Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 22/03/2007 @ 10:55:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ถือ BAFS เป้าหมาย 11.20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเชีย จำกัด แนะนำ ถือ BAFS ปรับประมาณการกำไรปกติของ BAFS ปี 2550 และปี 2551 ลดลง 7% และ 6% จากคาดการณ์เดิมตามลำดับ เป็นผลจากการปรับสมมติฐานด้านอัตราแลกเปลี่ยนจาก 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสะท้อนผลกระทบจากการแข็งค่าเงินบาทต่อ BAFS โดยใช้หลัก Conservative ส่งผลให้คาดว่ากำไรปกติปี 2550 ของ BAFS จะอยู่ที่ประมาณ 466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน และคาดว่ากำไรปี 2551 จะอยู่ที่ประมาณ 476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ระยะสั้น BAFS จะถูกกระทบจากต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะสูงขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองที่จะเปิดใช้อีกครั้งหนึ่ง และโดยเฉพาะจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าต่อเนื่อง แต่ในระยะยาว คาดว่า BAFS จะสามารถทำกำไรเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นได้หลังจากดำเนินงานได้เต็มที่ทั้งสองสนามบิน ดังนั้น จึงแนะนำ ?ถือ? เพื่อลงทุนระยะยาว โดยให้ราคาเป้าหมายจากวิธี DCF ที่ 11.20 บาท
ซื้อ TTA เป้าหมาย 40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ TTA จากดัชนีค่าระวางที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 5,172 จุด หรือเพิ่มขึ้น 17.6% นับจากสิ้นปี 2549 ซึ่งจะส่งผลดีต่อค่าระวางเฉลี่ยของ TTA ในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากมีสัดส่วนเรือเช่าเหมาเที่ยวอยู่ราว 34% ดังนั้นจึงปรับสมมติฐานค่าระวางเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 12,780 เหรียญ/วัน จากก่อนหน้านี้ที่ 11,250 เหรียญ/วัน หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2549 ด้านค่าใช้จ่ายในการเดินเรือจะได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ดี ประมาณการค่าใช้จ่ายปีนี้ให้ทรงตัวเท่ากับปีก่อนที่ 4,177 เหรียญต่อวัน แม้บริษัทจะไม่ออกหุ้นกู้ แต่ยังคงมีฐานะการเงินดีมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิที่ 0.3 เท่า คาดว่าบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ถึง 10.7 บาทต่อหุ้น อีกทั้งความต้องการใช้เงินจากการสั่งต่อเรือใหม่ไม่มากนักเพราะเป็นการทยอยจ่ายชำระ ปรับมูลค่าเหมาะสมขึ้นเป็น 40 บาท ยังคงแนะนำ ?ซื้อ?
ซื้อ SAT เป้าหมาย 15.5 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จัด แนะนำ ซื้อ SAT แม้โครงการ Financial Highlights Module ที่ ณ ปัจจุบันยังคงไม่มีจ้อสรุปจากทางญี่ปุ่นจะล่าช้าออกไปแลจัดเป็นความเสี่ยงของบริษัท แต่เรายังคงคำแนะนำให้ "ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 15.5 บ.ด้วยเหตุผลหลัก 2 ประการ คือ 1) ราคาหุ้นในปัจจุบัน "ถูกมาก" เห็นได้จากราคาปัจจุบันที่ซื้อขายกันที่ PE เพียง 6.39 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 9.86 เท่าและยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของฝ่ายวิจัยโดยยังมี Upside และ Total return สูงถึง55.0% และ 59.7% ตามลำดับ ขณะที่ 2) โครงการ Module ยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเรา นั่นหมายความว่าหากผลออกมาในเชิงลบก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ตรงกันข้ามหากผลออกมาในเชิงบวกถือได้ว่าเป็น "มูลค่าเพิ่ม" ที่สำคัญ อย่างไรก็ดีทางบริษัทยังคงมั่นใจสูงว่าจะชนะ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของ SAT ทั้ง SAT เองยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของราคาขายและสินค้าที่หลากหลายมากกว่า
ถือ ITD เป้าหมาย 5.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ ถือ ITD พิจารณาจากสถานการณ์มูลค่างานในประเทศที่มีไม่เพียงพอในปัจจุบัน งานจากต่างประเทศอาจช่วยเป็นตัวสำรองได้บางส่วน อย่างไรก็ดี เชื่อว่างานต่างประเทศไม่สามารถเป็นแรงผลักดันหลักให้มีการเติบโตของมูลค่างานในมือได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ในกรณีของ ITD แม้ว่าจะมีมูลค่างานในมือจากต่างประเทศสูงที่สุดกว่า 25% ในอินเดีย ไต้หวัน และตะวันออกกลาง คาดว่าบริษัทอาจจะยังไม่สามารถสร้างการขยายตัวของมูลค่างานในมือที่ดีได้ในปีนี้ เนื่องจาก 50% ของโครงการบ้านเอื้ออาทรถูกพักการก่อสร้างคาดว่า ITD จะไม่สามารถรายงานผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญได้อย่างน้อยจนครึ่งหลังของปี 2550 เนื่องจากผลขาดทุนที่เกิดในปีก่อนหน้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นในครึ่งหลังของปี 2549 นอกจากนี้คาดว่ารายรับของ ITD ที่บันทึกจากโครงการบ้านเอื้ออาทรจะลดลง ดังนั้นปรับลดรายรับปี 2550-2551 ลงปีละ 14% เหลือ 44 พันล้านบาทและ 51 พันล้านบาทตามลำดับ ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2550-2551 ลดเหลือ 846 ล้านบาทและ 1.2 พันล้านบาทลดลง 34% และ 40% แนะนำ ?ถือ? โดยปรับราคาเป้าหมายเหลือ 5.4 บาท
[/size:b2f76cafd0">
|
