April 29, 2024   9:20:07 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 27/03/2007 @ 10:31:22
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2550 ปิดที่ดัชนี 679.04จุด +1.25จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,252 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,060.42 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 259.97ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 800.46 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ 680.87จุด +3.08 จุด และ Low ที่ 676.77 จุด -1.02 จุด
ดัชนีวานนี้เปิดทำการเช้าที่แดนบวกแล้วอ่อนตัวลงสู่แดนลบโดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ขึ้นลงไม่มาก
จากนั้นได้แรงซื้อหุ้นธนาคารเข้ามาดันดัชนีให้ขึ้นกลับสู่แดนบวกอีกครั้ง โดยที่นักลงทุนยังคงเลือกเก็งกำไรในหุ้นเล็ก ๆ กัน แต่ก็เริ่มเห็นมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบิ๊กแคปบ้างเหมือนกันซึ่งเป็นรายตัวที่กำลังจะขึ้นเครื่องหมาย

XD (รับปันผล) อย่าง หุ้น SCB-KBANK-RRC-PTTCH หลังตลาดเปิดทำการบ่ายตลาดยังเทรดกันแบบเงียบ ๆ
ไม่ค่อยต่างจากครึ่งวันเช้าเท่าไหร่ หุ้น (เล็ก) แรง ๆ ที่เคยวิ่งกันเต็มกระดานหมดแรงกันไปทีละตัว (แต่ถ้าหายไปชาร์ตแบ็ตฯกันก็ไม่ว่านะ รีบกลับมาโดยด่วนล่ะก่อนตลาดจะซบเซามากไปกว่านี้)เลยทำให้ตลาดดูเงียบ ๆ ไป ยังดีที่ครึ่งวันบ่าย KTECH-S2Y-KASET-PATKL-W1 เข้ามาวิ่งสี่คูณร้อยกันในกระดานไม่งั้นทั้งลูกค้าในห้องค้ากับมาร์เก็ตติ้งคงง่วงไปตามๆ กัน

BEC ราคาเปิด 22.30บาท ราคาปิด 22.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 95.90 ล้านบาท BEC
จะไม่ถูกกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม แม้ว่านโยบายบัญชีใหม่จะทำให้กำไรสะสมต้นปีของ BEC ติดลบ 1,570 ล้านบาท แต่ BECจะมีการโอนสำรองตามกฎหมาย 200 ล้านบาทและส่วนเกินมูลค่าหุ้น 2,536 ล้านบาทไปล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด ซึ่งสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2549 ที่ 0.40 บาท/หุ้น (รวมทั้งปี 0.75 บาท/หุ้น) อัตราการใช้เวลาโฆษณา ในช่วงละครหลังข่าวเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือนมีนาคมที่ 770 นาที/เดือน เทียบกับอัตราเฉลี่ยที่ 550 และ 650 นาที/เดือน ในปี 2548 และ 2549 ตามลำดับ
ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการใช้เวลาโฆษณาในเดือนเมษายนและพฤษภาคมจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง K.KRAZIPมีความเห็นเชิงบวกต่อ BECที่มีแนวโน้มเติบโตจากทั้งนาทีโฆษณาที่ขายได้เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นค่าโฆษณา
และBEC ได้รับประโยชน์จากความไม่แน่นอนของสถานี TITV และการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ MCOT ด้วย ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" แนวรับ 22 บาท แนวต้าน 23.50 บาท

ATC ราคาเปิด 43.75 บาท ราคาปิด 43.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 42.83 ล้านบาท คาดการณ์ผลประกอบการในQ 1/50 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% QoQ และเพิ่มขึ้น 536% YoY
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาเป็นปัจจัยบวกต่อส่วนต่างราคา มุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจ จากความต้องการที่ยังเติบต่ออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการลดการใช้ MTBE ในสหรัฐจะส่งผลดีต่อราคาผลิตภัณฑ์อโรเมติกส์ คาดว่าการควบรวมกิจการระหว่าง RRC กับ ATCจะเกิดขึ้นประมาณ ปลายปี 2550 ? ต้นปี 2551 ซึ่งจะทำให้ ATC ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากขาดทุนสะสมได้หมดหรือเหลือน้อยที่สุด และในกรณีเลวร้ายที่สุดหากเลือกวิธี Amalgamation และจะต้องทำให้ RRCไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มองว่าประโยชน์ที่ได้รับจากการควบรวมกิจการจะสร้างประโยชน์ให้กับภาพรวมของแต่ละบริษัทK.KRAZIP ขอแนะนำ "ซื้อลงทุน" แนวรับ 43.50 บาท แนวต้าน 45 บาท

GSTEEL ราคาเปิด 0.91 บาท ราคาปิด 0.92 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.82 ล้านบาท สำหรับทิศทางราคาเหล็กภายในประเทศนั้น ขณะนี้ถือว่ายังคงทรงตัว แต่ราคาเหล็กในตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มของการปรับตัวขึ้น
เนื่องจากค่าเงินบาทของไทยยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประเด็นนี้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ แต่กลับได้รับอานิสงส์ เนื่องจากบริษัทมีการสั่งซื้อวัตถุดิบบางอย่างเข้ามาทำให้บริษัทซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง
นอกจากนี้ บริษัทก็ยังมีจำนวนหนี้ที่เป็นเงินรูปของดอลลาร์ ถ้าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นอีกก็จะส่งผลทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลงเช่นกัน ส่วนแนวโน้มภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กในปีนี้ มองว่าอุตสาหกรรมเหล็กน่าจะยังมีทิศทางที่สดใส เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งถ้ามีโครงการเมกะโปรเจกต์เกิดขึ้นจริง เชื่อว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมจะมีอัตราการขยายตัวอยู่ในระดับสูง
เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มของอุปสงค์การใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนที่ยังมีสม่ำเสมอและวัตถุดิบที่นำมาผลิตเหล็กที่ปรับตัวขึ้นเป็นตัวหนุน นอกจากนี้ GSTEEL มีโรงหลอมเป็นของตนเอง ทำให้สามารถควบคุมความผันผวนของการใช้วัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ GSTEEL สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" แนวรับ 0.90 บาท แนวต้าน 1.20 บาท

TRUE ราคาเปิด5.80 บาท ราคาปิด5.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 75.186 ล้านบาท จากการที่ TRUEเปิดเผยว่า โครงการ Academy Fantasia 4 ใช้งบลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีเพราะว่ามีประชาชนที่สนใจในการสมัคและยังมีข่าวออกมาทำให้สร้างกระแสความต้องการดูรายการนี้มากขึ้นและรายการนี้เป็นรายการที่ทำกำไรให้กับTRUE เป็นอย่างมากและทาง TRUEได้เผยว่า มั่นใจว่าผู้สนับสนุนรายการ จะให้การสนับสนุนโครงการ Academy Fantasia 4 เป็นอย่างดี
หลังจากโครงการที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในทิศทางที่ดี รวมทั้งประชาชนยังให้การยอมรับเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะรายการดังกล่าวได้ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีเพราะประชาชนสามารถดูได้ฟรีโดยไม่ต้องติดตั้งจานดาวเทียมและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยประเด็นนี้บริษัทน่าจะได้อานิสงค์และน่าจะทำให้บริษัทมีผู้สนับสนุนเพิ่มมากขึ้นและบริษัทเปิดเผยว่าฐานลูกค้าที่ใช้บริการมือถือคาดว่าจะมียอดใช้บริการดีกว่าปีที่แล้วเป็นอย่างมากเนื่องจากที่บริษัทมีแผนที่จะมีการขยายบริการไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น และ ทางด้านนักวิเคราะห์ของเลห์แมนบราเธอร์ให้คำแนะนำ ว่าในระยะเวลา12เดือนให้ราคาเป้าหมายTRUEที่ 8.20บาท ทำให้หุ้นของTRUE
คึกคักขึ้นมา ดังนั้น K.KRAZIA แนะนำ "ซื้อ"แนวรับ5.60 บาท แนวต้าน 5.90 บาท

ที่มา ทันหุ้น[/color:9a559a8a71">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com