May 18, 2024   12:51:47 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 28/02/2007 @ 10:20:58
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 ปิดที่ดัชนี 683.95 จุด -4.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,874 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อ สุทธิ 161.19 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 139.04 ล้านบาท นักลงทุน ทั่วไปขายสุทธิ 22.15 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ระดับ 690.47 จุด +1.77 จุด และ Low ที่ระดับ 682.26จุด -6.44 จุด สภาพตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังค่อนข้างเงียบ แกว่งตัวค่อนไปในแดนลบซะส่วนใหญ่ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลดลง ตลาด
บ้านเราก็เลยตามน้ำไปกับเค้าด้วยทั้ง ๆ ที่ตลาดช่วงเช้ายังคงพอมีแรงซื้อหุ้นน้ำมันพยุงดัชนีให้ยืนเป็นบวกได้บ้างจากการที่ราคาน้ำมันโลกดีดตัวขึ้น แต่แล้วตลาดช่วงบ่ายไม่สามารถทานแรงขายได้จึงแกว่งตัวแดนลบจนกระทั่งตลาดปิดทำการ ส่วนทางด้านสีสันตลาดนั้นหุ้นเล็กเก็งกำไรยอดนิยม PE, PT, NMG-W2 ยัง
คงเรียกเสียงฮือฮาจากในห้องค้าได้ไม่น้อยแม้ว่าตอนราคาเปิดตลาดจะมีเซไปบ้างแต่การเทรดในระหว่างวันยังคงใส่สเก็ตวิ่งเหมือนเดิม
TTA ราคาเปิด 28.50 บาท ราคาปิด 28.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 165.21 ล้านบาท แนวโน้มของธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำคาดว่าจะยังสดใสเนื่องจาก Demand ยังมีอยู่มาก ขณะที่ Supply มีจำกัด ส่วนแนวโน้มเรือดัชนีค่าระวางเรือจะยังดีต่อ เนื่องจากความต้องการของจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง เห็นได้จากแนวโน้ม BDI ที่ยังคงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 4,649 จุด และกำลังจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบปีครึ่ง ซึ่งคาดว่าอัตราค่าระวางที่ 12,500 เหรียญ/วัน/ลำ TTA น่าจะทำได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากเรือเข้าซ่อมบำรุงจำนวนมาก สำหรับบริษัทเมอร์เมดปีนี้คาดว่าจะสร้าง รายได้ประมาณ 3,750 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ TTA กลับมามีรายได้เติบโตแข็งแกร่ง และคาดการณ์รายได้ปี 2550 ที่ 16,595 เพิ่มขึ้น 4.4% YoY มีกำไรสุทธิ 2,817 ล้านบาท ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 28 บาท แนวต้าน29 บาท
RPC ราคาเปิด 3.80 บาท ราคาปิด 3.74 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.02 ล้านบาท ผลการดำเนินงานปี 2549 มีกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 50% YoY เป็นผลมา จากผลขาดทุนในQ3/49 ที่มีรายการผิดปกติเกิดขึ้นและราคาน้ำมันที่ตกต่ำในครึ่งปี หลังทำให้ค่าการกลั่นอ่อนตัวลงไปมาก ส่วนในQ4/49 RPCรายงานผลขาดทุนสุทธิ 10 ล้านบาท ลดลงจากขาดทุน 42 ล้านบาท ในQ3/49 คาดว่าผลกำไรในปีนี้จะเติบโตโดด
เด่น 106% YoY กลับมาสู่กำไรปกติในระดับ 377 ล้านบาท คาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของRPCจะเพิ่มขึ้นจาก 71% ในปี 2549 เป็น 86% ในปีนี้ การรับรู้ผลกำไรจากโรงกลั่น VTN-P ในประเทศเวียดนาม และการฟื้นตัวของค่าการกลั่นจะเป็นปัจจัยหลักผลักดันผลกำไรของบริษัทในปีนี้ และ RPCประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังจำนวน 0.10 บาท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.25 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มีนาคม2550 K.KRAZIP เห็นว่าราคาหุ้นมีการปรับลดลงถึง 38% ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าผลกำไรในปีนี้จะพลิกฟื้นกลับมาสู่ระดับปกติจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าปลายปีก่อนมาก จึงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 3.68 บาท แนวต้าน 3.96 บาท
ROJANA ราคาเปิด 12.30 บาท ราคาปิด 12.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.816 ล้านบาท ประกาศผลกำไรสุทธิ 4Q06 ลดลง26%YoY เพราะถึงแม้ว่าจะมีรายได้จากการขาย ที่ดินและขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 40%YoY แต่ก็มีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับการยกเลิกการขายที่ดินในปี2550 จำนวน 170 ล้านบาท ถึงกระนั้นผลประกอบการปี2549 ยังมีกำไรสุทธิ 893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%YoY ซึ่งการเติบโตได้รับการผลักดัน
จากรายได้อาคารชุดที่เติบโต 483%YoY และ การขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ไฟมากขึ้นจากลูกค้าเดิม และจากการรับรู้รายได้อาคารชุดอีก 38% ของการก่อสร้าง ประกอบกับการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารองรับลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งส่งผล ให้ปี 07 ยังสดใส K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 11.90 บาท แนวต้าน 13.10 บาท
MAJOR ราคาเปิด-ปิดที่ 16.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 13.61 ล้านบาท MAJOR รายงาน 4Q49 รายได้จากการขายและบริการลดลง 4%YoY เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง และจากการที่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายไม่กี่เรื่อง ส่วนรายได้จากธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ และธุรกิจให้เช่าและบริการทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ในช่วงปลายปี ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรฐกิจ แต่ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากการขยายสาขาใหม่จำนวน 5 สาขา ทำให้รายได้จากธุรกิจโรงภาพยนตร์ธุรกิจโบลิ่ง และธุรกิจพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ MAJOR ประกาศจ่ายเงินปันผลของผลประกอบการครึ่งปีหลัง 49 ในอัตราหุ้นละ 0.43 บาท ส่วนในปี 50 คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างโดดเด่นจากการเข้าฉายของภาพยนตร์ เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นการเข้าฉายของหนังฟอร์มยักษ์ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทสูงมาก K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร โดยมีแนวรับที่ 15.80 บาท แนวต้านที่ 16.40 บาท

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com