April 29, 2024   6:18:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น 26/3
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 26/03/2007 @ 07:48:00
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*ช่วงนี้ไม่มีข่าวคราวชิ้นไหนน่าสนใจมากกว่าการเพิ่มทุนของหุ้นซอมบี้ทั้งหลายแหล่เพราะไปๆ มาๆ ก็เป็นแค่เกมปั่นราคาหุ้นเพื่อดึงเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเหมือนเช่นที่ผ่านมา ขณะที่ตัวบริษัทไม่มีพัฒนาการอะไรที่ดีขึ้นเลย "โมนิก้า" คิดว่าเอารัดเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยมากเกินไปหน่อยนะค่ะ

*เนื่องจากเห็นกันจะๆ ว่าบริษัทเหล่านั้นแทบเหลือแต่ซากกระดูก แต่ดันมาเร่ขายแบบหน้าไม่อาย "โมนิก้า" ถึงไม่ชอบใจอย่างแรง และขอแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงซื้อหุ้นเพิ่มทุนอย่างฉับพลัน เพราะการเพิ่มทุนดังกล่าวไม่ได้ทำให้ปัจัยพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

*เดี๊ยนอยู่ในวงการนี้มานานมีหรือจะไม่รู้เล่ห์กลตื้นๆ และขอท่านเหล่านั้นจำของดิฉันให้ขึ้นใจว่า คนเล่นเกมหุ้นอาจสับเปลี่ยนหน้าตากันตลอด แต่เกมราคาหุ้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง"โมนิก้า" ถึงรู้เช่นเห็นชาติว่าแต่ละรายสันหลังหวะมากน้อยขนาดไหน...เพียงแต่ตอนนี้ไม่อยากขุดคุ้ยลงไปลึกกว่านี้ เพราะต้องการให้คนเหล่านั้นกลับตัวกลับใจนั่นเอง

*อีกทั้งภาวะการลงทุนช่วงนี้มีแต่ปัจจัยลบรุมล้อมเต็มตลาดหุ้นมากมาย "โมนิก้า"เลยไม่เป็นคนอยากทำลายบรรยากาศการลงทุนให้เลวร้ายไปกว่านี้ เพราะเท่าที่เห็นพวกสันหลังหวะลอยหน้าลอยตาไปวันๆ ก็เอือมระอาเต็มประดา และอยากอยู่เฉยๆ มากกว่าจะไปหาข้อมูลมาแฉเจ้าค่ะ

*กระนั้น! ก็อย่าหลงระเริง และทำอะไรไม่เข้าท่าอีกเป็นอันขาด เพราะเดี๊ยนจับตากลุ่มผู้บริหารสีเทาทุกฝีเก้านะจะบอกให้

*สำหรับสาเหตุที่ทำให้ บจ.เหล่านั้ยังกล้าเดินหน้าเพิ่มทุนไม่จักหยุดหย่อน เพราะมีที่ปรึกษาทางการเงินดี ก็เลยทำให้ที่ปรึกษาทางการเงินตกเป็นเป้าตรวจสอบอย่างหนักว่า รายไหนชอบทำดีลเน่าๆ เช่นเคย...แต่ขอโทษทีจ๊ะ ที่ปรึกษาทางการเงินน่ะ มันเป็นแผนกหนึ่งของ บล.และสถาบันการเงินเขามิใช่หรือ...แล้วเขาจะมาบอกว่าดีลที่ทำอยู่นั้นไม่ดีได้อย่างไรกัน...โปรดฟังอีกครั้ง

*ขณะที่หน่วยงานตรวจสอบทำได้แค่ขอสอบถามข้อมูลไปวันๆ อย่างนี้ เหมือนเป็นการแก้ปัญหาปั่นหุ้นแบบพายเรือวนในอ่างค่ะ....ภาษาฝรั่างเขาเขียนกันว่า walking on theroad to labyrinth...หรือเดินเข้าไปในเขาวงกต....ก็เข้าล็อคขาปั่นอย่างเดียวค่ะ...และหาคนผิดไม่ได้ในท้ายที่สุด...ส่งผลให้ขาปั่นยังปั่นกันต่อไป แต่กรุณาหาตัวใหม่ๆบ้างก็แล้วกัน เพราะในกอไผ่ ไม่มีอะไรนอกจากใบไผ่เจ้าค่ะ

* "โมนิก้า"ไม่เข้าใจว่าข่าวการควบรวมกิจการของ ATC -RRC ก็สรุปเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไม ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ถึงออกมาปฏิเสธว่า ยังต้องรออีก 1-2 เดือน ถึงจะรู้ หรือว่ามีปัญหาอะไรภายในหรือเปล่าคะ เพราะเท่าที่เดี๊ยนรู้มา บทสรุปนั้นออกมาเรียบร้อยแล้ว

*จริงๆ แล้วดีลนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทั้งนั้น การรีบรวมน่าจะดีทั้งสองฝ่าย จะติดก็เพียงแต่เรื่องของภาษี งานนี้ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไรนะคะเพราะตอนนี้นักลงทุนก็รอให้ทั้งคู่สมหวังกัน อย่างไงก็ขอเอาใจช่วยคะ ราคาหุ้น ATCปิดที่43.50 บาท ส่วน RRC ปิดที่ 18.50 บาท คะ

*ในที่สุดปัญหาที่หุ้น EVER ร่วงลงมาต่ำกว่า 2 บาท ก็คงเป็นเพราะวงในรู้ว่าจะมีการเพิ่มทุนก่อนหรือเปล่าคะ จึงทำให้หุ้นร่วงลงมาก่อนหน้านี้ ตอนแรกเดี๊ยนสงสัยว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนทิ้งออกมาเองหรือเปล่า แต่พอมาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่า เป็นใครๆก็ทิ้ง เพราะเพิ่มทุน 1:1 ที่ราคา 1 บาท แบบนี้ ราคาหุ้นลงได้ต่ำกว่านี้อีกเป็นกองแน่คะ

*การเพิ่มทุนของ EVER ครั้งนี้ คงทำให้นักลงทุนรายย่อยต้องเจ็บตัวไปตามๆกันเลยโดยเฉพาะคนที่มีต้นทุนสูงกว่า 5 บาท อย่ามองว่าเวอร์นะคะ เพราะมีบางคนติดอยู่สูงกว่า 10 บาทก็ยังมีอยู่เลยคะ อย่าหัวเราะไป เพราะมีคนโทรเข้ามาบ่นกะ "โมนิก้า" หลายรายเหมือนกันคะ งานนี้ไม่รู้กลุ่มผู้บริหารคิดอย่างไร ถึงได้เพิ่มทุนราคาต่ำขนาดนี้ ราคาหุ้นปิดที่1.50 บาท

*ด้าน DE ของเสี่ยกมล เอี้ยวศิวิกูล ตอนนี้ก็เริ่มที่จะไปสู่ทิศทางที่ดี หลังจากที่หาธุรกิจป้ายโฆษณาเข้ามาแทนที่ธุรกิจเดิมได้แล้ว ถ้าให้มองการดันธุรกิจนี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มของDE ถือเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะลูกค้าไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าเลย เนื่องจากเสี่ยกมล มีธุรกิจหลายอย่าง ที่สามารถเป็นลูกค้าของการโฆษณาแบบ outdoor ได้คะ หาธุรกิจที่เอื้อประโยชน์กันแบบนี้ รับรองเงินทองไม่รั่วไหลเจ้าคะ ราคาหุ้นปิดที่ 0.79 บาท

*หวังว่าคงไม่ช้าไปนะคะ เกี่ยวกับเรื่องของ บมจ.ธนสินประกันภัย ที่ "โมนิก้า"กะจะเขียนตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่มีพื้นที่ว่างพอ จึงทำให้ต้องยกยอดมาวันนี้ โดยเฉพาะช่วงที่ธนสินฯ มีปัญหาที่อาจถูกกรมประกันภัยปิด เพราะสถานะกองทุนของบริษัทมีปัญหา รวมถึงหนี้สิ้นต่างๆ ที่มีอยู่อีกบานเบอะ เบ็ดเสร็จแล้วต้องมีเงินเพิ่มทุนใหม่ใส่เข้ามาไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท

*แต่ยังไม่ทันจะถึงเส้นตายที่จะต้องมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาช่วยก่อนที่จะถูกปิดในวันที่ 30มีนาคม 2550 ก็มีบุคคลนามว่า มานิตย์ ปัญโญ เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจากนายสมชาย ตั้งประสิทธิโชค จำนวน 7.4 % ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า "มานิตย์" เป็นใครกันแน่

*เท่าที่ "โมนิก้า"รู้มาจากวงในว่า "มานิตย์" คนนี้คงไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนขับรถของเสี่ยพระอาทิตย์ ที่เป็นเจ้าของตัวจริงของบมจ.ธนสินฯ หรือถ้าเรียกให้อินเทรนด์ก็ต้องใช้คำว่า "นอมินี" คนขับรถคนนี้เป็นคนเก่าคนแก่ที่รับใช้บ้านเสี่ยพระอาทิตย์มานานแล้ว

*เห็นแบบนี้แล้วแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เฉพาะคนใช้ หรือคนรถ บ้านจันทร์ส่องหล้าของเสี่ยแม้วคนเดียวที่รวยเป็นร้อยล้านแล้วกระมังคะ เพราะคนขับรถบ้านเสี่ยพระอาทิตย์รายนี้ก็รวยไม่ใช่เล่นเหมือนกัน เพราะสามารถหาเงิน 30 ล้านบาท มาซื้อหุ้นบมจ.ธนสินฯได้ในชั่วพริบตาคะ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com