April 29, 2024   3:37:28 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น มาแต่เช้าค่ะ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 28/03/2007 @ 07:30:12
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เคจีไอแนะนำขาย AOTราคาเป้าหมาย 57.0 บาทสนามบินนานาชาติกรุงเทพเปิดขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อวานนี้ และมีชื่อเป็นทางการใหม่ว่าสนามบินดอนเมือง (DMK) โดย 6 เดือนแรกของการเริ่มดำเนินการจะเป็นเที่ยวบินภายในประเทศแบบจุดต่อจุด จากนั้น AOT จะพิจารณาว่าจะใช้ดอนเมืองเป็นสนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งหรือไม่ จนถึงวันนี้ มีเพียง 3 สายการบิประกอบด้วย การบินไทย นกแอร์และวันทูโก ที่เปิดดำเนินการเที่ยวบินในประเทศที่ดอนเมือง ใน 5 เดือนที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดดำเนินการ ดอนเมืองแสดงผลขาดทุนต่อเนื่อง จากการตัดค่าเสื่อมจำนวน 83 ล้านบาททุก ๆ เดือนโดยที่แทบจะไม่มีรายได้ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานของดอนเมืองจะเกิดขึ้นได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า และหาก AOT เริ่มเปิดเที่ยวบินนานาชาติที่ดอนเมืองใน 6เดือนข้างหน้า ดอนเมืองอาจสามารถทำกำไรได้ภายใน 1 ปี ดูเหมือนว่าตลาดจะมองการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองใหม่ในทางบวก เนื่องจากการเปิดใช้ดอนเมืองเป็นการใช้ทรัพย์สินของ AOT ให้เป็ประโยชน์ อย่างไรก็ดี การบริหารสนามบินสองแห่งพร้อมกัน ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารคงเดิมทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมของ AOT เพิ่มขึ้นในระยะสั้นโดยรายรับไม่เพิ่มตาม เราเชื่อว่าเหตุผลที่แท้จริงในการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองอย่างเร่งด่วนไม่ใช่ เพื่อการประหยัดเงินลงทุนรวม แต่เป็นความพยามยามที่จะลดความแออัดที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้สะดวกต่อการซ่อมแซม ยิ่งไปกว่านั้นปัญหายือเยื้อที่ทางวิ่งและทางขับของสนามบินสุวรรณภูมิ และจำนวนค่าชดเชยมลภาวะทางเสียงยังคงอยู่ แม้ว่าเราจะเห็นด้วยกับตลาดว่าการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองใหม่อีกครั้งจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับ AOT เราเชื่อว่าข่าวดีนี้ได้รับการตอบสนองจากตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ปัญหายืดเยื้อต่างๆ ยังคงอยู่


บล.เอเซีย พลัสแนะนำซื้อ SIRIราคาเป้าหมาย 3.77 บาทจากต้นปี 2550 จนถึง 6 มี.ค.2550 SIRI มี Presale ใหม่เกิดขึ้น 1.25 พันล้านบาทและเชื่อว่าจนถึงสิ้นงวด 1Q50 น่าจะเห็นการปรับขึ้นของ Presale ในระดับที่มีนัยสำคัญเนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 460 ยูนิต มูลค่า 3,030 ล้านบาท จากโครงการSIRI at Sukhumvit ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 30-31 มี.ค.2550 มีอัตราการจองซื้อเข้ามาเกือบเต็มก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนกำหนดการเปิดตัวพนักงานขายได้มีการติดต่อลูกค้าที่มีศักยภาพล่วงหน้าและเกิดยอดจองเข้ามา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทยอยเรียกชำระเงินจากผู้ที่จองซื้อเข้ามา หากดำเนินการได้ทัน น่าจะทำให้Presale ในงวด 1Q50 ปรับขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับสถานะของ SIRI วันที่ 6 มี.ค.2550 มียอด Presale ส่วนที่ยังไม่ถูกบันทึกเป็นรายได้คงค้าง 13,692 ล้านบาท แยกเป็นบ้านเดี่ยว 4,337 ล้านบาท, ทาวเฮ้าส์ 2,590 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม 6,765ล้านบาท และหากรวมยอดในโครงการ SIRI at Sukhumvit เข้าไปก็น่าจะทำให้Presale ที่ยังไม่บันทึกรายได้ขยับขึ้นไปเป็นกว่า 16,000 ล้านบาทการประกาศเพิ่มทุนของSIRI ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อ EPS ในปี 2550 การเลือนกำหนดการขายหุ้นออกไป จึงน่าจะถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ EPS เนื่องจากทำให้ Dilution Effect ลดความรุนแรงลงไปตามสมมุติฐานที่ใช้ในการจัดทำประมาณการ ฝ่ายวิจัยกำหนดให้การขายหุ้นเพิ่มทุนเกิดขึ้นสิ้นเดือน มิ.ย.2550 ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ คาดว่ามีโอกาสที่จะเลื่อนออกไปได้อีกภายใต้สมมุติฐานดังกล่าวคาดว่า SIRI จะมี EPS ที่ระดับ 0.37 บาท เพิ่มขึ้น 36% YoY


บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ KCEราคาเป้าหมาย 3.07 บาทถึงแม้ว่าราคาหุ้น KCE ปรับตัวลดลง 16% หลังประกาศแผนเพิ่มทุน โดยทุนจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 57% เป็น 317.93 ล้านบาท (317.93 ล้านหุ้น) เป็น 500 ล้านบาท โดย 151.47 ล้านหุ้นจะจัดสรรสำหรับผู้ถือหุ้นเดิม (Right offering, จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่3 เม.ย.) ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 1 บาท/หุ้น นอกจากนี้ เป็นการเพิ่มทุน 3 ล้านหุ้นสำหรับ ESOP และ 21.1 ล้านหุ้นสำหรับประชาชนทั่วไปหรือนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (ยังไม่สรุป)ประกอบกับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอีกล่าสุดนี้ มีแนวโน้มส่งแรงกดดันต่ออัตรากำไรเกินกว่าที่เรามองไว้ โดยกำไรไตรมาส 1/50 มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (ซึ่งมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท) ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ (ก่อนแผนเพิ่มทุน) ลง 26% เป็น 159 ล้านบาทหรือ 0.50 บาท/หุ้น ทั้งนี้ เราได้ปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนจาก 36 บาทเป็น 35 บาท/US$ อีกทั้งปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจาก 19.4% เป็น 18.4%เราคาดว่าบริษัทจะนำเงินที่ระดมได้ส่วนใหญ่ไปลดภาระหนี้โดยเราประมาณการว่าอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนจะลดจาก 2.5 เท่าในปีที่แล้วเป็น 2.0 เท่าในปีนี้ จากการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้บางส่วน เราประมาณการกำไรปีนี้ที่ 169 ล้านบาทหรือ 0.34 บาท/หุ้น (fully diluted) การปรับประมาณการดังกล่าวทำให้คำแนะนำของเราถูกปรับลงจาก ซื้อ เป็น เต็มมูลค่า โดยเรามองว่าหุ้น KCE จะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งต่อเมื่อราคาปรับตัวลงไปที่ระดับ 20% ต่ำกว่าราคาเหมาะสมของเรา (เข้าสะสมที่ราคา2.56 บาทก่อน XR และ 1.98 บาทหลัง XR) หรือบริษัทสามารถเจรจากับลูกค้าขอปรับเพิ่มราคาสินค้าได้อีกครั้งซึ่งยังไม่น่าทำได้ในช่วงครึ่งปีแรกนี้


บล.ธนชาตแนะนำซื้อ PTTราคาเป้าหมาย 265.00 บาทPTT ทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารออมสินจำนวน 6 พันล้านบาท ระยะเวลา 10ปี อิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัวบวก spread เล็กน้อย การกู้เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระดมทุนในช่วง 5 ปี (2006-2010) จำนวน 50 พันล้านบาทเพื่อre-finance เงินกู้เดิม และเพื่อการลงทุนในโครงการใหม่ๆ โดย PTT ได้ออก และจำหน่ายหุ้นกู้ มูลค่า 29 พันล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา และเป็นที่น่าสังเกตว่าราว 40% ของเงินกู้ของ PTT ซึ่งเป็นบริษัทแม่ หรือราว 70 พันล้านบาทเป็นหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระภายใน 5 ปีข้างหน้า PTT ต้องการรักษาเงินกู้ที่เหลือไว้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างสมดุลกับโครงสร้างรายได้ และแม้ว่ามาตรการสำรองเงินตรา 30% จะทำให้แผนการระดมทุนล่าช้าออกไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะกระทบต่อบริษัทฯ มากนักเนื่องจากเงินกู้ส่วนใหญ่ที่จะถึงกำหนดชำระ (ราว 51 พันล้านบาท) จะครบกำหนดในปี 2009-11 ในขณะที่บริษัทแม่ คือ PTT ก็มี EBITDA เกิน 65 พันล้านบาทต่อปีจึงยังเพียงพอสำหรับใช้ในโครงการลงทุนต่างๆ ข่าวการทำสัญญาเงินกู้จำนวน 6 พันล้านบาทจะทำให้หนี้สินในงบการเงินรวมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันราว 3% และสัดส่วนหนี้สิน (สุทธิ)/ทุน(net gearing)จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือจาก 48% ณ สิ้นปีที่ผ่านมา เป็น 50%TNS ยังแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 265 บาท ซึ่งน่าจะมี upside จากราคาปัจจุบันราว 22% ในขณะที่ P/E ที่ 6.9 เท่าก็เป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาค ส่วน downsiderisk ก็น่าจะมีจำกัดเนื่องจากราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว ในขณะที่ผลตัดสินของศาลซึ่งกำลังใกล้เข้ามาน่าจะเป็นข่าวดีต่อบริษัทฯ และทำให้ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังจากถูกกดดันมานาน






[/color:80254a4df0">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com