจะได้รับในเดือนหน้าและการที่บริษัทย่อยได้งานรับจ้างผลิตละครให้กับช่อง 7 เป็นเรื่องแรก จากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความโดดเด่นในธุรกิจโทรทัศน์ WORK มีแนวโน้มขยายตัวอย่างมั่นคงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมและอุตสาหกรรมโฆษณาจะชะลอตัว บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสูงและมีฐานะการเงินเข้มแข็งโดยมีเงินสดสุทธิซึ่งทำให้มีการจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอ ยังแนะนำ ?ซื้อ? โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 26 บาท

ซื้อ SYNTEC เป้าหมาย 1.25 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส จำกัด แนะนำ ซื้อ SYNTEC บริษัทสนใจยื่นการประมูลเมกะโปรเจ็กต์เช่นกัน ที่ผ่านมามีการหารือกับพันธมิตรต่างประเทศ 2 รายแล้ว แม้ SYNTEC จะมีขนาดเล็ก แต่เนื่องจากรถไฟราง 5 สายมีมูลค่าก่อสร้างสูงมาก และงานควรจะกระจายไปยังผู้รับเหมาต่างๆ โดยเฉพาะงานสร้างสถานีรถไฟรางซึ่ง SYNTEC น่าจะเน้นในงานประเภทนี้มากกว่างานสร้างทางรถไฟฟ้าที่ผู้รับเหมาใหญ่แย่งกัน ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานก่อสร้างงานในมือ (Backlog) ที่ 7,000 ล้านบาท คิดเป็นการครอบคลุมรายได้ที่เฉลี่ยปีละ 3,500 ล้านบาท เป็น 2 ปีแล้ว ถือว่ามั่นคงทีเดียว งานก่อสร้างขนาดใหญ่คือ บ้านเอื้ออาทร และ Energy Complex ขณะที่ตั้งเป้าปีนี้จะประมูลงานเพิ่ม 10 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดการณ์กำไรสุทธิปี 50 เติบโตดีเป็น 16% จากปีก่อน ราคาหุ้นขณะนี้ยังถือว่าต่ำ P/E และ P/BV ปี 50 เป็น 8.5 และ 0.6 เท่า ตามลำดับ เทียบกับอุตสาหกรรมผู้รับเหมาก่อสร้างที่ 15.1 และ 1.6 เท่า ราคาพื้นฐานข้างต้นมี Upside 19%

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com