May 17, 2024   8:52:54 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เมื่อจีนจาม โลกสะเทือน
 

Puttipong
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14
วันที่: 27/02/2007 @ 23:20:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[URL=http://www.thaidaytrade.com/readspecialreport.phpid=1172585941">ตลาดจีนปรับฐานครั้งใหญ่ คลิ๊กที่นี่ เพื่ออ่านต่อ[/URL">

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 27/02/2007 @ 23:31:41 : re: เมื่อจีนจาม โลกสะเทือน
[b:7ff9833c13">ตลาดจีนปรับฐานครั้งใหญ่...เมื่อจีนจาม โลกสะเทือน[/b:7ff9833c13">

27 ก.พ. ตลาดหุ้นจีนดิ่งพสุธา! หน้าคว่ำคะมำลงมา กว่า 9% นับเป็น การปรับฐานอย่างรุนแรงที่สุด ในรอบทศวรรษ หลัง Shanghai Composite Index ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 3,000 จุดในเชิงจิตวิทยาได้ ส่งผลให้ในวันนี้ หุ้นในเอเชีย ยุโรป และ U.S. Stock-Index Futures ร่วงลงอย่างรวดเร็ว กระเทือนไปทั้งโลก

ตลาดหุ้นที่แพงที่สุดในโลก กับภาวะฟองสบู่

ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา จีน ประเทศที่ได้การขนานนาม จาก สื่อตะวันตก ว่า เป็น ประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งอนาคต มีอัตรา การขยายตัวทางเศรษฐกิจ แบบโตไม่ยั้ง รั้งไม่อยู่ โดยมีตัวเลขการส่งออก ที่พุ่งพรวด ยอดค้าปลีกที่ดีดขึ้น อย่างรวดเร็ว และตัวเลขการผลิตเชิงอุตสาหกรรม ที่กระโดดเย้ยฟ้าท้าดิน เป็นประจักษ์พยาน ..... เงินทุนต่างประเทศจำนวนมาก เข้ามาลงทุน ในรูปของเงินหยวน ในลักษณะต่างๆ ..... จากอัตราการเจริญเติบโต ของ GDP ปี 2002 ที่ร้อยละ 9.1 ได้กระโดดมาอยู่ที่ 10.4% เมื่อปี 2005 ... และทะยานขึ้นระดับสูงสุด ในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา ที่ระดับ 10.7% ในปี 2006 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความน่าเสียวไส้ ว่าฟองสบู่จะแตก จากภาวะอุปทานส่วนเกิน (excess supply) อันเนื่องมาจาก การขยายการลงทุน ที่มากเกิน ความต้องการ

เฉพาะการขยายตัวในตลาดหุ้น จะพบว่า Market Cap. ของตลาดหุ้น Shanghai และตลาดหุ้น Shenzhen (ก็คล้าย ตลาด MAI ในไทยนะแหละ) มีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้น กว่า 120% หรือ เพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีค่า P/E อยู่ที่ 38 เท่า (ปกติ ค่า P/E เฉลี่ย ของ Emerging Market จะอยู่ที่ 16-18 เท่า) ..... แล้วถ้าแนวโน้ม ผลการดำเนินงาน ของบริษัทต่างๆของจีน ในปี 2007 ชะลอตัวลง ก็ต้องบอกว่า ค่า P/E ของตลาดหุ้นจีน จะขึ้นอันดับ อภิอัครมหาโคตรแพง อมตะ นิรันดร์กาล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นแน่

มาตรการทางการเงินจากทางการจีน

ทางการจีน ก็ทราบดี ถึงปัญหาฟองสบู่ จึงมีมาตรการต่างๆ เพื่อมายับยั้ง ความร้อนแรงเกินเหตุ ของภาวะการลงทุน ...... โดย China Banking Regulatory Commission (คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีน) ได้ออกมาตรการชะลอภาวะ overheat ทางเศรษฐกิจ หลากหลายวิธี ทั้งด้วยการสั่ง ให้สถาบันการเงิน ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และด้วยการกำหนดโทษ แก่ธนาคารพาณิชย์ ที่ปล่อยสินเชื่อ เพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น ขณะที่ธนาคารกลางจีน พยายามแตะเบรก หลายจังหวะ ด้วยการให้ ธนาคารพาณิชย์จีน เพิ่ม Reserve Ratio มาอยู่ที่ 9.5% ซึ่งถือเป็นการแตะเบรค ครั้งที่ 5 แล้วในรอบ 8 เดือน (ล่าสุด ได้มีคำสั่ง ให้ธนาคารพาณิชย์ เพิ่ม Reserve Ratio 2 ครั้ง รวม 1.0% ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน) ซึ่งจะเป็นการกดดัน ให้ธนาคารพาณิชย์ ให้สินเชื่อในโครงการใหญ่ๆ ได้น้อยลง ด้วยหวังว่า จะช่วยดูดซับ ความเร่าร้อน ทางเศรษฐกิจ ออกไปได้บ้าง ก่อนที่ฟองสบู่ จะแตก และเศรษฐกิจจะพัง จากปัญหา excess supply ที่พร้อมจะเกิดขึ้น ได้ทุกเมื่อ

HSBC และ UBS ฟันธง ตลาดหุ้นจีน จะเจอกับการปรับฐาน อย่างรุนแรง

ก่อนช่วงตรุษจีนของปี 2007 HSBC และ UBS ระบุไว้อย่างชัดเจน ว่า ตลาดหุ้นจีน กำลังเป็นฟองสบู่ที่พร้อมจะแตก จากภาวะ overbought ได้ทุกเมื่อ หลังราคาหุ้นบลูชิพหลายตัว ได้ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในปีที่ผ่านมา และ UBS เป็นค่ายแรก ที่ขายทำกำไรจากตลาดหุ้นจีน ก่อนที่การปรับฐานจะเกิดขึ้น ..... ว่าแต่ว่า เงินเกือบแสนล้าน ที่จม อยู่ในตลาดหุ้นไทย UBS จะวางแผนยังไง กันต่อไป ล่ะเนี่ยะ ถึง UBS จะเชี่ยวชาญใน กลยุทธ์ Contrarian Investing ก็ตาม แต่ตลาดหุ้นไทย ยามท้อแท้ เขาว่ากันว่า Bad News Never Comes Alone!

เหวย ขึ้นต้น พูดถึงจีน ทำไมลงท้าย มาแขวะหุ้นไทย
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com