May 1, 2024   1:01:33 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ส่องไฟหุ้นบันเทิงเรียงตัว
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 19/02/2007 @ 09:46:13
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกประเมินหุ้นกลุ่มสื่อบันเทิงยังแจ๋ว งบโฆษณาส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มดีขึ้นจากความกังวลเรื่องเหตุระเบิดได้ผ่อนคลายลง ประกอบกับต้นปีเข้าช่วงที่มีการใช้งบโฆษณาสูงคาดดันผลการดำเนินงานสดใส พร้อมแจงจุดเด่นรายตัวให้เห็นกันชัดๆ พ่วงราคาเป้าหมาย แถมภาพรวมเทคนิคกลุ่มที่เริ่มส่งสัญญาณบวก

นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ถึงจะถูกผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศไทย แต่คาดว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะมีความชัดเจนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้คาดว่าระยะสั้นตัวแปรสำคัญ เช่น เม็ดเงินโฆษณาจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2/2550

?ปกติช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีการใช้งบโฆษณาสูง ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากความกังวลเรื่องเหตุระเบิดได้ผ่อนคลายลง ซึ่งในช่วงต้นปีผู้ใช้งบโฆษณาจะมีการวางแผนการใช้งบสำหรับทั้งปีโดยจะเริ่มใช้งบในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป นอกจากนั้นอุตสาหกรรมโฆษณาก็น่าจะถูกขับเคลื่อนจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับลดลง การเลือกตั้งทั่วไป และงานฉลองครบ 80 พรรษา?นางสาวสุทธาทิพย์กล่าว

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณด้านบวกคือการฟื้นตัวของงบโฆษณาของยูนิลิเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ใช้งบรายใหญ่ที่สุด หลังจากในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีก่อนบริษัทใช้งบโฆษณาลดลง นอกจากนั้นธนาคารและบริษัทประกันภัยก็มีการใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนอกเหนือไปจากผู้ใช้งบรายใหญ่เดิมๆ คือ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สื่อสาร และยานยนต์

ทั้งนี้ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์แม้ว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะชะลอการเติบโตบ้างโดยยังคงแนะนำซื้อหุ้นหลายบริษัทในกลุ่มไม่ว่าจะเป็น BEC ซึ่งจะได้รับผลบวกจากการเข้ามาดำเนินรายการมากขึ้นของคุณสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ซึ่งน่าจะช่วยให้อัตราการใช้เวลาโฆษณาและส่วนแบ่งผู้ชมเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทยังมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาในอัตรา 13-50% ตั้งแต่เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์

อีกทั้งความสามารถในการทำกำไรของ BEC ค่อนข้างสูง ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งทำให้มีการจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอจึงยังคงคำแนะนำ?ซื้อ? ให้ราคาเหมาะสมที่ 23.00 บาท ส่วน GMMM ถึงแม้จะมีการปรับลดปริมาณกำไรลงในปี 2549 และ 2550 จากการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจและเม็ดเงินโฆษณา แต่ราคาหุ้น GMMM ยังถือว่าไม่แพงโดยซื้อขายที่ค่าพี/อี 9.3 เท่า ขณะที่หุ้นยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ประมาณ 5% จึงยังแนะนำ?ซื้อ? ให้ราคาเหมาะสม 10.40 บาท จากการประเมินด้วยค่าพี/อี ที่ 12 เท่า

ส่วน MCOT แนวโน้มในช่วงนี้มีความน่าสนใจจากผลประกอบการไตรมาส 4/2549 ที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่มากกว่า 6% รวมไปถึงแนวโน้มที่จะทำธุรกิจทีวีดาวเทียม ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ค่าพี/อี 14 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับ BEC ซึ่งมีค่าพี/อี สูงกว่า 20 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท

RSประเด็นหนุนเล่นสั้นได้
นอกจากนี้ RS ก็มีความน่าสนใจจากกระแสข่าวว่า มีโอกาสจะคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลยูโร ในปี2551 ดังนั้นหากว่าบริษัทสามารถคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลได้ จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมองว่าประเด็นนี้จะยังช่วยหนุนให้ราคาหุ้นคึกคักและเล่นเก็งกำไรได้
ขณะเดียวกันก็ยังคงแนะนำซื้อ MAJOR จากการที่เป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเม็ดเงินโฆษณาทางโรงภาพยนตร์ ประกอบกับได้ผลบวกจากการที่ภาพยนตร์เรื่อง พระนเรศวรมหาราช ทำรายได้สูง รวมไปถึงการมีภาพยนตร์ฮอลิวูดฟอร์มใหญ่หลายเรื่องเข้าฉายในปีนี้ โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 19.00 บาท

WORKจ่ายปันผล70%
สำหรับ WORK ถึงแม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2550 จะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงแต่ภาพรวมผลการดำเนินงานในระยะกลางและยาวยังคงมีการเติบโตที่ต่อเนื่องรวมทั้งมีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ จึงยังแนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่ 26.00 บาท

นายครรชิต ควะชาติ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน WORK คาดว่าบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลได้ตามนโยบาย คือ ประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะมีการขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นประมาณเดือน เม.ย.นี้ ส่วนประมาณการปี 259 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 302 ล้านบาท ทรงตัวจากปี 2548 เนื่องจากจากต้นทุนการผลิตรายการที่สูงขึ้น ขณะที่บริษัทยังคงเป้าเติบโตของรายได้ปี 2550 ที่ 20%

เทคนิคกลุ่มสัญญาณบวก
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า สำหรับหุ้นในกลุ่มสื่อสัญญาณทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณสนับสนุนในทางบวก ดังนั้นจึงคาดว่าการปรับปรับฐานและอ่อนตัวในรอบถัดไปคาดว่าจะสามารถยกฐานสูงขึ้น โดยระยะสั้นให้ระมัดระวังการปรับฐาน

ส่วนกลยุทธ์ทางเทคนิคหุ้น BEC ให้แนวรับที่ 20.80-20.20 บาท แนวต้าน 22.20-22.40 บาท,RS ให้แนวรับที่ 4.70-4.62 บาท แนวต้านที่ 4.84-4.98 บาท

ส่วน MCOT ให้แนวรับที่ 24.20-23.80 บาทแนวต้านที่ 26.00-27.75 บาท และWORK ให้แนวรับที่ 22.50-21.80 บาท แนวต้านที่ 24.00-24.70 บาท




.00020
[/color:0566fabb3e">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com