kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 14/03/2007 @ 09:27:30 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดหลักทรัพย์เผยปี 49 บจ.225 แห่งจ่ายปันผลรวมกว่า 1.78 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 10.37% เทียบปี 48 PTT SCC ADVANC KBANK และ AOT ติดโผจ่ายเงินปันผลสูงสุด ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มทรัพยยากรอัตราผลตอบแทนดีสุด
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียน 225 บริษัทจากทั้งหมด 462 บริษัท หรือ 48.70% (ไม่รวมกลุ่ม NC และ NPG)ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2549 รวม 178,450 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10.37% จากปี 2548 โดยมี Dividend Yield เท่ากับ 4.40% เพิ่มขึ้น 10%จากปีก่อน
โดยหากพิจารณามูลค่าเงินปันผลที่จ่ายจะพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มบริการ
สำหรับกลุ่มทรัพยากร มีมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายรวม 62,536 ล้านบาท นับเป็นหมวดที่มีมูลค่าการจ่ายเงินปันผลสูงสุดในปี 2549 โดยบมจ.ปตท.( PTT )เป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลเป็นมูลค่ารวมสูงสุดถึง 29,413 ล้านบาท โดยจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 10.50 บาทมี Dividend Yield เท่ากับ 5.04%
ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายเป็นอันดับสองรวม 31,934 ล้านบาท โดยบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)จ่ายปันผลสูงสุดในกลุ่มนี้รวมมูลค่า 18,000ล้านบาทโดยจ่ายในอัตราหุ้นละ 15 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 6.47% กลุ่มเทคโนโลยี มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายเป็นอันดับสามรวม 31,236 ล้านบาท ซึ่งบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)ปันผลจ่ายสูงสุด 18,607 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 6.30บาท มี Dividend Yield 8.63%
ส่วนกลุ่มธุรกิจการเงิน มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายเป็นอันดับสี่รวม 18,860 ล้านบาท ซึ่งในหมวดนี้ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ปันผลจ่ายสูงสุด 4,174 ล้านบาท โดยจ่ายในอัตราหุ้นละ1.75 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 2.73% และกลุ่มบริการ มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายเป็นอันดับห้ารวม 14,709 ล้านบาท นำโดยบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)มีมูลค่าจ่ายเงินปันผลรวมสูงสุด 2,571 ล้านบาท โดยจ่ายในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท มีDividendYield เท่ากับ 2.98%
ขณะกลุ่มที่มี Dividend Yield สูงสุด 5 อันดับแรก คือ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค และกลุ่มทรัพยากร
ทั้งนี้กลุ่มเทคโนโลยีมี Dividend Yield เท่ากับ 8.18% โดยหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมี Dividend Yield เท่ากับ 8.21% รองลงมาคือ หมวดชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ 7.99%
กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม มี Dividend Yield เท่ากับ 5.81% โดยหมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร มี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับ 10.23% รองลงมาคือ หมวดบรรจุภัณฑ์ เท่ากับ 6.31%
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มี Dividend Yield เท่ากับ 5.01% โดยหมวดวัสดุก่อสร้าง มี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับ 5.84% รองลงมาคือ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เท่ากับ 3.55%
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมี Dividend Yield เท่ากับ 4.84% โดยหมวดของใช้ในครัวเรือนและสำนักงานมี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับ 7.70% รองลงมาคือหมวดแฟชั่น เท่ากับ 4.25%
กลุ่มทรัพยากรมี Dividend Yield เท่ากับ 4.36% โดยหมวดเหมืองแร่ มีDividend Yield สูงสุดเท่ากับ 12.76% รองลงมาคือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภคเท่ากับ 4.30%
[/color:294a873f8c">
|