April 29, 2024   7:00:31 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 26/03/2007 @ 10:15:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.ซิกโก้แนะนำซื้อ CITYราคาเป้าหมาย 2.33 บาทจากผลของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว รวมถึงคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้ามีน้อยกว่าที่ คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทตัดสินใจเลื่อนการเปิดดำเนินการโรงงานใหม่ ของบริษัทมาร์คเวิลด์ไวด์ จำกัด ที่มีกำลังการผลิต 9,000 ตัน/ปี ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน เม.ย. 50 นี้ ออกไป เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 3ของทุกปี จะเป็นชวง Low Seasonเพราะมี วันหยุดยาวค่อนข้างมากซึ่งเรามองว่าการเลื่อนการเปิดดาเนินการดังกล่าวถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทตอนนี้ เพราะหากบริษัทเริ่มการผลิตดังกล่าวในช่วงที่คำสั่งซื้อสินค้ายังชะลอตัว จะทำให้บริษัทไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี มีอายุ 3 ปี โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่บริษัทเริ่มทำการผลิต อย่างไรก็ดีเราคาดว่าบริษัทจะเปิดดำเนินการผลิตโรงงานใหม่ ในเดือน ส.ค. 50 (เริ่มรอบบัญชีใหม่ของบริษัท) เพราะภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น เราทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทใน FY07E ลง 17.1% จากประมาณการเดิม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเลื่อนการเปิดดำเนินการโรงงานใหม่ดังกล่าว ทำให้ แนวโน้มรายได้ในปี นี้ ทรงตัวจากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นเพียง1.4% YoY เนื่องจากมี ข้อจำกัดในเรื่องของอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ค่อนข้างเต็มประสิทธิภาพแล้ว และเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิหลังปรับประมาณการที่ 116 ลบ.ลดลง 8.4% YoY

บล.บีทีแนะนำซื้อ UMSราคาเป้าหมาย 22.30 บาทเรามองแนวโน้มการเติบโตของ UMS ค่อนข้างสดใส เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งจูงใจให้ลูกค้าของบริษัทหันมาใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเตาเพื่อลดต้นทุนการผลิตมากขึ้นนอกจากนี้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็ช่วยให้ต้นทุนการนำเข้าถ่านหินของบริษัทถูกลง ในขณะที่บริษัทขายสินค้าในรูปเงินบาท ทำให้มีแนวโน้มที่อัตรากำไรขั้นต้นปี 07 ของบริษัทจะสูงขึ้นซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานปี 07 มีการเติบโตที่ดี ในปี 07 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนลูกค้าเพิ่มเป็น 200 ราย จาก 170 รายในปี 06 โดยบริษัทมีโครงการที่จะผลิตถ่านหินชนิดใหม่Briqutte ซึ่งจะช่วยให้ UMS มีชนิดของถ่านหินที่จะขายให้กับลูกค้าหลากหลายมากขึ้นโดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในเดือน มี.ค.ปีนี้ เราประเมินแนวโน้มรายได้ปี 07 ของ UMSน่าจะเติบโต 25% yoy มาอยู่ที่ระดับ 1,716 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 195.5ล้านบาท เติบโตประมาณ 14% yoy กราฟราคาหุ้นUMS รายได้และกำไรสุทธิ บริษัทประกาศแตกพาร์จาก เดิม 1 บาทต่อหุ้น ไปเป็น 0.50 บาท ต่อหุ้น ส่งผลให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 70 ล้านหุ้นกลายมาเป็น 140 ล้านหุ้น และบริษัทได้เพิ่มทุนโดยออก Warrantฟรี ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 Warrant อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 Warrant ต่อ 1 หุ้นสามัญ โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 8.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากก.ล.ต. เพื่อจะได้กำหนดวัน XW โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนในอนาคต

บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ HMPROราคาเป้าหมาย 6.00 บาทHMPRO ได้เตรียมพื้นที่สำหรับเปิดสาขา 4-5 แห่งแล้วในปีนี้ แบ่งเป็น 2 สาขาในกรุงเทพฯ(เพชรเกษมและรามอินทรา) และ 2-3 สาขาในต่างจังหวัด (ชลบุรี และคาดว่าจะเป็นที่พัทยาและระยอง) โดยในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขารวม 30 แห่งด้วยพื้นที่ขาย 204,000 ตรม.แม้การขยายสาขาในอนาคตอาจถูกจำกัดภายใต้ พ.ร.บ. ค้าปลีก ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่เราเชื่อว่าบริษัทจะยังสามารถเติบโตอย่างมีเสถียรภาพเนื่องจากการเป็นผู้นำในตลาดซึ่งมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูง ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ก็ทำได้ยากขึ้น (High barrier of entry) โดยปัจจัยผลักดันการเติบโตของHMPRO จะมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิมและรายได้จากค่าเช่าและงาน Expoสำหรับ HomeWorks (ของกลุ่มเซ็นทรัลฯ) ซึ่งนับเป็นคู่แข่งโดยตรงมีสาขา 8 แห่ง (เป็นสาขาขนาดเล็ก 2 แห่ง) มียอดขายได้ไม่ถึง 2 พันล้านบาทในปีก่อน เทียบกับ HMPRO ที่มียอดขาย 14.2 พันล้านบาทเราได้ปรับประมาณการเล็กน้อยเพื่อสะท้อนถึงการลงทุนปีนี้ที่สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ โดยเม็ดเงินลงทุน 3,200 ล้านบาทจะนำมาจากกระแสเงินสดภายในกิจการ การกู้ยืมและ/หรือออกหุ้นกู้ โดยเราคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะเพิ่มขึ้นจาก 0.6 เท่าในปี 2549 มาเป็น 1.0 เท่า และหลังปรับประมาณการแล้วคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 720 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน

บล.เคจีไอแนะนำซื้อ กลุ่มสื่อสารราคาเป้าหมาย 18.00 บาทแม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะตกต่ำ อุตสาหกรรมภาพยนต์ดูเหมือนจะสามารถฝ่าฟันมรสุมนี้ได้ด้วยดี อย่างที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ผลกระทบของเหตุระเบิดในวันก่อนสิ้นปีมีผลกระทบต่อรายรับจากการขายบัตรชมภาพยนต์ในประเทศเพียงในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าตลาดได้ปรับตัวขึ้นรับข่าวดีด้านรายรับดังกล่าวของ MAJOR ไปเรียบร้อยแล้ว เราเชื่อว่ารายรับที่ดียังไม่ใช่ปัจจัยบวกสำคัญที่จะผลักดันราคาหุ้นของ MAJOR ในระยะสั้นและเห็นว่าเนื่องจากปกติรายรับจะพุ่งขึ้นสูงในไตรมาส 2 เป็นปกติอยู่แล้ว รายรับของ Major จะพุ่งสู่จุดสูงสุดในไตรมาสดังกล่าวและค่อย ๆ ลดต่ำลงหลังจากนั้น ราคาเป้าหมายสำหรับ MAJOR ของเราจึงรวมเอาปัจจัยบวกด้านรายรับไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดีเราคาดว่าประมาณการรายรับเก่าของเราคงต่ำเกินไป เราเห็นว่าความมั่นใจของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นและรายการหนังที่อยู่ในความสนใจของผู้ชมในครึ่งหลังของปี 50 จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการรายรับในปี 2550 เราวางแผนปรับเพิ่มกำไร แต่เชื่อว่าแม้ประมาณการและราคาเป้าหมายจะถูกปรับเพิ่มขึ้นกลยุทธและคำแนะนำของเราจะยังคงเดิม กล่าวโดยสรุปเราเห็นว่ารายรับจากการขายบัตรชมภาพยนต์จะอยู่ในระดับสูงในครึ่งแรกของปี 50 จากรายการหนังที่อยู่ในความสนใจของผู้ชมในปีนี้ อย่างไรก็ดี เราเห็นว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมจะปรับตัวลดลงในครึ่งหลังของปี สำหรับ MAJOR เราเห็นว่าตลาดได้ปรับตัวขึ้นรับข่าวดีเรียบร้อยแล้วและหากไม่มีข่าวดีอื่น ๆ เพิ่ม รายรับที่สูงขึ้นดังกล่าวจะถูกรวมไว้ในราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:83730e67c2">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com