ความคืบหน้าการเปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ล่าสุดมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ประเดิมประกวดราคา สายสีแดง เดือนเม.ย.นี้...ยังเป็น สตอรี่ ที่สร้างความคึกคักได้เรื่อยๆ ให้กับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง



รวมไปถึง บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) ที่กลายเป็นหุ้น เก็งกำไร ที่มีนักลงทุนเวียนเข้าออก และยังเป็นหุ้นที่ขยันออกข่าว (ดี) เป็นประจำ

ล่าสุด หุ้นซีฟโก้ ได้ฤกษ์กลับมาทำราคาคึกคักรอบใหม่ จากที่ปลายปีที่แล้ว 12 ธันวาคม 2549 เคยพีคที่ 8.60 บาท ก่อนจะหล่นวูบเหลือ 6 บาท ล่าสุดเด้งกลับขึ้นมาอยู่แถวๆ ราคา 8 บาท

ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีฟโก้ ให้เหตุผลว่า ข่าวดีของโครงการเมกะโปรเจค เป็นอานิสงส์ให้หุ้นรับเหมาก่อสร้างคึกคักขึ้นทุกตัว ถือเป็นการลงทุนแบบมองอนาคตของนักลงทุน

เบื้องหลังทำไมหุ้นซีฟโก้ ถึงเป็น หุ้นตัวเลือก ที่นักลงทุนแห่เข้ามาทำกำไร...ณรงค์ อธิบายว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผลประกอบการที่บริษัททยอยประกาศออกมาเรื่อยๆ และเรามี ข่าว (ดี) ออกมาให้นักลงทุนรับทราบตลอด

บางคนรับงานหมื่นล้านประกาศทีเดียว รู้ผลประกอบการอีกทีปลายปี แต่ของเรามีออกมาเรื่อยๆ ...เคยมีคนบอกว่าทำไมบริษัทนี้ข่าวเยอะจัง ผมก็บอกว่า ธรรมชาติของบริษัทเรา มันรับงานช่วงสั้นๆ 3-6 เดือนต่อโครงการ เลยมีข่าวตลอด

ณรงค์ บอกว่า ทุกวันนี้ ซีฟโก้ไม่ต้องมีแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ ไม่ต้องมีการเปิดแถลงข่าว ที่ผ่านมา อาศัยแค่ตัวผู้บริหาร คือ ตัวเองที่คอยประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลหุ้นซีฟโก้ เท่านี้ก็มีข่าวออกมาอัพเดททุกความเคลื่อนไหวอยู่แล้ว

นอกจากนี้ มาร์จินที่เฉลี่ยอยู่ที่ 13-15% ก็น่าจะเป็นอีกตัวที่สร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุน เพราะ Gross Margin ของเราสูงกว่ามาร์จินเฉลี่ยของหุ้นหมวดก่อสร้างด้วยกัน

ผู้บริหารซีฟโก้ บอกว่า นักลงทุนไม่ว่าจะเข้ามาลงทุนระยะสั้น หรือยาว เราก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ถ้าตราบใดเขายังมีกำไรก็ดีใจด้วย แล้วก็ช่วยทำให้หุ้นดูดีด้วย

ถามว่ามีเซียนหุ้น ขาใหญ่เข้ามาลงทุนมั้ย ผมตอบไม่ได้เพราะไม่ทราบว่าใครเป็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อยซะเยอะ เพราะเมื่อเทียบกับตอนเข้าตลาดแรกๆ มีผู้ถือหุ้นประมาณพันต้นๆ ตอนนี้มีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 พันกว่ารายแล้ว...

ส่วนตัวผมไม่ได้ซื้อขายหุ้น และไม่มีพอร์ต แต่ญาติมิตรมีลงทุนบ้างก็เป็นเรื่องของเขา พร้อมบอกว่า จากตอนขายหุ้นไอพีโอ เดือนกันยายน 2547 ตอนนั้นมีฟรีโฟลทในตลาด 50 ล้านหุ้น หรือประมาณ 23% ของหุ้นทั้งหมด แต่หลังจากหมดช่วงไซเลนท์พีเรียด ลูกและคนใกล้ชิดก็ทยอยขายหุ้นในมือออกเรื่อยๆ จนตอนนี้คาดว่าน่าจะมีฟรีโฟลทในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 70-80 ล้านหุ้น จากหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดประมาณ 211 ล้านหุ้น

จริงๆ แล้วงานเราเป็นงานต้นมือ ลักษณะการมี Backlog สั้นๆ 3 เดือน 6 เดือน นักลงทุนน่าจะถือลงทุนยาวได้ เพราะสามารถติดตามได้ทุกไตรมาสจะมีรายได้...กำไรเท่าไร แต่ที่นักลงทุนไม่ถือยาว ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องการทำกำไรมากกว่า อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง ยืนยันว่าไม่ได้กระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัท

ผู้บริหารรายนี้ บอกว่า ล่าสุด ซีฟโก้มีงานข้ามปี หรือ Backlog อยู่ประมาณ 950 ล้านบาท ซึ่งจะถึงกำหนดส่งมอบถึงช่วงไตรมาสสอง ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราวๆ 40-50% ของเป้าหมายรายได้ในปีนี้

ดังนั้นโอกาสที่จะรับงานใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามา และทำรายได้ในปีนี้ให้เติบโตกว่าปีที่แล้ว 15% จึงไม่น่ามีปัญหา โดยเบื้องต้นรับรู้รายได้ปี 2549 ประมาณ 2,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100% จากปี 2548 ที่มีรายได้ 1,098 ล้านบาท

เป้าหมายรายได้ที่เติบโต 15% ในปีนี้ ยังไม่นับรวมโปรเจครถไฟฟ้า ที่บริษัทมีโอกาสสูงที่จะได้รับงาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ประกอบการเสาเข็มรายใหญ่ ครองมาร์เก็ตแชร์ 45%

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างเสาเข็มเจาะโครงการใหญ่ๆ ที่บริษัทคว้ามาได้และจะดำเนินงานในปีนี้ อาทิเช่น โครงการเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีซ มูลค่างาน 122.8 ล้านบาท ,โครงการสาทร สแควร์ ของบริษัทนอร์ท สาทร ซิตี้ มูลค่างาน 167.5 ล้านบาท เป็นต้น

ในอนาคต ณรงค์ วางสเต็ปการเติบโตของซีฟโก้ว่า ถึงจุดหนึ่งบริษัทคงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อออกไปรับงานในลักษณะของผู้รับเหมาหลักด้วย

โดยนอกจากงานหลักด้านเสาเข็ม ต่อไปจะเริ่มหันมาขยายรับงานโครงการก่อสร้างพื้นฐานมากขึ้น เช่น ทางยกระดับ อุโมงค์ลอดทางแยก ถนน สะพาน ฯลฯ มากขึ้น จากปัจจุบัน ที่รายได้หลักของบริษัทมาจากงานด้านเสาเข็มกว่า 70% และงานโครงสร้างพื้นฐาน 20% เพื่อกระจายความเสี่ยง และหางานป้อนบริษัทอย่างต่อเนื่อง

โดยจะเริ่มเจาะตลาดด้วยการเป็นบริษัทร่วมทุนก่อน ในช่วงแรก

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายออกไปตั้งบริษัทเพื่อขยายงานในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเตรียมขออนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มงานได้ทันทีในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2550

------------------------------
bizweek[/color:9c1b08e57b">

สร้างข่าวสร้างราคา นวค.ช่วยเสริม............หุ้นบ้านเราก้เป็นแบบนี้ทั้งน้าน..........