จับตาชอตปั้นหุ้น สามชัย สตีล ผู้นำท่อเหล็กเบอร์ 1 ท่ามกลางภาวะ เสือลำบาก ภายหลัง สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ซัพพลายเออร์รายใหญ่หันมากินรวบปลายน้ำ ผลิตท่อเหล็ก แข่งคู่ค้า สามชัย สตีล จะแก้เกมอย่างไร?


ในวงการพูดกันว่ากลุ่มสหวิริยาสั่งเครื่องจักรมาแล้วถึง 40 เครื่อง กำลังการผลิตนับล้านตันต่อปี ไม่ต้องเดาก็ทราบว่าสงครามท่อเหล็กที่ดุเดือดอยู่แล้ว จะฟาดฟันกันหนักขึ้นขนาดไหน เพราะกลุ่มสหวิริยาผู้ผลิตเหล็กรีดร้อนกลางน้ำ ได้เปรียบในเรื่องต้นทุน เต็มประตู

ประวาส สันตวะกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี หรือ SAM บอกว่า กำลังการผลิตท่อเหล็กรวมในประเทศปี 2550 ยังไม่รวมกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากกลุ่มสหวิริยา อยู่ที่ 1.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งถือว่ายังเกินกว่าความต้องการในประเทศ ซึ่งทรงตัวอยู่ที่ 1.2 ล้านตัน/ปี

ศึกอีกด้านหนึ่งยังพบกับปัญหาการทุ่มตลาดท่อเหล็กจากประเทศจีน จึงไม่แปลกที่ สามชัย จะต้องเร่งเดินเกมทั้งธุรกิจและราคาหุ้นให้เร็วที่สุดเพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน

ล่าสุด บริษัทประกาศร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท บิชอฟ อีสเทิร์น จำกัด (ประเทศไทย) และ บริษัท สกรูพาว เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (ออสเตรเลีย) ในการป้อน โนว์ฮาว เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เสาเข็มเหล็กแบบสกรู ภายใต้แบรนด์ Screwpile by Samchai

ทั้งนี้ บริษัท สกรูพาว เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (ออสเตรเลีย) จะให้การสนับสนุนทางด้านโนว์ฮาว ส่วน บริษัท บิชอฟ อีสเทิร์น จำกัด (ประเทศไทย) จะร่วมมือในเรื่องการแปรรูปท่อเหล็ก เป็นเสาเข็มเหล็กแบบสกรู โดยผลิตภัณฑ์นี้จะผลิตที่โรงงานของสามชัย ทั้ง 2 แห่งที่จังหวัดสมุทรปราการ และสมุทรสาคร

คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในอีก 3 เดือนจากนี้ไป มีกำลังการผลิตเบื้องต้น 30,000 ตัน/ปี ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ การก่อสร้างประเภทโรงพยาบาล ตึกสูงในเมือง ที่ยากต่อการบรรทุกเสาเข็มคอนกรีต หรือ ปั้นจั่นเข้าไปได้

พัชวัฏ คุณชยางกูร ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอีกราย บอกว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ ยังไม่ใช่การร่วมทุน แต่สามชัยจะได้รับผลประโยชน์จากการจำหน่ายท่อเหล็กได้มากขึ้น โดยเฉพาะท่อเหล็กขนาด 18 นิ้ว ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรขั้นต้นสูง 8-10% เมื่อเทียบกับท่อเหล็กทั่วไป ซึ่งมีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 5%

ทั้งนี้ ในปี 2549 ที่ผ่านมาสามชัยได้ทุ่มเงินกว่า 950 ล้านบาท เพื่อผลิตท่อเหล็กประเภทนี้ แต่ในด้านการขายท่อเหล็ก 18 นิ้ว ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมียอดขายเพียง 3,000 ตัน เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการขยายฐานไปยังลูกค้าออสเตรเลียกลุ่มนี้ ทำให้บริษัทมีออเดอร์ท่อเหล็กขนาด 18 นิ้ว แล้ว 5,000 ตัน

พัชวัฏ กล่าวถึงขั้นตอนความร่วมมือในขั้นต่อไปว่า มีแผนจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนรุกธุรกิจเสาเข็มเหล็กแบบสกรู ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน แต่เรื่องนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด ซึ่งคณะกรรมการบริษัทยังไม่มีข้อสรุป

ประเด็นที่ต้องวิเคราะห์ต่อไป ก็คือ ช่วงที่มีการเปิดตัวพันธมิตรใหม่ สามชัยยังใช้กลยุทธ์ แตกพาร์ จาก 5 บาท เป็น 1 บาท มีนัยเพื่อเพิ่มปริมาณหุ้น (สภาพคล่อง) ให้กับหุ้น SAM ที่ในรอบ 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ราคาหุ้นแทบจะไม่มีปริมาณการซื้อขายเลย

ผู้บริหารรายเดิม ยอมรับว่า บริษัทมีความต้องการที่จะเพิ่มสภาพคล่องในกระดาน หลังจากได้ควบรวมกิจการกับ บริษัท อินเตอร์ สตีล อินดัสทรี จำกัด ของกลุ่มดิสพงษ์ ทรัพย์บุญเกิด เมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นมีการทำคำเสนอซื้อในราคา 18 บาท ทำให้หุ้นส่วนใหญ่ไปตกอยู่ในมือของผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 กลุ่ม คือ ดิสพงษ์ ทรัพย์บุญเกิด จินตนา ลีลาชัยเจริญภัณฑ์ และ กลุ่มธวัชชัย ชินธรรมมิตร์

ขณะนี้บริษัทมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดานต่ำกว่า 10% ซึ่งตามแผนตั้งใจจะเพิ่มปริมาณหุ้นหมุนเวียนให้เป็น 30%

พัชวัฏ เผยว่าแผนการเพิ่มสภาพคล่องที่คิดไว้ ได้แก่ การออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรออสเตรเลีย และอาจจะจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง รวมไปถึงการให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มขายหุ้นออกมา เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในกระดาน

แผนการเพิ่มสภาพคล่องของเรา จะไม่มีการเชิญนักเก็งกำไร (รายใหญ่) เข้ามาเด็ดขาด เนื่องจากไม่ต้องการให้ราคาหวือหวามากเกินไป

ผู้บริหารรายนี้ มองว่าทิศทางของบริษัทนับจากนี้ นักลงทุนจะเริ่มเห็นอนาคตที่ชัดเจนขึ้น จากการที่สามชัยพยายามขยายตัวไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็จะดำเนินการผลิตท่อปิโตรเลียม ซึ่งมีมาร์จินสูงขึ้นไปอีก โดยจะใช้เงินลงทุนต่ำเพียง 200 ล้านบาท เท่านั้น

ผลการดำเนินงานในปี 2550 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้น 20% จากปีที่แล้ว ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท

ในช่วง 1-2 สัปดาห์ นับจากนี้ บริษัทก็มีแผนที่จะปรับขึ้นราคาเหล็กจาก 2-2.2 หมื่นบาท/ตัน เพิ่มเป็น 2.2-2.4 หมื่นบาท/ตัน ตามราคาในตลาดโลกที่ขยับขึ้นจากช่วงต้นปีที่ 540-550 เหรียญ/ตัน เป็น 580 เหรียญ/ตัน

เมื่อสอบถามถึงการแข่งขันจากกลุ่มสหวิริยา ผู้บริหารสามชัย สตีล บอกเพียงว่า ยังไม่ได้มีการเจรจากับพันธมิตรกลุ่มท่อเหล็ก เพื่อหาทางรับมือกันอย่างชัดเจนในเรื่องนี้