kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 15/03/2007 @ 23:03:57 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต วันนี้ได้เวลาหุ้นเทคนิคสวยยึดพื้นที่หน้าจอหุ้น ค่ายเคจีไอแจกทีเด็ด BROOK-CSP-QH-PRO ฟากบล.ซีมิโก้ชู SMM-NEP-GOLD บล.พัฒนสินส่ง QH-VNG-MAJOR- RRC ด้าน ASP บอก RS-NOBLE-ETG
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุนทั่วโลก ได้เป็นแรงกดดัน ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะความซบเซา นักลงทุนส่วนใหญ่ล้วนขาดทุนจากการซื้อขายหุ้น นักลงทุนรายใหญ่ที่เคยเล่นและมีอิทธิพลต่อราคาหุ้นเกือบทั้งตลาด ชะลอการลงทุน รวมทั้งเฝ้าดูติดตามภาวะการณ์อยู่ห่างๆ ส่งผลให้โบรกเกอร์ต่างชาติยึดครองตำแหน่งโบรกเกอร์ที่ซื้อขายมากที่สุดไปครอง ขณะที่โบรกเกอร์อย่าง บล.กิมเอ็ง บล.เอเชียพลัส บางวัน ไม่ติดโบรกเกอร์ที่ซื้อขายมากที่สุด
ทั้งนี้ ยิ่งเป็นโบรกเกอร์สัญชาติไทยด้วยแล้ว ทั้งปริมาณการซื้อขายหุ้นและมาร์เก็ตแชร์ลดลงอย่างน่าใจหาย เพราะนักลงทุนหรือลูกค้าหยุดเทรดหุ้นชั่วคราว เนื่องจากปัจจัยภายนอกรุมเร้า แถมยังมีปัจจัยในประเทศคอยซ้ำเติม ทำให้สภาพบรรยากาศการลงทุนในตลาดซบเซา ซึ่งปัจจัยการเมือง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 4 ถึงกับมีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่อำเภอยะหา และอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา หลังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งขอให้ประชาชนห้ามแต่งกายเลียนแบบหรือคล้ายคลึงเครื่องแบบทหาร ห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลา 20.00 น.-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และห้ามใช้คลื่นวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสกับทางราชการด้วย
นอกจากนี้ค่าเงินบาทได้มีการแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 ปี แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีมาตรการกันสำรอง 30% ออกมา โดยล่าสุดได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไปพอสมควร และล่าสุดสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้กลับมามีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่ค่าเงินบาทแข็งค่า โดยมีมุมมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะทยอยปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% พร้อมกับควรมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30%
ในขณะที่มุมมองของนายฉลองภพ สุสังกรณ์กาญจน์ รมว.คลัง ออกมายืนยันจะไม่มีการแทรกแซงนโยบายการเงินของแบงก์ชาติ ซึ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่าทีของ รมว.คลัง อยากจะให้มีการลดดอกเบี้ยลง รวมทั้งออกมาระบุว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาจจะทำไม่ครบทุกสาย ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความผันผวน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
จากตัวแปรดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าได้ สะท้อนให้เห็นได้จากหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่หรือหุ้นบลูชิป ราคาขยับขึ้นไม่มากนัก รวมทั้งปริมาณการซื้อขายด้วย แต่อีกซีกหนึ่งหุ้นตัวเล็กหรือหุ้นเก็งกำไรได้ถูกนักลงทุนรายย่อยบางส่วนที่รักการเล่นเก็งกำไรได้เข้ามาเล่นจุดพลุเป็นรายตัว ไม่ว่าจะเป็น TT&T SMM KASET NEP-W1 PSAP PTPE CSP CSP-W1 ซึ่งราคาหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาเล่นรอบหรือหมุนรอบในแต่ละวันค่อนข้างสูง
โดยราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่ล้วนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานหรือมูลค่าที่เหมาะสม ในแง่นักลงทุนแล้ว บางจังหวะได้อาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเข้ามาประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือเล่นหุ้น ยิ่งราคา 1หรือ 2 บาท มักได้รับความนิยมในการจุดพลุเก็งกำไร
จากปัจจัยดังกล่าว eFinanceThai.com ได้สอบถามไปยังนักวิเคราะห์ชั้นนำของเมืองไทย โดยมีการระบุถึงหุ้นที่มีสัญญาญทางเทคนิคดี มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวถึงหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคที่ดี และสามารถให้เข้าเก็งกำไรได้ในวันนี้ (16 มี.ค.50)ว่า ขอแนะนำหุ้นบมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) โดยให้แนวรับไว้ที่ 1.23 บาท ส่วนต้านให้ไว้ที่ 1.32 บาท หุ้นบมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) ให้แนวรับไว้ที่ 17.20 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 18.50 บาท รวมถึงหุ้นบมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ซึ่งให้แนวรับไว้ที่ 15.60 บาท ให้แนวต้านไว้ที่ 16.70-17 บาท และหุ้นบมจ.วนชัย กรุ๊ป (VNG) โดยให้แนวรับไว้ที่ 6.64 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 4.88 บาท
นายภูวดล วงศ์วิริยะชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวถึงหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคที่ดีและสามารถเก็งกำไรได้ ว่า บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ให้แนวต้านที่ 8.00-8.50 บาทและแนวรับที่ 6.50-7.00 บาท, บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม (NEP) ให้แนวต้านที่ 7.70-8.00 บาท และแนวรับที่ 7.00-7.30 บาท และ บมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) ให้แนวต้านที่ 1.15-1.20 บาท และแนวรับที่ 0.95-1.00 บาท
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทไทย)กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันที่ยังมีความผันผวน ดัชนีฯเคลื่อนไหวบวกลบสลับกันรายวัน ยังมีหุ้นหลายบริษัทฯที่น่าสนใจเข้าลงทุนตามสัญญาณเทคนิคที่เป็นขาขึ้นโดยหุ้นเด่นแนะนำ ได้แก่ บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ,บมจ.ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์(CSP), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH), บมจ.ซีพีอาร์ โกมุอินดัสเตรียล(CPR) และบมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999)(PRO)
อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวรับและแนวต้านหุ้นดังกล่าวไว้ดังนี้ ในส่วนของ BROOKแนวรับอยู่ที่ 0.95 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 1.10 บาท ,CSP แนวรับอยู่ที่ 2.46บาท และแนวต้านอยู่ที่ 2.70 บาท ,QH แนวรับอยู่ที่ 1.21 บาทและแนวต้านอยู่ที่ 1.28 บาท,CPR แนวรับอยู่ที่ 1.90 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 2.10 บาท และ PRO แนวรับอยู่ที่ 1.22 บาท และแนวต้านอยู่ที่ 1.37 บาท โดยแนะนำนักลงทุนให้เก็งกำไรระยะสั้นๆและหากราคาหุ้นมีการปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับที่ประเมิน แนะนำตัดขายขาดทุน
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวถึงหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคที่ดี และแนะนำให้สามารถเข้าเก็งกำไรได้ว่า หุ้นบมจ.อาร์เอส (RS) โดยให้แนวรับไว้ที่ 4.66 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 4.80 บาท และให้จุดตัดขาดทุน (cut lost) ไว้ที่ 4.60 บาท และหุ้นบมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ให้แนวรับไว้ที่ 4.58 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 4.70 บาท และให้จุดตัดขาดทุนไว้ที่ 4.50 บาท รวมถึงหุ้น บมจ.อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ (ETG) ให้แนวรับไว้ที่ 5.10 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 5.35 บาท และให้จุดตัดขาดทุนไว้ที่ 5 บาท
 [/color:3df3a7abe5">
|
