May 17, 2024   4:58:16 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 20/03/2007 @ 09:03:54
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

มูลค่าการซื้อขายวานนี้ที่มีแค่ 6.84 พันล้านบาท ซึ่งต่ำสุดในรอบ 4 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2546 เสมือนเป็นการบอกใบ้กลายๆ ว่า อย่าหวังได้เห็นบรรยากาศการซื้อขายในระดับ 1 หมื่นล้านบาทในระยะใกล้อีกเลย เพราะสภาพแวดล้อมของตลาดหุ้นไม่จูงใจให้ฝรั่งหัวดำ และฝรั่งหัวทองเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเหมือนก่อนหน้านี้นะซี

*ประกอบกับก่อนหน้านี้ "โมนิก้า" ได้พูดคุยกับผู้จัดการกองทุนระดับประเทศหลายรายว่า ไม่มีประโยชน์ในการทุ่มเงินซื้อหุ้นไม่อั้น เพราะของมันเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่าของถูกกว่านี้ยังมีให้ซื้ออีกเพียบ รวมทั้งแก๊ปการเคลื่อนไหวราคาหุ้นแคบมากเหลือเกินแบบนี้...นอนกอดเงินสดแทนหมอนข้างคุ้มกกว่ากันเยอะ

*ที่สำคัญกว่านั้น คือ สถานการณ์ความไม่สงบทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นับวันคุโชนขึ้นเรื่อยๆ ย่อมส่งผลกระทบกระเทือนต่อการลงทุนในประเทศเต็มๆ ซึ่งเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจทั่วไปตกอยู่ในภาวะชงักงัน หลังกำลังซื้อนับวันจะหดหายลงไปเรื่อยๆ นั่นเองเจ้าค่ะ

*อย่างที่รู้! ความรุนแรงกับตลาดหุ้นเป็นของแสลงมาแต่ไหนแต่ไร "โมนิก้า" จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะนักลงทุนทั่วไปคงรับรู้และรับทราบกันโดยทั่วไปว่า หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ในไม่ช้าสภาพของตลาดหุ้นในอนาคตคงไม่ต่างอะไรไปกับป่าช้าวัดดอน...บรื้อๆๆๆๆๆ

*ผลดังกล่าวทำให้หุ้นกลุ่มบลูชิพขยับขึ้นได้ไม่ไกล และบางตัวถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่พื้นฐานของบริษัทแข็งแกร่งกว่าหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมหลายเท่า ถือเป็นการตอกย้ำว่านักลงทุนเลือกชลอการลงทุน และพร้อมจะยืนดูเหตุการณ์ต่างๆ อยู่นอกตลาดนะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้หุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ระริกระรี่มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในรายของSUPER อาศัยจังหวะชุลมุนปั่นราคาหุ้นขึ้นมาปิดถึงที่ 1.31 บาท บวกไป 0.30 บาทหรือขึ้นไปถึง 29.70% มองยังไงก็เป็นเพียงการเข้ามาเล่นเก็งกำไรสั้นๆ เพราะจุดกำเนิดของหุ้นตัวนี้มาจากการ แต่ง แต้ม เติม สารพัดวิธี "โมนิก้า" ถึงไม่มีวันเชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญไงเล่า

*แถมก่อนหน้านี้ทิศทางของหุ้นอยู่ในขาลงด้วยแล้ว การกระชากขึ้นแรงโดยไม่มีเหตุผลรองรับถือเป็นเรื่องที่เดี๊ยนรับไม่ได้อย่างแรง และขอแนะนำให้คนที่เข้าไปไล่ซื้อตอนใกล้ปิดตลาด รีบปล่อยหุ้นออกมาเป็นการด่วนนะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ INET รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ แถมธุรกิจที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญอีกแล้ว แต่เผอิญมูลค่าทางบัญชีของหุ้นอยู่สูงถึงระดับ 2.61บาท ขาใหญ่ก็เลยใช้จังหวะนี้เข้ามาจุดพลุเสียเลย และดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย เพราะราคาหุ้นวิ่งขึ้นพรวดเดียวมาปิดถึงระดับ 1.96 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไปกว่า 20% เชียวน่าตัวเอง

*น่าสนใจตรงที่ช่วงห่างของราคาหุ้นในกระดาน และมูลค่าทางบัญชีห่างกันถึง 60สตางค์อย่างนี้ สงสัยไม่ใช่สงครามวันเดียวเหมือนกับรายแรกแล้วหล่ะ เพราะมีแก๊ปให้เล่นกว้างพอสมควรเลยทีเดียว...แต่ถึงกระนั้นก็ต้องชิงไหวชิงพริบจังหวะการซื้อขายหุ้นกันเอาเองนะค่ะ

*ส่วนในรายของ TKT เอาข่าวจ่ายเงินปันผลมาดันราคาแบบนี้ ค่อยมีน้ำหนักและเหตุผลพอรับฟังได้ เพราะเป็นข่าวประเภทเดียวที่ช่วยให้ราคาหุ้นยืนทรงตัวในระดับสูงอย่างแข็งแกร่ง "โมนิก้า" จึงไม่รู้สึกติดใจหุ้นตัวนี้มากเหมือนกับรายแรกที่เกริ่นนำไว้ เพียงแค่อยากเตือนว่า อย่าไล่ราคากันจนลืมขายทำกำไรเท่านั้นพอ

*เนื่องจากหน้าที่ของนักลงทุน คือ ทำทุกวิถีทางให้ได้กำไรมากสุดเท่าที่จะทำได้ฉะนั้นการที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.66 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไปกว่า 13% ถือว่าไม่มากเกินไปเมื่อเทียบกับเงินปันผล 10 สตางค์ เพราะของพรรณนี้ขึ้นอยู่กับขาใหญ่จะเลิกเล่นเมื่อไหร่เท่านั้น อิอิอิอิ

*เจ็บแสบสุดๆ ต้องยกให้ S2Y เพราะเขาว่ากันว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เข้ามาใหม่แต่ละราย ล้วนเป็นร่างทรงทั้งนั้น แต่ราคาหุ้นกลับไม่สะทกสะท้านกับข่าวลือที่แพร่งพรายออกมาแม้แต่นิดเดียว เพราะวานนี้สามารถกระชากขึ้นมาปิดถึงระดับ 3.40 บาท บวกไป 0.24บาท หรือขึ้นไปถึง 11%

*ทั้งที่ในเร็วๆ นี้ ราคาหุ้นต้องอ่อนตัวลงมาสอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน แต่ก็ไม่มีใครสนใจเรื่องดังกล่าวเลยนะเนี่ย "โมนิก้า" ถึงต้องออกมาย้ำความไม่ชอบมาพากลเรื่องดังกล่าวครั้งแล้วครั้งเล่า

*ก่อนจากกัน "โมนิก้า" ขอชมเชยตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สั่งให้ BLISS แจกแจงการจัดสรรหุ้นจำนวนมโหราฬให้กับกรรมการทั้ง 2 ราย หลังพบว่าเหตุผลที่สนับสนุนการออกหุ้น ESOP มันทะแม่งๆ ชอบกล จึงต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงละเอียดยิบทุกขั้นตอนนะจะบอกให้

*ล่าสุดราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 3.70 บาท ลบไป 0.20 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่แสนเงียบเหงา เดี๊ยนคิดว่าคงไม่มีพ่อมดการเงินตัวไหนกล้ามาปลุกหุ้นตัวนี้อีกเพราะไม่หลงเหลือสภาพอะไรให้จดจำอีกต่อไปเจ้าค่ะ





 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 20/03/2007 @ 09:46:56 :
[b:d618da16c6">๐ตลาดหุ้นไทยวานนี้(19 มี.ค.)ยังคงสาละวันเตี้ยลง ไร้ปัจจัยหนุน แม้วานนี้เช้า-บ่าย ภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่าเตรียมเข้าหารือกับ ฉลองภพ สังกร์กาญจน์ รมว.คลัง ในปลายเดือนนี้หรืออย่างช้าในช่วงเดือนเมษายน เพื่อผลักดันแนวคิดการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นขานรับแต่อย่างใด..ปิดตลาดวานนี้ตลาดหุ้นติดลบ 1.91 จุด มาอยู่ที่ 669.14 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 138.67 ล้านบาท

๐หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กตัวน้อย ยังคงถูกหยิบขึ้นมาเล่น ในช่วงที่ตลาดขาดปัจจัยบวกเข้ามาหนุน หุ้น บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) วานนี้ มีการไล่ราคากันอย่างสนุกสนาน เปิดตลาดอยู่ที่ 1.09 บาท ปรับตัวสูงขึ้นไปแตะ 1.12 บาท ก่อนโดนทุบมาเหลือ 0.99 บาท และตามไล่เก็บช่วงท้ายตลาดปิดที่ 1.01 บาท ลดลง 0.06 บาท ลดลง 5.61% มูลค่าการซื้อขาย 42.60 ล้านบาท อย่างที่เกาะกระดานเคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ เล่นหุ้นตัวดี ต้องกินดีเสือ-ดีหมี มาด้วย ส่วนหุ้น สยาม ทู ยู(S2Y) ถูกหยิบขึ้นมาล่อแมลงเม่าอีกรอบ ราคาระหว่างวันวานนี้ จึงกระโดดขึ้นไปร่วม 10% มาที่ 3.50 บาท และปิดตลาดที่ 3.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ 7% มูลค่าซื้อขาย 48 ล้านบาท

๐เล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ ทำ ต้องยกให้ "เสี่ยกมล" กมล เอี้ยวศิวิกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีอี แคปปิตอล (DE) และผู้บริหารเครือไมด้า ที่ใจป้ำสุดๆ หลังเข้ามากุมอำนาจบริหารต่อจากผู้บริหารชุดเดิม โดยล่าสุดบอร์ดได้อนุมัติให้แจกวอร์แรนท์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2:1 โดย 1 วอร์แรนท์ ซื้อหุ้นได้ในราคาหุ้นละ 1 บาท "เสี่ยกมล" ยังทิ้งท้ายห้อยติ่งอีกว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์ จะมีการลงทุนในธุรกิจโฆษณาคิดเป็นวงเงินกว่า 150 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 2 ช่วงนี้จึงต้องจับตาราคาหุ้น DE ในช่วง 2 สัปดาห์ต่อไปอย่างลุ้นระทึก จะไปดังที่ท่านหวังไว้หรือไม่

๐หุ้น อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย(INET) ไม่รู้ว่าได้แรงกระตุ้นจากข่าวอะไร จู่ๆ ก็โผล่บวกขึ้นมาเกือบชนซิลลิ่ง ราคาปิดที่ 1.96 บาท บวกขึ้นมา 34 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 20% งานนี้คงไม่ใช่ธรรมดาแน่ ๆ ที่แน่ๆ ต้องมีเจ้าภาพ ไม่งั้นแรงคงไม่เยอะขนาดนี้ ด้านนักวิเคราะห์บอกแค่ว่า ราคาพุ่งตามดัชนีตลาดที่รีบาวนด์ขึ้นมา แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งงง ทั้งที่ตลาดรวมปิดติดลบกว่า 1.91 จุด ก็เลยโฉบไปถามมาร์เก็ตติ้งว่าหุ้นขึ้นเพราะอะไร มาร์เก็ตติ้งบอกว่าช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร นักลงทุนชอบขุดหุ้นตัวเล็กๆ ขึ้นมาเล่นทั้งที่ไม่มีข่าวอะไร ก็แค่เจ้ามือเค้าอยากเล่นก็แค่นั้นแหละ รายย่อยๆ ทราบแล้วเปลี่ยน ไม่รู้ข้อมูลขอให้อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะเจ็บตัว

๐เมื่อวานนี้อดีตรัฐมนตรีคลัง หม่อมอุ๋ย หรือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไม่รู้ว่านึกครึ้มอะไรขึ้นมา จู่ๆ ก็โผล่แถวตลาดหลักทรัพย์ กระจอกข่าวแถวนั้นรีบเข้าไปถามไถ่ทันที ก็ได้คำตอบว่ามาจิบกาแฟกับท่านประธานตลาดหลักทรัพย์ วิจิตร สุพินิจ งานนี้ขอบอกมาคุยกันเล่นๆ ไม่มีอะไรเห็นว่ากาแฟที่ตลาดอร่อยดี กระจอกข่าวก็ถาม ต่อว่าหลังทิ้งเก้าอี้รัฐมนตรี มีคนทาบทามรับตำแหน่งอะไรรึเปล่า หม่อมอุ๋ยตอบแทบไม่ต้องคิดว่า ก็มีแต่ภรรยาที่บ้านเท่านั้นแหละที่ทาบทามให้ทำโน่นทำนี่ เฮ้อ..สมเป็นแฟมิลี่แมนตัวจริง รักครอบครัวซะขนาดนั้น แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามาคุยอะไรกับเฮียวิจิตรน้า ทั้งที่รู้กันในวงการว่าทั้งคู่เป็นเกาเหลากัน รึว่าจะเปลี่ยนจากเกาเหลาเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ซะแล้ว


กรุงเทพธุรกิจ[/color:d618da16c6">[/size:d618da16c6">[/b:d618da16c6">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com