Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 21/03/2007 @ 11:43:39 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ถือ BCP เป้าหมาย 10 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด แนะนำ ถือ BCP ผลประกอบการปี 2550 น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีเหตุผลสนับสนุนคือ 1) ค่าการกลั่นฟื้นตัว จากความผันผวนของราคาน้ำมันในปีนี้ที่ลดลง และบริษัทได้ปรับปริมาณสำรองน้ำมันลดลงเหลือ 50 วัน จากเดิม 55 วันในปีก่อนและเปลี่ยนวิธีบันทึกทางบัญชีใหม่มาใช้วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average) จากเดิมวิธี FIFO ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันอีกทางหนึ่ง 2) ค่าการตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 0.33-0.44 บาท/ลิตร และ 3) ปริมาณผลิตเพิ่มขึ้น จากการใช้กำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.5 หมื่นบาร์เรล/วัน จากที่ 5.63 บาร์เรล/วันในปีก่อน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ ?ถือ? สำหรับการลงทุนระยะยาว และให้ราคาเป้าหมายปี 2550 ที่ 10 บาท โดยวิธี DCF (ไม่รวม PQI) จากค่าการกลั่นในไตรมาส 1/2550 ที่ดีขึ้นจากไตรมาส 4/2549 และโครงการ PQI ยังเป็นไปตามแผนที่จะสร้างเสร็จในปลายปี 2551 ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการของ BCP สามารถเติบโตได้ในระยะยาว
ซื้อ SATTEL เป้าหมาย 13 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด แนะนำ ซื้อ SATTEL การสนับสนุนการใช้บริการใช้บรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมรัฐบาลกลางของออสเตรเลียคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเสริมการเติบโตของรายได้ IPSTAR ในปี 2550 สำหรับผลประกอบการปีนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่า SATTEL จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรปกติ 346 ล้านบาทจากเหตุผลหลักคือ 1) การเติบโตของรายได้ของ IPSTAR เนื่องจากการขยายตัวของผู้ใช้บริการในประเทศจีน ซึ่งได้สร้าง gateway เสร็จครบ 3 แห่ง และเริ่มทำ Comercial package ในเดือนที่ผ่านมา 2) คาดว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถเข้าไปทำตลาดในประเทศอินเดียได้ภายในปี 2550 หลังจากที่ได้ landing right แล้ว โดยเหลือเพียงการหาผู้ให้บริการหลักของไอพีสตาร์ (National Service Operator, ?NSO?) ในประเทศ และ 3) การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโทรศัพท์ในประเทศลาวและกัมพูชาได้ในปีนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินราคาพื้นฐานของ SATTEL ด้วยวิธี DCF ได้ราคาพื้นฐานที่ 13.00 บาท
ซื้อ KSL เป้าหมาย 11.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด แนะนำ ซื้อ KSL คาดผลผลิตอ้อยทั้งประเทศในปี 2550 เพิ่มเป็น 60 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.5% จากปีก่อนจากราคาอ้อยที่ดีในปีก่อนทำให้เกษตรกรหันมาปลูกอ้อยมากขึ้นในปีนี้ โดย KSL คาดว่าบริษัทน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 8.8% จาก 8.5% ในปีก่อนหน้า เนื่องจากโรงงานน้ำตาลบางแห่งมีปัญหาทางด้านการผลิตและการเงิน ทำให้มีกำลังการผลิตหายไปบางส่วน ยังคงประมาณการเดิมที่คาดว่า KSL จะมีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจน้ำตาล 8.5% มีปริมาณน้ำตาลเข้าหีบ 504,900 ตัน และมีปริมาณขาย 437,175 ตัน เพิ่มขึ้น 19.7% จากปีก่อน ยังคงประมาณการผลประกอบการปี 2550 ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 881 ล้านบาท EPS 0.57 บาท เพิ่มขึ้น 29.7% จากปีก่อนจากการเติบโตของรายได้ (น้ำตาลและเอทานอล) และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า รวมทั้งอัตรากำไรคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี จากปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดการประหยัดจากขนาด ประเมิน Fair Value ที่ 11.40 บาท (อิง P/E 20 เท่า ค่าเฉลี่ยในอดีต และ PEG 0.7 เท่า) คงคำแนะนำ ?ซื้อ?
ซื้อลงทุน ERAWAN เป้าหมาย 4 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อลงทุน ERAWAN จากการขายอาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ไตรมาส 2/50 โดยรายได้จากอาคารนี้คิดเป็น 30% ของรายได้ค่าเช่าและ 5% ของรายได้รวมในปี 2549 เราคาดว่ารายได้จากค่าเช่าในปีนี้จะลดลง 22% อย่างไรก็ตาม มูลค่าทางบัญชี ณ ปัจจุบันของราคาอัมรินทร์พลาซ่า จะอยู่ที่ประมาณ 377 ล้านบาท เปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมของอาคารนี้ที่ 295 ล้านบาท รวมกับทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เหลืออีกประมาณ 10 ล้านบาท ทาง ERAWAN จึงคาดว่าจะได้รับกำไรส่วนต่างที่ประมาณ 95 ล้านบาท อย่างไรก็ตามรายได้จากค่าเช่าถูกปรับลดลง 26% ซึ่งเป็นผลมาจากการขายอาคารอัมรินทร์พลาซ่า ราคาเหมาะสมใหม่โดยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (WACC ที่ 9.4%) จึงอยู่ที่ 4.0 บาทต่อหุ้น ที่ราคาหุ้น 3.54 บาท มี PER ปี 2550 ซื้อขายอยู่ที่ 13.1 เท่า และมีส่วนต่างจากราคาเหมาะสมอยู่ 13% ฝ่ายวิจัยจึงคงคำแนะนำเดิมที่ ?ซื้อลงทุน?
ที่มา ทันหุ้น[/color:cb48cc3681">
|
